ธุรกิจการตลาด

Samsung กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

30 เม.ย. 67
Samsung  กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

หลังจากเผชิญกับปี 2023 ที่ยากลำบาก Samsung Electronics กลับมาพลิกฟื้นอย่างน่าทึ่งในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยประกาศผลประกอบการที่แสดงให้เห็นถึงกำไรจากการดำเนินงานที่พุ่งสูงถึง 932.8%

Samsung กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

Samsung  กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

Samsung Electronics ได้รายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกพุ่งขึ้นถึง 932.8% เนื่องจากราคาชิปหน่วยความจำฟื้นตัวจากความต้องการใช้งานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังจากที่ในปี 2023 Samsung ประสบกับภาวะขาดทุนครั้งใหญ่เนื่องจากอุตสาหกรรมเผชิญกับความต้องการที่ตกต่ำหลังช่วงโควิด สำหรับผลประกอบการของ Samsung ในไตรมาสแรกเทียบกับประมาณการมีดังนี้

รายได้: 71.92 ล้านล้านวอนเกาหลี (ประมาณ $52.3 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับประมาณการ 71.04 ล้านล้านวอนเกาหลี
กำไรจากการดำเนินงาน: 6.61 ล้านล้านวอนเกาหลี เทียบกับประมาณการ 5.94 ล้านล้านวอนเกาหลี
รายได้ของ Samsung ในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 12.81% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานพุ่งขึ้น 932.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ตัวเลขเหล่านี้สอดคล้องกับที่บริษัทประมาณการไว้เมื่อต้นเดือน โดย Samsung คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส ม.ค.-มี.ค. น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.6 ล้านล้านวอนเกาหลี เพิ่มขึ้น 931% จากปีก่อนหน้า บริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาสแรกที่ 71 ล้านล้านวอน

"บริษัทมีรายได้รวม 71.92 ล้านล้านวอน จากยอดขายที่แข็งแกร่งของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง Galaxy S24 และราคาที่สูงขึ้นสำหรับเซมิคอนดักเตอร์หน่วยความจำ กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 6.61 ล้านล้านวอน ขณะที่ธุรกิจหน่วยความจำกลับมาทำกำไรโดยตอบสนองต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงได้" Samsung Electronics กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร

ยอดขาย Galaxy S24 ช่วยกระตุ้นผลประกอบการ

Samsung  กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

Samsung เผยว่ายอดขายที่แข็งแกร่งของสมาร์ทโฟนซีรีส์ล่าสุดอย่าง Galaxy S24 ได้ช่วยผลักดันรายได้และกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจมือถือ Samsung กล่าวด้วยว่าฟีเจอร์ AI ของ S24 เช่น Circle to Search, Photo Assist และ Live Translate ได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทเตือนว่าความต้องการและการจัดส่งสมาร์ทโฟนอาจลดลงในไตรมาสที่สองนี้ ทว่าตลาดสมาร์ทโฟนอาจจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีจาก "ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มมั่นคง การขยายตัวของผลิตภัณฑ์และบริการด้าน AI และการเติบโตทางเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่" Samsung ระบุว่าจะยังคงขยาย Galaxy AI ไปยังผลิตภัณฑ์เรือธงทั้งรุ่นเดิมและรุ่นใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตต่อไป

ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ทำกำไรได้แล้ว

Samsung  กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

Samsung เปิดเผยว่าธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของบริษัททำกำไรจากการดำเนินงานได้ถึง 1.91 ล้านล้านวอนเกาหลีในไตรมาสแรก ซึ่งถือว่าดีกว่ามากเมื่อเทียบกับการขาดทุน 4.58 ล้านล้านวอนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และการขาดทุนอีก 2.18 ล้านล้านวอนในไตรมาสที่สี่

“เราเชื่อว่าความประหลาดใจในเรื่องผลกำไรนี้เกิดจากราคาหน่วยความจำที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากวงจรขาขึ้นที่มาจากความต้องการด้าน AI ที่แข็งแกร่ง เราคาดว่าบริษัทจะมองเห็นแนวโน้มเชิงบวกของตลาดหน่วยความจำ และเน้นย้ำถึงความพร้อมในยุค AI ซึ่งรวมถึง HBM (12H HBM3E, HBM4) และโซลูชันด้านโรงหล่อ/บรรจุภัณฑ์” SK Kim จาก Daiwa Capital Markets กล่าวกับ CNBC ในวันจันทร์ ก่อนการประกาศผลประกอบการ

เนื่องจากโมเดล AI มีความซับซ้อนมากขึ้นและชุดข้อมูลมีขนาดใหญ่ขึ้น โมเดลเหล่านี้จึงจำเป็นต้องใช้ชิปหน่วยความจำที่มีความจุสูงขึ้นและความเร็วที่มากขึ้นเพื่อรองรับปริมาณงานเหล่านี้ โดย Kim กล่าวในรายงานเมื่อวันที่ 5 เมษายนว่า เขาคาดว่าจะมีการปรับขึ้นราคาชิปหน่วยความจำอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนผลประกอบการในไตรมาสที่สองของ Samsung เพราะได้รับแรงหนุนจากความรุ่งเรืองของ AI และแผ่นดินไหวในไต้หวัน

