เปิดนาทีเมียโหดใช้กิ๊กยิงผัว หวังสมบัติ เจ้าตัวปัดฆ่า แต่ตร.เจอพิรุธ - พยานช็อกเจอศพ (คลิป)

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา บนถนนสายบ้านคลองปิ้ง-บ้านควนใต้ ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ นางวิไล หมั่นเพียร อายุ 48 ปี และนายกิตติศักดิ์ หรือชาย วรรณบวร อายุ 28 ปี ซึ่งเป็น 2 ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่านายสวาส หมั่นเพียร อายุ 48 ปีนักธุรกิจรับซื้อไม้ยางพารารายใหญ่ใน อ.คลองท่อม ซึ่งเป็นสามีของนางวิไลผู้ต้องหา (อ่าน : เมียร่ำไห้! ปัดร่วมมือกิ๊กจ้างฆ่าผัว เครียดถูกคุมฝากขังพร้อมมือปืน – ตร.ชี้หลักฐานชัด)

วันที่ 22 ก.ย. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบนถนนสายบ้านคลองปิ้ง-บ้านควนใต้ พบว่าจุดที่เกิดเหตุยังมีร่องรอยการเสียหลักของรถจักรยานยนต์ และพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่สวนปาล์มทั้งหมด ทำให้บรรยากาศกลางคืนจะมืดมาก ไม่มีไฟ ไม่มีบ้านคน จุดที่นายสวาสผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ คือข้างทางจากปากซอยบ้านคลองปิ้งมุ่งหน้าไปยังเกาะลันตา

โดย พลตำรวจโทสมพร สงแสง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางวิไลทราบว่านายสวาส มีเมียเพิ่ม 3 คน และรับได้เพราะตามหลักศาสนาอิสลาม ผู้ชายสามารถมีเมียได้ถึง 4 คน แต่ถ้าจะมีเมีย 4 คน ผู้ชายจะต้องดูแลให้เท่าเทียมกันทุกคน ถ้าจะซื้อทองให้เมียคนที่ 1 ต้องซื้อให้เมียคนที่ 2,3 และ 4 โดยกฏที่เมียหลวงและนายสวาสได้ตกลงระหว่างกัน คืออนุญาตให้มีเมียได้ 4 คนตามหลักศาสนาอิสลาม จะไปหาตอนไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นตอนกลางวันเท่านั้น เวลานายสวาสอยู่กับใครเมียหลวงต้องรับรู้ และกฏเหล็กคือ นายสวาสจะต้องกลับมานอนกับเมียหลวงเท่านั้น

ดังนั้นในคืนวันที่ 19 มิ.ย. 61 นายสวาสได้โทรบอกกับเมียหลวงว่ากำลังขับรถกลับบ้าน เมื่อเมียหลวงคุยโทรศัพท์ ก็รู้ว่านายสวาสขับรถจักรยานยนต์ถึงบริเวณบ้านคลองปิ้ง-บ้านควนใต้ ที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นสวนปาล์ม ไม่มีคน จึงโทรสั่งการนายวาสนาเพื่อให้นัดแนะมือปืนและออกมาดักทำร้ายนายสวาส โดยนายวาสนาขับรถมาพร้อมกิตติศักดิ์ผู้ลงมือลั่นไกสังหาร เสียชีวิตคาที่ ทั้งนี้ พบว่าหลังจากที่นายสวาสเสียชีวิต มือปืนได้หลบหนีและนำปืนไปโยนทิ้งที่แม่น้ำ ขณะเดียวกับที่เมียหลวงได้ขายทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหลายรายการเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท และมีการจ่ายออกไป 200,000 บาท ซึ่งตำรวจคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นค่าจ้างมือปืน ซึ่งขณะที่เมียหลวงอยู่กับผู้เสียชีวิตได้มีการจดทะเบียนสมรส และก่อนหน้านี้นายสวาสได้ทำประกันชีวิตไว้ 600,000 บาท โดยให้เมียหลวงเป็นคนรับผลประโยชน์ทั้งหมด ทำให้ตำรวจมุ่งเป้ามาที่นางวิไล

ด้าน นายสังวร คิดรอบ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์คนแรก เปิดเผยว่าวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 3 ทุ่ม มีเด็กนักเรียนที่ขับรถผ่านมาทางจุดเกิดเหตุ บอกกับตนว่าเห็นคนรถล้มอยู่ข้างถนน จากนั้นตนก็เดินทางไปดู ปรากฏว่ามีจริง และได้ลงไปจับตัวดู ตนคิดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วเพราะตัวเย็น จากนั้นจึงโทรประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ เพื่อมาตรวจสอบแต่ตนก็ยังไม่ทราบว่านายสวาสนั้นโดนยิงเสียชีวิต ส่วนสภาพศพของนายสวาสนั้น ตนบอกว่าอยู่ในท่าตะแคงข้าง ค่อมรถจักรยานยนต์อยู่ ตอนที่ไปพบไม่เห็นว่ามีรอยกระสุน เห็นแค่มีรอยแตกตรงหางคิ้วเท่านั้น จนเช้าวันต่อมาถึงทราบว่าเหตุการณ์ที่ตนไปดู และประสานเจ้าหน้าที่นั้นเป็นการรอบสังหาร ซึ่งตนบอกว่าจุดที่เกิดเหตุนั้นช่วงค่ำๆก็จะมืดเปลี่ยวและไม่มีไฟ ไม่มีคน วันเกิดเหตุฝนตก ส่วนเสียงปืนในวันนั้นก็ไม่มีใครได้ยิน