ธุรกิจการตลาด

น้ำมันรั่ว กลางทะเลมาบตาพุด โรงกลั่น SPRC รับ รั่ว 25,000 ลิตร

26 ม.ค. 65
น้ำมันรั่ว  กลางทะเลมาบตาพุด โรงกลั่น SPRC รับ รั่ว 25,000 ลิตร

น้ำมันรั่ว กลางทะเลมาบตาพุด โรงกลั่น "สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง" รับเบื้องต้นรั่ว 25,000 ลิตร แต่มีแนวโน้มตัวเลขเพิ่ม เร่งแก้ปัญหาใช้สารเคมีควบคุมการแพร่กระจายลดผลกระทบ ระดมทีมตรวจสอบข้อมูลคาดอีก 1-2 วัน สรุปตัวเลขปริมาณน้ำมันรั่วได้ พร้อมระบุมีวงเงินประกัน 100 ล้านดอลลาร์ชดเชยความเสียหาย

 

น.ส.สุทธนุช กิตติพงษ์วิเศษ ผู้จัดการส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" เมื่อคืนนี้วานนี้(25 ม.ค.) บริษัทตรวจพบน้ำมันดิบรั่วไหลที่บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล(Single Point Mooring) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวนัออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร จากการสำรวจเบื้องต้นของทีมนักประดาน้ำกับทีมสำรวจโดยเฮลิคอปเตอร์ ขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำมันอยู่ในทะเลประมาณ 20 ตันหรือ 24,000-25,000 ลิตร โดยบริษัทเร่งพยายามใช้สารเคมีควบคุมเพื่อหยุดการแพร่ของน้ำมัน ทั้งนี้จากข้อมูลปัจจุบันมีโอกาสที่มีปริมาณน้ำมันรั่วมากกว่าตัวเลขดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 วันจึงสามารถสรุปตัวเลขปริมาณการรั่วของน้ำมันดิบที่รั่วออกมาจริง

 

สำหรับสาเหตุของการรั่วของน้ำมันดิบและมูลค่าความเสียที่เกิดในครั้งนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลซึ่งหากตรวจสอบแล้วเสร็จมีการแจ้งข้อมูลให้ทราบต่อไป ในส่วนของความเสียหายบริษัทมีการทำประกันครอบคลุมมาเสียหายไว้วงเงินรวม 100 ล้านดอลลาร์ หากมีการตรวจสอบแล้วพบมูลค่าความเสียหายตั้งแต่มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป บริษัทก็จะได้รับเงินชดเชยความเสียหายทั้งหมดแต่ไม่เกินวงเงินนรวม 100 ล้านดอลลาร์ แต่หากความเสียหายต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ลงมาบริษัทจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียเองทั้งหมดเป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ในสัญญาของการทำประกัยภัย

 

"ปริมาณน้ำมันที่รั่วออกมาจริงที่ออกมาจริงน่าจะใช้เวลาอีกราว 1-2 วันน่าเพื่อสำรวจและรวบรวมข้อมูลจึงจะมีผลสรุปออกมา ส่วนตัวเลขที่ที่ SPRC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าพบน้ำมันรั่ว 20 ตันหรือ 24,000-25,000 ลิตรเป็นตัวเลขที่บริษัทสำรวจเบื้องต้นของทีมงานที่สำรวจปริมาณน้ำมันที่ลอยอยู่เหนือน้ำทะเล ส่วนกรณีที่กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 ลิตร นั้นบริษัทยังต้องขอเวลาตรวจสอบข้อมูลก่อนซึ่งอาจมากว่านี้หรือน้อยกว่านี้ก็ได้" น.ส.สุทธนุช กล่าว

 

นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง(SPRC) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ขอเรียนให้ทราบว่าในวันที่ 25 ม.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.06 น. บริษัทตรวจพบน้ำมันดิบรั่วไหลที่บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล(Single Point Mooring) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวนัออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร จากการสำรวจขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำมันอยู่ในทะเลประมาณ 20 ตัน

 

สำหรับบริษัทฯ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวไดแก่ กองทัพเรือภาคที่ 1 ศูนย์เฝ้าระวงัและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC) ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว (EIC) Oil Spill Response Limited (OSRL) ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียงศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ศรชล. ภาค1 ทั้งนี้ บริษัทฯได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ซึ่งประกอบด้วยกำลังพล เรือ น้ำยาขจัดคราบน้ำมัน และอุปกรณ์เพื่อใช้ในการขจัดคราบน้ำมัน

 

อย่างไรดีขณะนี้โรงกลั่นน้ำมัน ของบริษัทฯ ยังสามารถดำเนินการกลั่นได้ตามปกติและบริษัทฯ คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงาน และยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งบริษทั ฯ มีประกันคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากทรัพย์สินและธุรกิจหยุดชะงัก ประกันการขนส่งสินค้าทางทะเลและประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลที่สาม จึงเรียนมาเพื่อทราบ และบริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าต่อไป

 

 

"วราวุธ" สั่ง ทช. และ คพ. ร่วมกับ ทร. ผวจ.ระยอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมน้ำมันรั่ว

 

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คพ. ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากหน่วยงาน สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อเวลา 00.10 น. ในวันที่ 26 มกราคม 2565 ว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 ลิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง จุดเกิดเหตุ คือ บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล (SPM) ซึ่งเกิดเหตุเมื่อ เวลา 21.06 น. ในวันที่ 25 มกราคม 2565 และจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง

 

เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้ และหลังจากที่เกิดเหตุทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินบริษัทได้ทำการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและได้ทำการหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย สามารถควบคุมและหยุดการรั่วไหลตั้งแต่เวลา 00.10 น. ของวันนี้

 

นายอรรถพล กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ได้รับทราบและมีข้อสั่งการให้หน่วยงานใน ทส. โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ คพ. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับกองทัพเรือ จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมน้ำมันจากการรั่วไหลและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีน้ำมันดิบไหลลงทะเลประมาณ 400,000 ลิตร คพ. ได้รับการประสานจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) จำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง

 

เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้ คพ. ได้สนับสนุนการใช้แบบจำลอง OilMap ทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล โดยผลของแบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่าไม่มีการควบคุมป้องกัน กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยาแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. ประมาณ 180,000 ลิตร ทั้งนี้ทางบริษัทจึงควรดำเนินการวางแผนในการจัดการคราบน้ำมันดังกล่าว และป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ อธิบดี ทช. พร้อม อธิบดี คพ. ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหน่วยงานตำรวจ ร่วมลงเรือไปติดตาม ณ พื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว

 

ทั้งนี้ผลการคาดการณ์ดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลม ความเร็วลม และกระแสน้ำ โดย คพ.จะประสานรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับค่าในแบบจำลองให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงต่อไป นายอรรถพล กล่าว

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT