เมียเสี่ยโกศลปรับแผนกู้ศพ เจอใบสั่งห้ามยุ่งคดี อ.อ๊อดเข้าแล็บพิสูจน์กระดูก (คลิป)

กรณีภรรยาของนายโกศล ผู้สูญหาย ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วยนั้น

วันที่ 25 พ.ค. 64 ครอบครัวเสี่ยโกศลไม่ได้มีปฏิบัติการค้นหาทั้งทางบกและทางทะเล เนื่องจากทางทะเลมีขึ้นลมแรงจากฤดูมรสุมในช่วงนี้ ซึ่งกำลังติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับประกาศคลื่นลมแรงในทะเล คาดว่ามรสุมจะอ่อนกำลังคลื่นลมในทะเลจะลดลงในช่วงวันที่ 27 พ.ค. 64

ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากญาติของเสี่ยโกศล การออกปฏิบัติการหลังวันที่ 27 พ.ค. จะมีการเปลี่ยนรูปแบบการออกเรือไปกลางทะเล บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง เปลี่ยนจากเรือหางยาวขนาดกลาง เป็นเรือหาปลาขนาดใหญ่ 2 ลำ ทำให้การเดินทางยาวนานกว่าเดิม จาก 3 ชั่วโมง เป็น 6 ชั่วโมง จะใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมงในการค้นหา

เมื่อไปถึงจุดตามพิกัดที่ชาวบ้านเห็นอวนพันติดกันเสาปูแล้ว จะใช้เรือ 2 ลำ จอดขนานกันห่างกันประมาณ 30-40 เมตร หย่อนเชือกสลิงเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ผูกสมอเรือลงไปที่ก้นทะเล คาดว่าเสาปูน 3 ต้นรวมกับน้ำหนักศพจะมีน้ำหนักถึง 200 กิโลกรัม ดังนั้น เรือ 1 ลำ ที่มีลอกชักจูงรับน้ำหนัก 100 กิโลกรัมจึงต้องใช้ 2 ลำ จึงจะยกวัตถุดังกล่าวขึ้นมาได้ แต่หากอุปสรรคใต้น้ำไม่สามารถที่จะยกอุปกรณ์ดังกล่าวที่มีน้ำหนักมากได้ ก็จะต้องพึ่งอุปกรณ์ขนาดใหญ่หรือเรือที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรืออุปกรณ์จากเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ

โดยวิธีการที่ 2 ที่ครอบครัวได้มีการวางแผนเอาไว้เบื้องต้น ต้องนำแกลลอนขนาด 200 ลิตร จำนวน 2-3 ถังใส่น้ำลงไปให้เต็ม ใช้ชาวบ้านที่มีหน้ากากต่อกับเครื่องอากาศ ดำลงไปพร้อมถัง 200 ลิตร อากาศอัดเข้าไปแทนที่ในแกลลอน 200 ลิตร เพื่อระบายน้ำในถังออก นำถังดังกล่าวไปผูกติด หัวท้ายของวัตถุต้องสงสัยใต้น้ำเพื่อให้ลอยตัวขึ้นมาเหนือน้ำได้

นางจินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาของเสี่ยโกศล เปิดเผยว่า วันนี้แม้ว่าจะผ่านไป 20 กว่าวัน คดีค่อนข้างที่จะเงียบ ตนไม่เคยได้รับการติดต่อหรือทราบความคืบหน้าทางคดีจากตำรวจ ถ้าหากคดีไม่มีความคืบหน้า ตนเตรียมที่จะร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อให้คดีมีความคืบหน้ามากกว่านี้ เนื่องจากทุกวันนี้กลัวเรื่องความปลอดภัย

ด้านการค้นหาเบาะแสของเสี่ยโกศล ตนเองก็ยังจะมีการค้นหาตามเดิม เพราะต้องการนำร่างขึ้นมาประกอบพิธีทางศาสนา แต่ตอนนี้ที่หยุดปฏิบัติการเป็นเพราะในทะเลมีขึ้นลมแรง ทุกวันนี้ตัวเองก็ได้รับการติดต่อจากชุดปฎิบัติงานทางคดี ให้งดการค้นหาแบบไร้เบาะแส ส่วนตัวก็ยังรู้สึกงงว่าการค้นหาในแต่ละรูปแบบก็เป็นเพียงความหวังของครอบครัว ทำไมถึงถูกเบรก และทำไมถึงกลัวว่าเป็นข่าวแล้วคดีจะทำงานยาก

