คุมแก๊งยิงถล่มกลางกรุง 4 ราย ทำแผนฯ ชี้จุดซ่อนอาก้า - เร่งล่าก๊วนหนีซุกกัมพูชา

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 61 ที่ผ่านมาเกิดเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่กราดยิงด้วยปืนอาก้า ภายในซอยราชปรารจนกระทั่งมีชาวต่างชาติถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าดัง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 รายนั้น (อ่าน : ตร.บุกกลางดึก ค้นที่ซุกอาก้า แก๊งถล่มย่านประตูน้ำ – พยาน เผยปมเจ้าถิ่นโต๊ะสนุกเขม่น)

วันที่ 12 ต.ค. 61 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เชิญตัวนายสมชาย ภูติพันธุ์ทรัพย์ พยานปากสำคัญ และเป็นเจ้าของบ้าน ในจุดที่ผู้ต้องหานำอาวุธปืนมาฝังดิน ซึ่งพบอาวุธปืนสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 51 นัด ฝังดินภายในเล้าไก่ และนำอาวุธปืนอาก้าจำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 480 นัด และแมกกาซีน 4 ซอง ฝังดินข้างดงกล้วยหลังเล้าไก่ จากการสอบถาม นายสมชายระบุว่า ผู้ที่นำอาวุธปืนมาซุกซ่อน คือนายพรชัย ภูติพันธุ์ทรัพย์ หรือ ชัย น้องชายของตัวเอง โดยร่วมกับ นายบำเพ็ญ พุ่มพวง หรือ ม็อก 1 ในผู้ต้องหา ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี พร้อมอ้างว่าตนไม่ทราบว่าภายในถุงกระสอบปุ๋ยเป็นอาวุธปืน

ขณะเดียวกัน วันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.พญาไท ควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายศรราม ภูพลผัน หรือโจ, นายขวัญ กระต่ายทอง หรือ ยา, นายเกษม รุณไพรัชน์ หรือ นก และนายหนุ่ม กระต่ายทอง หรือ หนุ่ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุลานจอดรถทัวร์ ภายในซอยราชปรารถ 2 ซึ่งการชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 7 จุด

พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.น. ระบุว่า ผู้ต้องหายอมรับว่ามีการพูดท้าทาย และทะเลาะวิวาทกัน จนนำไปสู่การก่อเหตุยิงกันระหว่าง 2 กลุ่ม ส่วนอาวุธสงคราม ปืนอาก้านี้ต้องตรวจสอบที่มาอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหารายสำคัญมีข้อมูลเบาะแสทราบว่ากำลังหลบหนี และยืนยันว่ามือปืนอาก้า คือ นายบำเพ็ญ หรือ ม็อก ส่วนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ถูกอาวุธปืนจนเสียชีวิต อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง ทั้งนี้ ทางตำรวจมีการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปศาลอาญารัชดา เพื่อขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก

ด้าน พ.ต.อ.สุพล แสงทอง ผกก.สภ.คลองลึก จังหวัดสระแก้ว ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน สภ.คลองลึก ว่า พบรถต้องสงสัย เป็นรถยี่ห้อโตโยต้า สีขาว รุ่นเฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง จอดอยู่ที่ลานจอดรถของบริษัท ที่ชายแดน บริเวณหน้าด่านบ้านคลองลึก จึงเข้าตรวจสอบ พบว่ารถคันดังกล่าว ยางล้อด้านซ้ายและล้อขวาด้านหน้าถูกปล่อยลมยางออกไปจนหมด จึงได้ประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อมาทำการเก็บลายมือภายในรถ หลังกองพิสูจน์เก็บลายนิ้วมือภายในรถเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเชือกมาล้อมรถเฟอร์จูนเนอร์เอาไว้ เพื่อทำการตรวจสอบที่มาที่ไปให้แน่ชัด เพื่อยกไปเก็บที่ สภ.คลองลึก

ขณะที่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่ารถคันดังกล่าว ขับเข้ามาขอฝากรถที่ลานจอดรถแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนำรถมาฝากแล้วก็หายไป คาดว่าคงจะเป็นรถของนายบำเพ็ญ 1 ในผู้ต้องหา ซึ่งหลังฝากรถแล้ว คงไปเช่าโรงแรมบริเวณตลาดโรงเกลือ ก่อนจะไปหาพวกให้พาหลบหนีเข้าไปในฝั่งกัมพูชา เนื่องจากพบว่านายม็อกมีการแสตมป์พาสปอร์ต ออกไปในวันที่ 9 ต.ค. 61