PepsiCo (PEP.) บริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์กว่า 18.25 พันล้านดอลลาร์ หรือ 673,124 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รายได้และกำไรของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินค้าในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
ผลประกอบการ Q1 PepsiCo เติบโตเกินคาด กวาดรายได้กว่า 6 แสนล้านบาท
PepsiCo (PEP.O) รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกสูงเกินคาดการณ์ของ Wall Street ทั้งด้านรายได้และกำไร การเติบโตนี้มาจากความต้องการน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยวอย่าง Cheetos และ Doritos ในตลาดต่างประเทศ แม้ว่าจะพบกับยอดขายที่ลดลงบ้างในสหรัฐอเมริกา แต่ผู้บริโภคใน โซน ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และจีน กลับมีกำลังซื้อน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยวของ PepsiCo ที่มีราคาสูง ขณะที่ในสหรัฐอเมริกาผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลงเนื่องจากมีงบประมาณจำกัด
"เราเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงมาสามปีแล้ว และสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมเชื่อว่าผลกระทบจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป" Jamie Caulfield ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ PepsiCo กล่าว
ในไตรมาสแรกนี้ PepsiCo ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5% แต่ปริมาณการขายตกลง 2% ซึ่งลดลงน้อยกว่าการลดลง 4% ที่พบในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว ส่วนปีงบประมาณ 2023 ฝั่งธุรกิจระหว่างประเทศมีสัดส่วนประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมดของ PepsiCo ขณะที่ธุรกิจในอเมริกาเหนือคิดเป็นสัดส่วน 60 % ที่เหลือ
PepsiCo คาดการณ์ ธุรกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น
PepsiCo ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งในตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ เพื่อเพิ่มความต้องการของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น การเปิดตัวข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปรสชาติใหม่ๆ ของ Quaker และเครื่องดื่มให้พลังงานอย่าง Celsius Ramon Laguarta ซีอีโอของบริษัทกล่าว ถึงแม้ว่าหุ้นของบริษัทจะตกลง 1.5% ทั้งนี้ PepsiCo ก็ได้ประมาณการผลประกอบการของปีงบประมาณ 2024 ไว้เท่าเดิม โดยยอดขายในไตรมาสแรกของธุรกิจหลักอย่างเครื่องดื่มในอเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้น 1% แต่ปริมาณการขายตกลง 5% ยอดขายรวมในส่วนของ Quaker Foods North America ลดลง 24% จากการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ในเดือนธันวาคมที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลลา
PepsiCo คาดการณ์ว่าธุรกิจในอเมริกาเหนือจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเมื่อผลกระทบจากการเรียกคืนสินค้าลดลง ส่วยรายได้สุทธิของบริษัทในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 18.25 พันล้านดอลลาร์ หรือ 673,124 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 18.07 พันล้านดอลลาร์ กำไรหลักของ PepsiCo อยู่ที่ 1.61 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.52 ดอลลาร์
ผลประกอบการย้อนหลัง 4 ปี บริษัท PepsiCo (PEP)
- ปี 2020 รายได้ 70.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ 7.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ปี 2021 รายได้ 79.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกำไรสุทธิ 7.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ปี 2022 รายได้ 86.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ 8.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ปี 2023 รายได้ 91.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สรุปกลยุทธ์ที่ทำให้ PepsiCo เติบโตจากผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2024
1. มุ่งเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศ PepsiCo เติบโตจากความต้องการน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยว (Cheetos, Doritos) ที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ เช่น ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และจีน ยอดขายในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมด
บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ข้าวโอ๊ต Quaker รสชาติใหม่ และเครื่องดื่มให้พลังงาน Celsius เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค
2. ปรับราคาสินค้าเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ: PepsiCo ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5% ในไตรมาสแรก กลยุทธ์นี้ช่วยชดเชยปริมาณการขายที่ลดลง 2%
3. ธุรกิจในอเมริกาเหนือกำลังฟื้นตัว: แม้ว่ายอดขายในอเมริกาเหนือจะลดลง แต่ PepsiCo คาดการณ์ว่าธุรกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวเมื่อผลกระทบจากการเรียกคืนสินค้า Quaker Foods ลดลง ยอดขายในไตรมาสแรกของธุรกิจหลักอย่างเครื่องดื่มในอเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้น 1%
4. ผลประกอบการโดยรวมดีเกินคาด: รายได้สุทธิของบริษัทในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 18.25 พันล้านดอลลาร์ กำไรหลักอยู่ที่ 1.61 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะได้ประมาณ 18.07 พันล้านดอลลาร์ และ 1.52 ดอลลาร์ต่อหุ้นตามลำดับ
ที่มา Reuters