จากกรณี คดีนายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมัน ศรีสุวรรณรุ่งเรือง ในจังหวัดสระแก้ว ถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิต ส่วนนางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยาถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งตำรวจออกหมายจับ นายพันศักดิ์ หรือพ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ อดีตนายตำรวจที่พัวพันคดีอุ้มฆ่าหลายคดี และสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวานนั้น (อ่าน :
ด่วน! ตร.บุกจับ “พันศักดิ์” มือยิงเสี่ยปั๊มน้ำมันสระแก้ว จนมุมที่ระยอง)
วันที่ 13 ต.ค. 61 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว นำตัวนายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ และนางธนทร สุขโขจัย ภรรยานายพันศักดิ์ ออกจากห้องขังเพื่อทำการสอบสวน และได้นำนางปาลิดา วรทัด ภรรยาของนายประชา วรทัด เจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง มาชี้ตัวมือปืนที่ลงมือยิงสามีและตนเอง ซึ่งนางปาลิดา ยืนยันว่า นายพันศักดิ์เป็นมือปืนที่ยิงตนเองและสามีในวันเกิดเหตุ
กระทั่งเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจชุดสืบสวนภูธรสระแก้ว และชุดสืบสวนภูธรภาค 2 ได้ติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถจับกุมได้ ถึงแม้ว่า นายพันศักดิ์ จะปฏิเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนา รวมถึงปืน จุด 380 ที่นายพันศักดิ์ใช้ยิงนายประชา ซึ่งหลังจากนี้ จะส่งปืนกระบอกดังกล่าวไปพิสูจน์ว่า ใช่ปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงนายประชาหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่มีการจ้างฆ่าในครั้งนี้ยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องธุรกิจปั๊มน้ำมัน
ส่วนกรณีที่นายพันศักดิ์ หนีคดีร้ายแรงศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต แต่กลับสามารถเดินผ่านเข้า-ออก ระหว่างชายแดนระหว่างประเทศได้นั้น เนื่องจากนายพันศักดิ์เป็นตำรวจ จึงรู้ช่องทางหลบหลีกได้เป็นอย่างดี
จากนั้น นางปาลิดาและญาติ ๆ ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้กับ ผบช.ภ.2 และพล.ต.ต.สุรจิต ผบก.ภ.สระแก้ว ซึ่ง พล.ต.ท.จิตติ ไม่ยอมให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์นางปาลิดา และนายพันศักดิ์ ด้วยว่า นางปาลิดาอาการยังไม่ดีขึ้นมากนัก ส่วนนายพันศักดิ์นั้น ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน และเนื่องจากนายพันศักดิ์ปฏิเสธ จึงไม่ได้นำตัวไปทำแผน
ด้าน นางดารณี ศรีสุวรรณ หลานของนางปาลิดา และนางสาวปัทมพร วรทัด ลูกสาวของนางปาลิดา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายพันศักดิ์ได้ เนื่องจากที่ผ่านมา พวกตนต้องอยู่อย่างหวาดระแวง กลัวว่าจะถูกนายพันศักดิ์ฆ่า เมื่อจับได้ก็สบายใจขึ้น ตนเองเชื่อว่านายพันศักดิ์เป็นคนลงมือยิงพ่อกับแม่