จากกรณีภรรยาของนายโกศล ผู้สูญหาย ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วย
ล่าสุด วันที่ 11 มิ.ย. 64 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฏร์ธานี ประชุมพนักงานสอบสวนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและภาค 8 เพื่อติดตามรับโอนคดีอุ้มฆ่านายโกศล ให้พนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการต่อ
โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ส่วนกลางดำเนินการในคดีนี้แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 64
นางสาวจินดาหรา วสินทรัพย์ หรือ เกว ภรรยาของเสี่ยโกศล กล่าวว่า ล่าสุดตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ตนยอมรับว่าหมดปัญญาแล้วที่ตามหาทั้งศพของสามี และตามตัวของคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งตนจะเดินทางกลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านเกิด จ.นครสวรรค์ เพื่อจะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเรื่องการค้นหาศพของสามีก็จะให้ทางลูกชายตามหาต่อไป ถ้าหากมีความคืบหน้าหรือเบาะแส ตนก็จะกลับมาอีกครั้ง
ส่วนตัวตอนนี้ยังเชื่อมั่นการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะจับกุมคนร้ายได้แน่นอน ตนก็เข้าใจดีว่าติดตามเรื่องยากมาก โดยถ้าหากว่าได้ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร เรื่องศพก็หาได้ไม่ยาก ทั้งนี้ ตนยังมีความหวังเรื่องการพบศพ ได้แต่คอยขอพรภาวนาอยู่ตลอดว่าขอให้คดีได้จบลงโดยเร็ว
นายพุทธิศรัญญู เรืองดุก หรือ ต๊ะ อายุ 24 ปี ลูกชายของเสี่ยโกศล เปิดเผยว่า ตอนนี้เรื่องการตามหาร่างพ่อของตน ยังคงตามหาเบาะแสอยู่ตลอด สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกกับตนว่าต้องใช้เวลาสักพักในการตามจับตัวคนร้าย ซึ่งถ้าหากพบตัวคนร้ายแล้ว เรื่องตามหาร่างของพ่อก็ไม่ยาก
ซึ่งตอนนี้ตนเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความสามารถมากพอที่จะทำให้คดีเรื่องนี้จบได้โดยเร็ว ทุกวันนี้ขณะที่ตนอยู่บ้านมีความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ยิ่งมีรถแปลกหน้าเข้ามาขับขี่แถวละแวกหน้าบ้านของตน ยิ่งตื่นตระหนกตกใจ ทุกวันนี้ต้องรีบปิดประตูตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถ้าเป็นช่วงค่ำก็จะไม่ออกจากบ้าน ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น
ถึงตอนนี้ผ่านเวลาไปกว่า 39 วันแล้วที่ยังไม่พบเบาะแสทั้งคนร้ายและร่างของพ่อ ตนก็ยังมีความหวัง เชื่อว่าทางตำรวจมีความสามารถที่จะตามคดีนี้ให้จบลงได้ ส่วนตัวตอนนี้ทำได้เพียงแค่ภาวนาขอพบร่างของพ่อเท่านั้น และจะยังไม่ทิ้งการค้นหา