กลับไทยยาก นักวิชาการไม่เชื่อ “โทนี่” ออกประตูหน้าสุวรรณภูมิ แค่โยนหินถามทางบลัฟนายกฯ (คลิป)

สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.ค.64) นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วูดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนาในรายการ CARE ClubHouse x CARE Talk ตอน "ล็อกดาวน์ แล้วยังไงต่อ? ประชาชนพรัอมรับคำสั่ง รัฐบาลพร้อมทำให้ประชาชนหรือยัง

โดยการพูดคุยไปเป็นอย่างเผ็ดร้อน ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงหนึ่ง โทนี่่ ได้พูดถึงประเด็นร้อนแรงอย่างการที่ คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ ไฟเขียวให้ฉีดวัคซีนไขว้ 2 ยี่ห้อ ซิโนแวค+แอสตราเซเนกา

ช่วงหนึ่งของการพูดคุย นายทักษิณยัง กล่าวด้วยว่า "ผมยืนยันอีกครั้งนะครับกลับแน่ แต่ขอบอกเวลาทีหลัง วันนี้ยังไม่บอก แล้วก็สุวรรณภูมิไปประตูหน้า ไม่ไปประตูหลังแน่นอน เอาไว้เมื่อถึงเวลาแล้วผมจะบอกเป็นขั้นตอนไป ผมไม่มีอะไรปิดบังครับ เพียงแต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา ต้องใช้เวลาให้มันเหมาะสม"

นายทักษิณ ยังระบุด้วยว่า "ถามว่าสติปัญญาและสุขภาพร่างกายพร้อมหรือไม่ บอกเลยว่าพร้อมมาก ผมไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ หรอกครับ วันนี้แค่นายกฯ ประยุทธ์เขาใช้ผม บอกว่าพี่ ๆ ผมขอปรึกษาเรื่องนั้นเรื่องนี้หน่อยนะ ผมก็ Work from Dubai โดยไม่ต้องเป็นนายกฯ กับเขาก็ได้ แล้วผมก็ยินดีช่วยเลยครับ แล้วตู่เขาก็เป็นรุ่นน้องผม ตอนผมเป็นนายกฯ เขายศพันเอก อยู่ในวัง เป็นองครักษ์ ก็รู้จักกันดี เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาไม่เหมือนเดิมและผมก็ไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนเดิมก็คือว่า ผมไม่มีสถานะ ส่วนเขามีสถานะเป็นนายกฯ ก็เลยไม่กล้าที่จะคุยกัน แต่จริง ๆ แล้วถ้าเขาซูมคุยกับผมก็ได้ โทรศัพท์คุยก็ได้ ผมยินดีให้ความช่วยเหลือ คนเคยเป็นอดีตนายกฯ จะไม่รักบ้านเมือง ไม่รักประชาชนนี่โง่แล้ว ไม่มีหรอก"

ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร กำลังใช้ ClubHouse เป็นพื้นที่สะสมทุนทางการเมือง โดยอาศัยช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตศรัทธาของประชาชน ออกมาพูดเปรียบเทียบในทำนองว่า ถ้าตัวเองเป็นนายกฯ คงจัดการปัญหาได้ดีกว่านี้ และที่บอกว่าให้โทรมาปรึกษา ก็เป็นการใช้เหลี่ยมทางการเมืองข่มพล.อ.ประยุทธ์ เพราะรู้อยู่แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่โทรศัพท์ไปปรึกษาอยู่แล้ว แต่หวังจะเขย่ารัฐบาล

ส่วนที่บอกว่าจะกลับมาแน่ มาที่ประเทศไทย และออกประตูหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ตนเชื่อว่านายทักษิณ คงไม่กลับมาจริง เพราะยังมีคดีความในชั้นศาลอีกหลายคดี แต่เป็นการโยนหินถามทาง เช็กคะแนนนิยม และเสียงสนับสนุน เพื่อดูว่าตอนนี้มีมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมากก็จะนำไปสู่การผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนขั้วการเมืองได้ เพราะคนที่จะล้มรัฐบาล คือ คนที่ทนไม่ไหวกับวิกฤตประเทศ เป็นการใช้เหลี่ยมเปลี่ยนหมากบนกระดาน

ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำพูดเหน็บแนมของ นายโทนี่ ที่อยากจะเสนอแนะและให้คำปรึกษาไม่ได้ออกมาจากใจ เป็นเพียงเหลี่ยมทางการเมืองมากกว่า ตนมองว่าคำปรึกษาของนายโทนี่คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ ไม่ได้ลงมาสัมผัสกับความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง ขณะเดียวกันในสถานะของคนทำผิดที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ คงไม่สมควรที่จะโทรไปปรึกษา เพราะปรึกษากับนักโทษที่มีคดีทุจริตติดตัวคงไม่ได้ประโยชน์อะไร

นายเสกสกล กล่าวย้ำว่า ที่ผ่านมานายกฯ รัฐบาล สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ และตนก็เห็นแล้วว่า ทำได้ดี ทั้งต้องแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทิ้งเอาไว้ เช่น โครงการรับจำนำข้าว และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่สะสมมานาน ได้พัฒนาประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ทุกภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนได้ร่วมมือกันอย่างดี เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำจากนายโทนี่ ถ้านายโทนี่จะช่วยประเทศชาติได้ในภาวะนี้ คือ หยุดพูดสร้างความสับสนและด้อยค่าคนอื่น หยุดพูดเหน็บแนมคนอื่น หยุดพูดสร้างความแตกแยกให้กับคนไทยได้แล้ว นี่คือสิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดในยามนี้

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า 3 วิธีที่นายทักษิณ จะกลับได้นั้น 1.ต้องนำ พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญา ขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 2.ประชาชนร้องสภาให้ออก พ.ร.บ.นิรโท๋กรรม และ 3.ขอพระราชทานอภัยโทษแบบเป็นการเฉพาะตัว