จับแล้ว! จนท.เทศบาลโหดยิงหนุ่มวัวชนแลกหนี้ 7 หมื่น เมียลั่นเคลียร์จบแล้วยังฆ่า (คลิป)

16 ก.ค. 64

จากกรณีวันที่ 14 ก.ค. 64 ร.ต.อ.วศิน เกื้อมณี ร้อยเวรสอบสวน สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่คอกวัว บริเวณถนนราษฎร์สร้างสรรค์ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นขนำภายในคอกวัว ถนนราษฎร์สร้างสรรค์ ต.บ้านพรุ พบศพทราบชื่อ นายสุชล เกตุแก้ว อายุ 48 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนแบบเก้าอี้พับ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบพบว่าผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณลำตัว จำนวน 4 นัด เสียชีวิตคาที่

354831118277

ล่าสุด วันที่ 16 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เทศบาลบ้านพรุ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการจับกุม นายอนงค์ ทินมุดี อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.ทุ่งลุง ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว หรือไม่มีเหตุอันควรและเร่งด่วนตามควรแก่พฤติการณ์

682647

โดยเมื่อเวลา 08.20 น. พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ได้แสดงหมายจับต่อหน้านายอนงค์ ทินมุดี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการแสดงหมายจับ นายอนงค์ ได้นั่งกินกาแฟอยู่ที่ ในศาลาหน้าเทศบาล เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

132374

ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไปทวงเงินกับผู้ตายที่ขนำคอกวัวจริง พอไปถึงขนำผู้ตายนอนอยู่บนเตียงพับในขนำ หลังจากนั้นนายอนงค์ได้ทวงถามเงิน 70,000 บาท ที่ผู้ตายติดไว้ แต่ผู้ตายบอกว่ามีเมื่อไรก็ให้เอง แล้วผู้ตายก็พยายามลุกขึ้นจากเก้าอี้นอน นายอนงค์จึงบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืน .38 ที่พกติดตัวมาด้วย ยิงเข้าไปที่ผู้ตายก่อนที่หน้าอก 1 นัด จนผู้ตายล้มลง แล้วจึงยิงซ้ำที่ร่างผู้ตายอีกจำนวน 3 นัด หลังจากนั้นก็ขับรถหลบหนีไป

360776

กล้องวงจรปิดขณะที่ผู้ต้องหาขี่รถเข้าไปก่อเหตุยิงนายสุชลที่ขนำคอกวัว บริเวณถนนราษฎร์สร้างสรรค์ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เห็นนายอนงค์ขี่รถ สวมสื้อคอปกสีดำแดง เข้าไปในที่เกิดเหตุ เวลา 13.47 น. และออกมาจากที่เกิดเหตุ ในเวลา 13.51 น.

726998

เวลา 10.00 น. หลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ทุ่งลุง โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สงขลา มาตรวจสอบหา เขม่าดินปืน และวัตถุพยานหลักฐาน ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ ซึ่งอาวุธปืนที่ตำรวจยึดมาได้ คือปืนขนาด .38 และ จยย. ที่ผู้ต้องหาใช้ไปก่อเหตุยิงนายสุชล

302997

จากการตรวจสอบปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อช่วง 11.00 น. ตำรวจได้นำตัวนายอนงค์ ย้อนกลับไปชี้จุดที่ผู้ต้องหานำปืนไปซุกและเสื้อไปซ่อนที่บริเวณห้องทำงานชั้น 2 ของเทศบาลบ้านพรุ จากนั้นตำรวจได้นำตัวนายอนงค์ เดินไปชี้จุดที่นายอนงค์ได้นำรถที่ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ที่ด้านข้างของเทศบาล

894171933541

เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นำแถลงการจับกุมผู้ต้องหา บริเวณหน้า สภ.ทุ่งลุง โดยนำของกลางที่ตรวจยืดมาได้มาแถลง คือ รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ, อาวุธปืนพกสั้นแบบ .38 พร้อมกระสุนปืนจำนวน 6 นัด, เสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีดำแดงลายขวาง 1 ตัว, กางเกงขายาวสีดำ จำนวน 1 ตัว, รองเท้าผ้าใบ สีดำแถบขาว จำนวน 1 คู่, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

888441882567

รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า นายอนงค์ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ใช้ปืนขนาด .38 ที่พกไปยิงใส่ผู้ตายจำนวน 4 นัด เสียชีวิตคาที่

881303

ส่วนปมที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ เป็นการไปทวงถามหนี้สินที่ผู้ตายได้กู้ยืมกับผู้ต้องหาไป เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ผู้ต้องหาจึงบันดาลโทสะก่อเหตุยิงนายสุชล แล้วขับหลบหนีไป หลังจากนั้น ก็มีการสืบสวนจับกุมแกะรอยหาตัวผู้ต้องหา นำมาซึ่งการออกหมายจับ แล้วก็มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ในช่วงเช้าของวันนี้

487705

น.ส.พรทิพย์ เศรษฐีโภฎก อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดใจว่า หลังจากที่รู้ว่าตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วก็รู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ เพราะว่าผู้ต้องหาที่ตำรวจจับได้คือนายอนงค์ ซึ่งเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกับครอบครัวของตนเป็นอย่างดี ตนเดินทางไปถามขอความเป็นธรรมหลังจากตำรวจแถลงเสร็จ เพราะว่าข้องใจว่าทำไมตำรวจถึงไม่นำตัวผู้ต้องหามานั่งแถลงข่าว แล้วก็ไม่ยอมพาผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ ทั้งที่ชาวบ้านในพื้นที่ก็ต่างมารอดูการทำแผนฯ ตนและลูกก็อยากจะฟังกับปากของผู้ต้องหาว่าทำไมถึงก่อเหตุ ยืนยันจะเดินหน้าคัดค้านการประกันตัว เพราะห่วงความปลอดภัยของลูกที่ต้องใช้ชีวิตต่อหลังจากสูญเสียพ่อไป

247334

ส่วนประเด็นเรื่องที่ผู้ต้องหาให้การกับตำรวจว่า ก่อเหตุเพราะบันดาลโทสะ จากการทวงเงินสามี ตนไม่ปักใจเชื่อเพราะว่าตนและผู้ต้องหาได้มีการพูดคุยตกลงกันถึงเรื่องเงินจำนวน 70,000 บาทที่สามีกู้ยืมไปแล้ว ตกลงกันว่าจะให้สามีหาเงินมาคืนก่อนครึ่งหนึ่ง ภายใน 3 เดือน ซึ่งตนได้ยืนยันกับผู้ต้องหาไปแล้วว่าหากสามีหาเงินมาคืนไม่ได้ ยินดีให้หักค่าแชร์ที่ตนเล่นไว้กับผู้ต้องหา ซึ่งวันเกิดเหตุก็ยังไม่ครบกำหนดที่ตกลงกันไว้

ตนรู้สึกเสียใจที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุแบบนี้ เหตุการณ์นี้ก็เท่ากับผู้ต้องหาได้เงินและชีวิตของสามีของตนไป เพราะถึงสามีจะตายไปแล้ว เงินที่สามีกู้นายอนงค์ไป ตนก็ต้องรับผิดชอบจ่ายคืนอยู่ดี ตอนนี้ครอบครัวยืนยันจะไม่อโหสิกรรมให้เด็ดขาด เพราะสิ่งที่เขาทำลงไปมันโหดร้ายกับครอบครัวของตน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส