เปิดตัว “สำลีคอลลาเจน” (AIME COLLAGEN) นวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งแรกของเมืองไทย

ปรนนิบัติผิวหน้าให้สวยสุขภาพดีไปกับแบรนด์ “เอเม่ บิวตี้ คอตตอน” (AIME Beauty Cotton) แบรนด์สำลีเพื่อการดูแลและทำความสะอาดผิวหน้าโดยเฉพาะ ที่ล่าสุดเปิดตัว “สำลีคอลลาเจน” (AIME COLLAGEN) นวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งแรกของเมืองไทย กับสำลีจากใยฝ้ายบริสุทธิ์และเส้นใยธรรมชาติที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเล เพื่อการดูแลและบำรุงผิวหน้าได้อย่างสูงสุด

สัมผัสประสบการณ์การการดูแลและทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก ไปกับสำลีคอลลาเจนจากแบรนด์ “เอเม่ บิวตี้ คอตตอน” (AIME Beauty Cotton) ผลิตภัณฑ์สำลีเพื่อการดูแลและทำความสะอาดผิวหน้าโดยเฉพาะ ที่ล่าสุดได้จัดงานเวิร์คช็อปเปิดตัวสำลีคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยมี แพทย์หญิงนิโลบล เจริญวุฒิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม มาร่วมแนะนำเทคนิคการเลือกใช้สำลี พร้อมเทคนิคการทำความสะอาดและดูแลผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

“เอเม่ บิวตี้ คอตตอน” (AIME Beauty Cotton) แบรนด์ผลิตภัณฑ์สำลีที่ดีต่อสุขภาพผิว ซึ่งเป็นที่นิยมและรู้จักกันดีในแวดวงความสวยความงาม กับสำลี AIME Facial Cotton Pad ที่ผลิตจากฝ้ายธรรมชาติ 100% คัดสรรเฉพาะใยยาว เพื่อคุณภาพสูงสุด      ถักทอเป็นสำลีแผ่นด้วยเทคโนโลยีไฮโดร-เอนแทงเกิลเมนต์ (Hydro-Entanglement) จากประเทศญี่ปุ่น เป็นการใช้น้ำแรงดันสูงในการปรับสภาพและผสานเส้นใยฝ้ายเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตสำลีที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ซึ่งทำให้สำลีมีความปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน ปราศจากสารยึดเกาะและสารเรืองแสงต่างๆ และเพิ่มคุณสมบัติซึมซับได้เป็นอย่างดี

ฐานิศร์ ไชยกุลงามดี กรรมการผู้จัดการบริษัท งามดีคอตตอน จำกัด กล่าวว่า “เรามีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในผลิตสำลีทั้งเพื่อใช้ทางการแพทย์ และสำลีอเนกประสงค์อื่นๆ มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การเลือกแหล่งที่มาของวัตถุดิบ การคัดกรองสิ่งแปลกปลอม การทำความสะอาด การแปรรูป การบรรจุ รวมไปถึงกรรมวิธีฆ่าเชื้อจนถึงมือลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์ของเราตั้งอยู่บนมาตรฐานและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งในปีนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 แล้วสำหรับแบรนด์เอเม่ ที่ผ่านมาเราได้เล็งเห็นถึงการดูแลตัวเองของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในการเลือกใช้สินค้าที่ไม่ใช่อะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นของดีมีคุณภาพใช้แล้วอยากใช้อีก อย่างสำลีที่ใช้กันทุกวันถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ใช้แล้วทิ้งแต่ก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะสำลีส่งผลต่อสุขภาพผิวได้ วันนี้เราต้องการก้าวไปอีกขั้นสู่นวันตกรรมใหม่ๆ ด้วยการเปิดตัวสำลีคอลลาเจนครั้งแรกในประเทศไทย ที่เราได้รับความร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับบริษัทจีอีพีสปินนิ่ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตและพัฒนาเส้นใย  ฟิลาเจน หรือเส้นใยธรรมชาติที่มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ พัฒนาออกมาเป็นสำลีคอลลาเจน สำลีที่ดีต่อสุขภาพผิว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่รักสวยรักงาม พิถีพิถันในการดูแลสุขภาพผิวพรรณของตนเอง ที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์ของเราสามารถย่อยสลายได้จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

สำหรับผลิตภัณฑ์ สำลีคอลลาเจน (AIME Collagen) ขนาดบรรจุ 60 แผ่น ราคา 128 บาท เป็นแผ่นสำลีสีชมพูปนขาวขนาดแผ่นใหญ่กว่าสำลีทั่วไปที่ 6.5*9 ซม. ผสมผสานเนื้อสำลีสีขาวที่มาจากใยฝ้ายบริสุทธิ์ ผสมกับสีชมพูของฟิลาเจน หรือใยธรรมชาติที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเล ซึ่งผ่านการย้อมตามมาตรฐานของระบบสากลจาก OEKO-TEX Standard ในชนิด Product Class 1 ซึ่งไม่เป็นอันตรายสามารถใช้ได้ทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็กแรกเกิด

มาพร้อมคุณสมบัติในเรื่องการดูดซับสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึกกว่าใยฝ้ายธรรมดาด้วยขนาดเส้นใย 0.9 ดีเนียร์เทียบเป็นไมโครไฟเบอร์ และยังมีค่าการดูดซึมกว่า 10-13% ในขณะที่ใยฝ้ายธรรมดาอยู่ที่ 6-7 % จึงช่วยดูดซับและกักเก็บเติมเต็มความชุ่มชื้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้ผิวสัมผัสนุ่มลื่นเป็นพิเศษ ลดการเสียดสีเวลาใช้ ไม่บาดผิว ไม่ทำให้เกิดริ้วรอย เหมาะกับทุกสภาพผิว

ด้าน แพทย์หญิงนิโลบล เจริญวุฒิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะนำการเลือกใช้สำลี พร้อมเทคนิคการทำความสะอาดและดูแลผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดว่า

“การมีผิวหน้าที่สวยสุขภาพดีนั้น ย่อมเกิดจากการที่เราให้ความสำคัญและมีความพิถีพิถันในการดูแลผิวหน้า นอกจากการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวแล้วนั้น อุปกรณ์ทำความสะอาดผิวอย่าง ‘สำลี’ ก็ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ถึงแม้ว่าสำลีจะเป็นสิ่งที่ใช้แล้วทิ้ง แต่ที่จริงแล้วถือว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่ใช้สัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง ซึ่งไม่ว่าจะมีสุขภาพผิวแบบไหน ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม ต่างก็ต้องใช้สำลีทั้งสิ้น ทั้งเพื่อเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดเครื่องสำอาง เช็ดบำรุงผิว หรือใช้เป็นมาส์ก

โดยสำลีที่ดีนั้นจะต้องเป็นสำลีที่ผลิตจากใยฝ้ายแท้ธรรมชาติ มีผิวสัมผัสที่นุ่มอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของสารเรืองแสงที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ช่วยดูดซับน้ำได้ดี และด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความก้าวหน้าในปัจจุบัน จึงทำให้มีการผลิตสำลีที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนออกมา ทำให้เรามีตัวเลือกในการใช้สำลีที่ดีมากขึ้น ซึ่งถ้าเราใช้สำลีที่ไม่ได้มาตรฐาน มีสารปนเปื้อน ผิวหยาบ ก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ หรือสำลีที่ดูดซับน้ำได้ไม่ดี มีการกักเก็บน้ำได้น้อย ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลดน้อยลง

สำหรับวิธีการใช้สำลีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดนั้นจริงๆ แล้วสำคัญที่เทคนิคการใช้ ต่อให้เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพงที่สุดหรือดีที่สุดแต่เทคนิคไม่ถูกต้อง การใช้ลำลีก็ไม่เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้สำลีได้ตามประเภทของผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ล้างหน้า

โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้สำลีกับคลีนซิ่งวอเตอร์เป็นหลัก และใช้กับคลีนซิ่งมิลค์เป็นตัวรองลงมา โดยมีเทคนิคในการใช้ที่ถูกต้องก็คือ เวลาทำความสะอาดผิวหน้า เราต้องเลือกใช้สำลีที่สามารถดูดซับน้ำได้ดี เพื่อที่สำลีจะสามารถโอบอุ้มคลีนซิ่งของเราไม่ให้แห้งเร็ว เพราะเราจะไม่เช็ดหน้าในทันทีหลังจากที่แปะสำลีลงไป แต่จะต้องรอให้คลีนซิ่งทำละลายกับเครื่องสำอางก่อนประมาณ 5-10 วินาที หลังจากนั้นจึงเช็ดเครื่องสำอางออก ก็จะช่วยขจัดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นเทคนิคในการทำความสะอาดที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

หากสำลีที่เราเลือกใช้ดูดซับน้ำได้น้อย สำลีก็จะแห้งเร็วทำให้เราต้องเช็ดหน้าหลายรอบ ถือเป็นการรบกวนผิวหน้าหลายครั้ง ผิวหน้าก็จะเกิดการระคายเคือง เกิดริ้วรอยได้ง่าย ส่วนการใช้สำลีร่วมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ อย่างเช่น การใช้สำลีมาส์กหน้า ก็สามารถทำได้ หากสำลีดูดซับน้ำได้ดีก็จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างเต็มที่ มีส่วนช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึบซับลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น”