จากกรณีพ่อร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจดอนฉิมพลีกระทำเกินกว่าเหตุ โดยใช้อาวุธปืนยิงลูกชายป่วยทางสมองได้รับบาดเจ็บ (อ่าน :
พ่อร้อง ตร.ทำเกินเหตุ ยิงลูกป่วยจิต 4 นัด อ้างสกัดคลั่ง เจ้าตัวโดดขวาง เจ็บด้วย )
วันที่ 29 ก.ย. 61 ที่แคมป์คนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ใน อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
นายประกอบ รัตนดี พ่อของนายถนอมศักดิ์ รัตนดี หรือ แว ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ลูกของตนมีลักษณะพิการทางสมอง โดยเหตุเกิดขึ้นในวันที่ 20 ก.ย. 61 เวลา 18.30 น. ขณะที่ตน นายแว, นายอุ่นพ่อบุญธรรมของนายแว และญาติ อีก 2 คน รวมทั้งหมด 5 คน กำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ นายแวได้ไปหยิบมีดขึ้นมาถือ และเริ่มมีอาการโวยวาย เพราะขาดยาระงับประสาทมาประมาณ 2 วัน และมีอาการเบลอ หงุดหงิดง่าย และตนเกรงว่านายแวจะคลุ้มคลั่งเกินจะควบคุม ตนจึงได้โทรแจ้งตำรวจเอาไว้ ต่อมาตนและญาติ ๆ ทั้งหมดได้เกลี้ยกล่อมให้นายแวสงบลงได้ และพานายแวเข้านอน
หลังจากนั้น เวลา 19.45 น. ตำรวจได้เดินทางมาที่บ้าน 4 นาย เป็นตำรวจในเครื่องแบบ 2 นาย และนอกเครื่องแบบ 2 นาย โดยมีตำรวจ เพียง 2 นายเท่านั้นที่เข้ามาในบ้าน โดยเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบรายหนึ่งเดินเข้าไปหานายแวในห้อง และตำรวจในเครื่องแบบอีกนาย รออยู่หน้าห้อง เมื่อนายแวเห็นตำรวจที่เดินเข้ามาเป็นคนแปลกหน้า จึงตกใจและมีท่าทีเหมือนจะลุกขึ้น ซึ่งตำรวจนายนั้นก็ตกใจวิ่งหนีออกจากห้อง และไปปัดมีดที่อยู่นอกห้องตกลงที่พื้น เมื่อตำรวจที่รออยู่หน้าห้องเห็นว่ามีเพื่อนวิ่งออกจากห้อง จึงได้วิ่งหนีด้วย แต่ได้หกล้มลงหน้าบ้านและนายแวที่วิ่งตามมาได้ล้มทับ ลักษณะเหมือนกอดขาเอาไว้ ตำรวจที่ล้มนอนอยู่จึงได้พูดว่ายิงมันเลย ตำรวจอีกนายจึงยิงไป 1 นัดและถูกนิ้วหัวแม่มือข้างขวาของตน
ขณะที่ตนกำลังยกมือ 2 ข้างเพื่อห้ามไม่ให้ยิง ตำรวจที่ล้มลงและลุกขึ้นได้แล้วยิงนายแวอีก 3 นัด โดยกระสุนเข้าท้องขวา 1 นัด ท้องซ้าย 1 นัดและขาขวาอีก 1 นัด จากนั้นนายอุ่น พ่อบุญธรรมของนายแวได้เข้ามาผลักและบอกว่าอย่ายิง ซึ่งตำรวจนายนั้นก็ไม่ฟัง และเข้าไปยิงนายแว ซ้ำอีกแต่กระสุนไม่ออกอีก 3 นัด ซึ่งตำรวจนายนั้นยังพูดว่า "กูจะยิงให้หมดแม็กเลย" หลังจากนั้นตำรวจนายนี้ได้เอามีดที่ตกอยู่มาวางไว้ข้างตัวนายแวแล้วถ่ายรูป ก่อนที่ตำรวจอีก 2 คนที่มาด้วยกันจะมาช่วยกันพานายแวส่งโรงพยาบาล
นายประกอบ ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุนั้น นายแวไม่มีมีดอยู่ในมือ และลูกของตนไม่ได้มีอาการมึนเมา เพราะนายแวไม่เคยดื่มเหล้า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกว่าตำรวจทั้ง 2 นายนั้นทำเกินกว่าเหตุ ส่วนอาการของนายแวล่าสุดเริ่มดีขึ้น และสามารถจิบน้ำได้แล้ว
ด้าน
นายอุ่น บุญคง พ่อบุญธรรมของนายแว เปิดเผยว่า ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งไม่คิดไม่ฝันว่าตำรวจจะกล้ายิง โดยสาเหตุที่ตำรวจยิงนายแวเพราะคงคิดว่านายแวจะต่อสู้ หลังจากนายแวถูกยิง ตนก็ไปห้ามตำรวจเพื่อไม่ให้ยิง แต่กลับถูกตำรวผลักให้ล้มลง โดยเหตุการณ์ทั้งหมด ตนก็คิดว่าตำรวจนั้นทำเกินกว่าเหตุ เบื้องต้นครอบครัวของนายแวได้ไปแจ้งจับตำรวจทั้ง 2 นายในข้อหาพยายามฆ่าแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.ฉิมพลี จ.ฉะเชิงเทรา ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุได้เขียนรายงานชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ในคืนเกิดเหตุว่านายประกอบ รัตนดี พ่อของผู้บาดเจ็บ ได้โทรแจ้ง 191 ว่าเกิดเหตุมีชายเมาสุราอาละวาด พกมีด ทำให้ญาติ ๆ กลัว จากนั้นจึงให้ตำรวจสายตรวจเข้าไปในที่เกิดเหตุ 4 นาย เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นายและในเครื่องแบบอีก 2 นาย เมื่อไปถึงตำรวจได้พบกับนายประกอบยืนอยู่หน้าที่พัก แล้วบอกให้ตำรวจไปนำตัวลูกชายซึ่งอยู่ในบ้านไปสงบสติอารมณ์ เมื่อตำรวจเข้าไปในบ้านซึ่งมืด และแคบ ปรากฏว่าลูกชายนายประกอบได้กระโจนออกมาบริเวณมุ้งนอน คลุ้มคลั่งถือมีดอีโต้พุ่งมาหาตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่พยายามปัดป้อง และยิงไปโดยไม่รู้มาก่อนว่านายแวป่วยทางสมอง เพราะว่าพ่อของนายแวได้โทรแจ้งว่ามีคนเมา ตำรวจจึงคิดว่านายแวก่อเหตุด้วยความมึนเมา
พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ บอกอีกว่า ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคำให้การของนายประกอบถึงไม่ตรงกับรายงานของตำรวจที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ เพราะนายประกอบอ้างว่ามีดที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้นตกอยู่ที่พื้น แต่ตำรวจรายงานว่านายแวใช้มีดฟันตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำด้านวินัยทั้ง 2 นาย และอยู่ในระหว่างการพิจารณาการพักงานของตำรวจทั้ง 2 นาย