Bloomberg ประเมินรับมือโควิด "ไทย" ร่วงอยู่กลุ่มท้ายตาราง

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ทำการจัดอันดับรายเดือนประเทศที่รับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีที่สุด ซึ่งในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทยถูกลดลงมาอีก 1 อันดับ ลงมาอยู่ที่ 42 จากทั้งหมด 53 ประเทศ/เขตแดนทั่วโลก แต่หากดูตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมาจะพบว่า อันดับความพร้อมในการรับมือโควิดของประเทศไทยร่วงลงอย่างต่อเนื่อง จากอันดับที่ 26 ลงมาอยู่ที่ 42 ในปัจจุบัน

ในการจัดอันดับการรับมือโควิด-19 บลูมเบิร์กได้นำเกณฑ์ต่างๆ มาพิจารณา เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อต่อประชากร 1 แสนคน ในรอบ 1 เดือน, จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดในรอบ 1 เดือน, สัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีน, ความเข้มข้นของมาตรการล็อกดาวน์ และ คาดการณ์จีดีพี เป็นต้น

 
สำหรับอันดับล่าสุดครั้งนี้ ประเทศที่น่าสนใจก็คือ "สิงคโปร์" เนื่องจากมีอันดับความพร้อมการรับมือโควิดพุ่งทะยานขึ้นถึง 17 อันดับ จนขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 9 เช่นเดียวกับ "สวีเดน" ที่พุ่งขึ้น 17 อันดับ ขึ้นไปอยู่อับดับที่ 5 โดยบลูมเบิร์กระบุว่า ทั้งสองประเทศนี้มีการผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทางลง ทำให้มีคะแนนเพิ่มในส่วนของการเตรียมพร้อมเส้นทางเดินทางสำหรับผู้ฉีดวัคซีน

 
ทั้งนี้ สิงคโปร์นับเป็นโมเดลต้นแบบสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด ตั้งแต่กลางปี 2021 เป็นต้นมา ภายใต้นโยบาย “อยู่กับโควิด เลิกล็อกดาวน์-เปิดเศรษฐกิจประเทศ” โดยค่อยๆ ทยอยเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนล่าสุดในเดือน เม.ย. มีการปรับแผนการเดินทางใหม่ โดยประกาศให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว ไม่ต้องตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางเข้าประเทศ และไม่ต้องตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ นอกจากนี้ รัฐบาลยังยกเลิกข้อจำกัดห้ามรวมตัวกันเกิน 10 คน การเว้นระยะห่าง 1 เมตร และอื่นๆ

ผู้ติดเชื้อใหม่ในไทยลดลงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แม้อันดับความพร้อมรับมือโควิดของประเทศไทยในการจัดอันดับของบลูมเบิร์กจะร่วงลง แต่รายงานข่าวในประเทศล่าสุดพบว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่ลดต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ยืนยันลดลงจากวันวานทะลุหลักหมื่นมาเหลือ 9,331 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,241 คน จากเรือนจำ 32 คน และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 58 คน ขณะที่ยอดตรวจ ATK เข้าข่าย ก็ลดลงอยู่ที่ 6,240 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 21,168 คน อยู่ระหว่างรักษา 129,068 คน อาการหนัก 1,751 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 824 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,271,815 คน มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,114,046 คน

การท่องเที่ยวเริ่มมีสัญญาณดี

ในวันแรกที่รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทย ด้วยการยกเลิกระบบ Test&Go ไม่มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้เป็นต้นไป พบว่า เริ่มมีสัญญาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมากขึ้น โดยข้อมูลวันที่ 1 พ.ค. มีเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 96 เที่ยวบิน และผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 16,868 คน ส่วนพรมแดนทางบกนั้น มีการเปิดด่านพรมแดนทางบก 17 จังหวัด ซึ่งพบว่ามีคนเดินทางหนาแน่นเฉพาะบางด่าน โดย “สะเดา-วังประจัน” คนไทย-มาเลย์พากันขนครอบครัวกลับเยี่ยมบ้าน ท่องเที่ยวฉลองเทศกาลวันฮารีรายอ แต่ส่วนใหญ่ยังเงียบเหงา โดยด่านพรมแดน สปป.ลาว และมาเลเซีย บางจุดยังไม่เปิดให้คนข้ามแดน และยังมีความสับสนกับเงื่อนไขใหม่
 

เอกชนชี้ต่างชาติเที่ยวไทยพุ่ง 2-3 หมื่นคนต่อวัน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลปลดล็อกการเดินทางเข้าประเทศ ผ่านการยกเลิกเทสต์ แอนด์ โก และยกเลิกการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR เบื้องต้นเห็นบรรยากาศทยอยดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยต้องเพิ่มขึ้นดีกว่าเก่าแน่นอน แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป จากนี้คงต้องขอติดตามก่อนประมาณ 1 เดือน โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยประมาณ 8,000-12,000 คนต่อวัน แต่ในเดือนพฤษภาคมนี้ อาจเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000-30,000 คนต่อวัน และทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
 

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ยืนยันลดลงจากวันวานทะลุหลักหมื่นมาเหลือ 9,331 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,241 คน จากเรือนจำ 32 คน และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 58 คน ขณะที่ยอดตรวจ ATK เข้าข่าย ก็ลดลงอยู่ที่ 6,240 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 21,168 คน อยู่ระหว่างรักษา 129,068 คน อาการหนัก 1,751 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 824 คน

ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,271,815 คน มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,114,046 คน ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 1 พ.ค.2565 ยอดฉีดทั่วประเทศ 65,723 โดส เป็นเข็มที่ 1 : 8,012 คน เข็มที่ 2 : 18,098 คน เข็มที่ 3 ขึ้นไป : 39,613 คน จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (ตั้งแต่ 28 ก.พ.2564-1 พ.ค. 2565) รวม 133,642,466 โดส