กรณีหญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นางรัศฎาพร พิมพ์เกษ มารดาของตัวเอง ได้ถูกนายกุลชร พิมพ์เกษ พ่อเลี้ยง ทำร้ายร่างกาย กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 4 ก.ค.64 หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล วันที่ 2 ก.ค.64 ซึ่ง ครอบครัวได้แจ้งความไว้แล้ว แต่ตำรวจยังไม่ดำเนินการจับกุม อ้างต้องรอผลชันสูตร โดยเหตุเกิดที่ ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ
ล่าสุดวันที่ 18 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาพบกับ น.ส.แอร์ (นามสมมติ) ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่แม่ของตนจะเสียชีวิต ได้ทะเลาะกับพ่อเลี้ยง และหนีกลับมาหาตนที่บ้านในวันที่ 9 มิ.ย.64 ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะมาตามโวยวายที่บ้านญาติ พร้อมพาน้องสาว 2 คน ซึ่งเป็นลูกของนายกุลชรกับแม่ตนมาด้วย โดยพ่อเลี้ยงขี่รถจักรยานยนต์มาจาก จ.บังกาฬ แต่สุดท้ายไม่เจอแม่ตน
กระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.64 พ่อเลี้ยงโทรศัพท์มาข่มขู่ตน โดยอ้างว่าได้ทำร้ายน้องสาวตน ใช้มือตบศีรษะไป 2 ครั้ง และบังคับไม่ให้ไปโรงเรียน ซึ่งขณะที่คุยโทรศัพท์ แม่ของตนก็นั่งฟังอยู่ด้วย จึงนั่งร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงลูก 2 คน สุดท้ายแม่ยอมกลับไปหาพ่อเลี้ยง เพราะกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะทำร้ายลูกสาวคนเล็กทั้ง 2 คน
หลังจากแม่ตนกลับไปที่ จ.บึงกาฬ แม่จะติดต่อวิดีโอหาตนทุกวัน กระทั่งแม่ขาดการติดต่อไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 ตนจึงโทรศัพท์หาน้องสาว ตอนนั้นน้องบอกว่าแม่ไปสวนยาง ซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน กระทั่งวันที่ 2 ก.ค.64 แม่ก็ไม่โทรศัพท์หาตน น้องก็อ้างว่าแม่ไปทำงาน ไม่รู้จะกลับตอนไหนเช่นเดิม
ในวันที่ 3 ก.ค.64 ช่วงเวลา 22.00 น. น้องสาวโทรศัพท์มาขอโทษตนที่โกหกเรื่องแม่ เพราะตอนนั้นแม่เข้าโรงพยาบาลและรักษาอยู่ในห้องไอซียู เนื่องจากถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย ซึ่งแม่เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.64 พร้อมกับส่งใบรักษาตัวให้ดู ซึ่งระบุอาการหลายอย่างของแม่ช่วงก่อนเข้าโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ในใบรักษาตัวแพทย์ระบุว่าผู้ป่วยมีอาการซึม ไม่พูด ดิ้นไปมา ศีรษะบวม ตาขวาช้ำ มีแผลฉีกขาดที่หน้าผาก ริมฝีปากล่าง แขนขวา ขาซ้าย ฟันหลุด มีรอยช้ำตามร่างกาย พยาบาลแจ้งให้ทำใจว่าต้องผ่าตัดสมอง เพราะเลือดออกค่อนข้างมาก
ในวันที่ 4 ก.ค.64 ตนเดินทางไปเยี่ยมแม่ หลังถูกส่งตัวมาที่ รพ.สกลนคร แพทย์แจ้งว่าแม่ไม่มีอาการตอบสนอง ระบบภายในล้มเหลว สุดท้ายตนไปลาแม่ข้างหู จากนั้นชีพจรแม่ก็นิ่งไป ตนยืนยันกับแพทย์จะเอาเรื่องทางคดี เพราะตนมั่นใจว่าแม่ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ แพทย์บอกว่ามีแผลถูกมีดฟันหลายจุด ส่วนตัวได้คุยกับน้องสาวบอกว่า “พ่อเลี้ยงเอาไม้ฟาดหัวแม่แตก และแม่เอามีดฟันพ่อเลี้ยง”
อย่างไรก็ตาม ตนได้ถามพ่อเลี้ยงช่วงแรกยอมรับว่าใช้หมัดชกเลือดเลยคั่งในสมอง ต่อมาอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้ม ซึ่งตนไม่เชื่อ ประกอบกับที่ผ่านมาแม่จะเล่าให้ตนฟังบ่อยครั้งว่า พ่อเลี้ยงจะใช้เหล็กและไม้ฟาดทำร้ายร่างกาย ตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบึงกาฬ ซึ่งตำรวจรับแจ้งเมื่อวันที่ 8 ก.ค.64 เป็นช่วงหลังงานศพ จนถึงตอนนี้พ่อเลี้ยงตนยังใช้ชีวิตตามปกติ เพราะตำรวจให้รอผลชันสูตร
นอกจากนี้ ตนยังได้บันทึกคลิปเสียงที่พ่อเลี้ยงโทรศัพท์หาน้องสาวตนไว้ มีการพูดถึงเหตุจุงใจทำนองว่า แม่ตนโอนเงินให้กับชู้ 1 ล้านบาท ทำให้พ่อโกรธจึงลงมือก่อเหตุ สิ่งที่แม่ตนทำลงไปมันทำร้ายจิตใจเขา และอ้างว่าจะเข้ามอบตัว ครอบครัวจะได้ไม่ต้องไปประกันตัวหากเขาถูกจับ ซึ่งในอดีตแม่ของตนก็ถูกทำร้ายเรื่อยมา คบกับพ่อเลี้ยงมา 14 ปี แต่ช่วง 2-3 ปีให้หลังจะถูกทำร้ายบ่อยมาก ๆ แม่เคยเล่าว่าถูกพ่อเลี้ยงลากไปตีที่สวนยางจนเป็นไข้ พอวันรุ่งขึ้นก็ยังจะบังคับให้ไปทำงานต่อ รวมถึงเรื่องพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมเสพยา ซึ่งตนคิดว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมาจากสันดานของเขา
พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ ให้ข้อมูลว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานจากร้อยเวรเจ้าของคดี ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ พฤติการณ์ของคนร้ายหากก่อเหตุเช่นนี้ดำเนินคดีอย่างแน่นอน ซึ่งตนขอเวลาตรวจสอบข้อมูลจากพนักงานสอบสวนว่าเหตุใดจึงไม่แจ้งให้ตนทราบ