วัดดังสยบปมดราม่า ตีระฆังใกล้คอนโดต่อแต่เบาลง-ชุมชนฉะคนโวยแค่ 2 คน ชอบนับหมื่น (คลิป)

จากกรณี มีผู้ร้องเรียนว่า วัดไทรตีระฆังส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโดมิเนียมที่อยู่บริเวณใกล้เคียงวัดดังกล่าวนั้น

วันที่ 3 ต.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ วัดไทร ย่านพระราม 3 ภายในวัดยังมีหอระฆังสูง 3 ชั้น ซึ่งชั้นบนสุดของหอระฆังนั้นมีระฆังทองเหลืองนอกจากนี้ข้าง ๆ วัด มีคอนโดฯ ที่สร้างติดกับวัด

พระสมจิตโต พระลูกวัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางวัดตีระฆังในช่วงเช้ามืดนั้น เนื่องจากเป็นประเพณีที่มีมาแต่สมัยโบราณ ซึ่งเป็นการส่งเสียงให้สัญญาณให้พระลูกวัดตื่นขึ้นมาสวดมนต์ ทำวัตรเช้า และเป็นการปลุกประชาชนในบริเวณรอบวัด ให้ตื่นขึ้นมาทำงาน เนื่องจากในอดีตนั้นไม่มีนาฬิกาปลุก การตีระฆังจึงเป็นประเพณีสืบต่อกันมา ซึ่งทางวัดนั้น ไม่ได้ตีระฆังทุกวัน แต่จะตีในเวลา 4.00 -4.20 น. ในช่วงเข้าพรรษา เพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการตีระฆัง จะส่งเสียงกังวาลจนรบกวนคนภายนอก จึงอยากให้เข้าใจว่าสิ่งที่ทำเป็นกิจของสงฆ์ ไม่ได้มีเจตนาตีรบกวนประชาชน ซึ่งหลังจากที่ทางเขตได้ส่งหนังสือมา วันนี้ทางวัดก็ได้หยุดตีระฆังแล้ว แต่เนื่องจากมีประชาชนมาขอให้ตีระฆังต่อ เนื่องจากเป็นประเพณี ในวันพรุ่งนี้ ทางวัดก็จะตีให้เบาลง

นายสมบัติ ลาภเจริญรุ่ง เจ้าหน้าที่วัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคนร้องเรียนเรื่องวัดนั้น เป็นบุคคลแค่ 2 คน เท่านั้นที่ร้องเรียน เพราะคนละแวกวัดเป็นหมื่นคน ไม่มีใครร้องเรียน เพราะเป็นประเพณีโบราณ เนื่องจากชาวบ้านก็ยังต้องฟังเสียงระฆังวัด เพื่อจะได้ตื่นมาสวดมนต์กับพระ เนื่องจากคนที่ถือศีล 8 ก็มีเยอะ ที่มาร่วมสวดมนต์ ซึ่งในกรณีที่มีการขอให้ตีระฆังเบาลงนั้น ตนมองว่าหากตีเบาลงก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะชาวบ้านไม่ได้ยิน แต่ตนก็ยึดคำสั่งเจ้าอาวาสวัด ซึ่งตอนนี้ก็คงตีให้เบาลง แต่ตนมองว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ความต้องการของ 2 คน ไม่ควรเอามาเปรียบกับคนเป็นหมื่น อีกทั้งทุกวัดก็ตีระฆัง ไม่ใช่ตีแค่วัดไทรวัดเดียว นอกจากนี้ คนที่โทรมาร้องเรียนนั้น ก็พูดกับพระไม่ดี ซึ่งตนมองว่า คนเรานั้นคิดไม่เหมือนกัน เพราะตนและชาวบ้านรอบวัด ก็ไม่ได้เดือดร้อนจากเสียงระฆัง

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง เปิดเผยว่า สำหรับกรณีการตีระฆังเป็นประเพณีนั้น อาตมามองว่าก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ในเมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่านมานานแล้ว ก็น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ หรือควรจะหารือร่วมกันก่อน และจะต้องดูว่าคนที่เดือดร้อนมีมากหรือไม่ โดยนำเรื่องร้องเรียนไปขอร้องเจ้าอาวาส หรือขอความเมตตาจากท่าน ท่านก็ไม่ใจจืดใจดำ เชื่อว่าก็หาข้อยุติได้ แต่ถ้าจะขอร้องให้หยุดตีระฆังนั้น อาตมามองว่าถ้าหลายคนต้องการแบบนั้นก็ทำได้ หรืออาจจะลดเสียงระฆังให้เบาลง หรือดูความจำเป็นว่าการตีระฆังในช่วงเวลา 03.00 น. มีความสำคัญมากน้อยเพียงใด ถึงจะหาทางออกได้ทุกฝ่าย ในกรณีที่ทางวัดมีงานประจำปี หรือจัดงานใด ๆ แล้วต้องใช้ชุดเครื่องเสียงนั้น ก่อนอื่นก็ต้องดูว่าการจัดงานนานหรือไม่ ช่วงเวลาใด โดยประนีประนอมกันไป แต่ถ้ามองว่าเป็นคู่ขัดแย้งกัน ก็คงยากที่จะตกลงกันลงตัว ซึ่งกฎหมายระบุว่าเสียงดังได้ถึงเวลาเท่าใด ก็ต้องเคารพ พระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า คนที่อยู่คอนโดฯ ส่วนมากเป็นบุคคลที่ทำงานออฟฟิศ และต้องการพักผ่อน และระฆังไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่จะเป็นสัญญาณในการปลุกพระ เพราะพระแทบทุกองค์ มีนาฬิกาปลุกอยู่แล้ว หากหาทางออกร่วมกันแล้วยังไม่ได้ทางออกที่ดีที่สุด และเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะขอให้หยุดตีระฆังนั้น อาตมาคิดว่าถ้าเบาเสียงลง ก็คงไม่มีปัญหา ให้ถือว่าเป็นการเกื้อกูลกัน