"เรามองว่าราคาน่าจะปรับขึ้นอีกอันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวในไต้หวัน" Kim กล่าว พร้อมเสริมว่าแผ่นดินไหวในช่วงต้นเดือนเมษายนส่งผลกระทบต่อการผลิตของ TSMC และ Micron ชั่วคราว และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้าน AI Samsung เผยว่าได้เริ่มผลิต HBM3E 8H และ V9 NAND ในปริมาณมากตั้งแต่เดือนเมษายน และวางแผนที่จะผลิต HBM3E 12H และผลิตภัณฑ์ 128GB ที่ใช้ DDR5 ขนาด 32GB บนพื้นฐานนาโนเมตรขนาด 1b ภายในไตรมาสที่สอง

แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคและความตึงเครียดทางการเมือง บริษัทยังคงคาดหวังว่าสภาพแวดล้อมการดำเนินงานจะ "ยังคงเป็นบวกพร้อมด้วยความต้องการ" โดยมี AI แบบ generative เป็นตัวผลักดัน ในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนี้ทาง Samsung ยังกล่าวอีกว่าการพัฒนากระบวนการ 3 นาโนเมตรและ 2 นาโนเมตรกำลัง "ดำเนินไปอย่างราบรื่น" Samsung เริ่มการผลิตชิปขนาด 3 นาโนเมตรจำนวนมากในปี 2022 และวางแผนที่จะเริ่มผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรจำนวนมากในปี 2025

Samsung คือผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ DRAM รายใหญ่ที่สุดของโลก

Samsung  กำไรไตรมาสแรกพุ่ง 933% จากความต้องการชิป และ Galaxy S24

นักวิเคราะห์ของ Citi มองว่าธุรกิจหน่วยความจำแฟลช NAND (NAND เป็นชิปหน่วยความจำหลักอีกตัวหนึ่งควบคู่ไปกับ DRAM) ของ Samsung น่าจะเติบโตขึ้นจากความต้องการด้านระบบ AI นอกจากนี้ Samsung ยังเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ dynamic random-access memory (DRAM) รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งพบได้ทั่วไปในอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคมากมาย รวมถึงสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์

ทาง Samsung คาดว่าไตรมาสที่สองจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการ AI แบบ generative ขณะที่ความต้องการมือถือยังคงทรงตัว และคาดว่าความต้องการ PC จะได้รับผลกระทบจากฤดูกาลที่ซบเซา ซึ่งอาจทำให​​้ลูกค้าปรับสินค้าคงคลังก่อนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ยอกจากนี้ ในการประกาศผลประกอบการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทได้เตือนถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในส่วนประกอบหลัก โดยเฉพาะหน่วยความจำ

"คาดว่ากำไรในไตรมาส 2 จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 และไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงที่เราเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงใหม่ในปีนี้ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ เราจึงมุ่งเน้นที่การแข่งขันด้านต้นทุนตลอดกระบวนการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการขาย เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มั่นคง” Samsung กล่าว พร้อมเสริมว่าจะยังคงสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงผ่านการขยาย Galaxy AI

การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น หลายประเทศทั่วโลกกำลังแข่งขันกันผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไบเดนได้ตกลงที่จะให้เงินสนับสนุนสูงถึง 6.4 พันล้านดอลลาร์แก่ Samsung เพื่อสร้างกำลังการผลิตใหม่สำหรับการผลิตชิปในรัฐเท็กซัส Micron และ TSMC ก็เตรียมรับเงินช่วยเหลือเพื่อเพิ่มการผลิตชิปในสหรัฐฯ หลังจากที่การผลิตชิปย้ายไปยังเอเชียมาหลายทศวรรษ ทำให้ Samsung และ TSMC จะต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก Rapidus Corporation ของญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มเติม 3.89 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรจำนวนมากตั้งแต่ปี 2027

ในอนาคต Samsung Electronics มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียตำแหน่งผู้นำให้กับคู่แข่งอย่าง SK Hynix ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม SK Hynix ประกาศว่าเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมที่ผลิต HBM3E ซึ่งเป็นชิปหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงรุ่นใหม่ที่ใช้ในชิปเซ็ต AI SK Hynix เป็นผู้จัดหาหลักของชิป HBM3 ให้กับชิปเซ็ต AI ของ Nvidia

Mehdi Hosseini นักวิเคราะห์ด้านฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีอาวุโสของ Susquehanna International Group ชี้ให้เห็นเมื่อต้นเดือนเมษายนว่า Samsung เคยเป็นผู้นำตลาดด้านนวัตกรรมหน่วยความจำ สมาร์ทโฟน และจอแสดงผล “ตอนนี้ Samsung ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของตลาดเท่านั้น” เขากล่าวเสริม ในไตรมาสแรก Samsung สามารถกลับมาเป็นผู้นำด้านการจัดส่งสมาร์ทโฟนได้อีกครั้ง หลังจากเสียตำแหน่งให้กับ Apple ในปี 2023 ตามข้อมูลของ International Data Corp.

ที่มา CNBC

advertisement

SPOTLIGHT