ส่วนกรณีเรื่องของการเจอเศษคล้ายกระดูกในกองเผานั่งยาง รู้แต่เพียงว่ามีตำรวจย้อนกลับไปลงพื้นที่ แต่ไม่รู้ว่ามีการเก็บหลักฐานไปตรวจสอบหรือไม่ ที่สำคัญไม่ได้ติดต่อมายังครอบครัวเพื่อขอนำกระดูกไปทำการตรวจสอบ ส่วนตัวก็ยังงงเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่เหมือนกัน แต่อีกมุมก็มองว่าอาจเป็นคนที่ทำงานมาแล้วหลายคดี เพียงแค่ใช้ตามองก็อาจจะรู้ว่าเป็นการเผานั่งยางหรือเผากิ่งไม้ แต่ถ้าหากกองเผานั่งยางดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตายของสามี ตนเองก็อยากจะให้ตรวจสอบ

ทั้งนี้ กรณีเรื่องการตัดพ้อในการโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงการทำธุรกิจงมหอยบิดหลังเสี่ยโกศลเสียชีวิต ตนเองได้มีการฝากธุรกิจเอาไว้ให้กับครอบครัวของเสี่ยโกศล เพราะไม่สามารถที่จะทำธุรกิจงมหอยบิดต่อไปได้ ไม่ใช่เป็นเพราะไม่มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญ แต่เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย ทุกวันนี้คดีเงียบ "วันหนึ่งสื่อออกจากพื้นที่ คนร้ายก็ยังจับไม่ได้ ตนเองและคนในครอบครัว ลูกน้อง จะอยู่รอให้เขามายิงแล้วนำไปฝังดินหรือยังไง ฉะนั้นก็ต้องต่างคนต่างไป ต่างคนต่างเอาตัวรอดในช่วงที่ตำรวจไม่ทำงาน" หากวันหนึ่งตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ ตนก็พร้อมที่จะย้อนกลับมาดูธุรกิจงมหอยบิดต่อ

ที่อาคารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทีมข่าวนำชิ้นส่วนที่พบมาสอบถามผู้เชี่ยวด้านวิทยาศาสตร์ โดย รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการดูชิ้นส่วนทางกายภาพ เป็นความเห็นทางวิชาการไม่เกี่ยวข้องกับทางคดี มีความเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง คือทั้งชิ้นส่วนกระดูก และชิ้นส่วนของอิฐมวลเบา หากเป็นชิ้นส่วนกระดูกต้องมาตรวจดูอีกว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือสัตว์ ถ้าหากเป็นกระดูกมนุษย์จะมีชิ้นใหญ่ และตรงยาวกว่าของสัตว์ ส่วนกระดูกสัตว์จะชิ้นเล็กและโค้งกว่า ข้อต่อกระดูกของสัตว์จะใหญ่กว่าของมนุษย์

ทั้งนี้ ถ้าหากเป็นกระโหลกศีรษะก็จะดูได้ทันทีว่าเป็นสัตว์หรือมนุษย์ และจะสามารถแยกเพศได้ ดูจากสะบักคิ้ว ในเพศชายจะโหนกนูนมากกว่าในเพศหญิง ชิ้นส่วนที่นำมาให้ตนตรวจสอบมีขนาดค่อนข้างเล็ก จึงค่อนข้างแยกยากว่าเป็นมนุษย์หรือสัตว์ ถ้าหากเป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่กว่านี้ในทางนิติวิทยาศาสตร์จะสามารถแยกได้ถึง 60% ถ้าหากเป็นชิ้นเล็กแบบนี้เคมีที่อยู่ในเนื้อกระดูกของคนและสัตว์จะเหมือนกัน ค่อนข้างแยกยากมาก ประกอบกับชิ้นส่วนของอิฐมวลเบาบางชนิดก็มีลักษณะคล้ายกระดูกด้วย

ส่วนที่มีชาวบ้านในพื้นที่มีการสันนิษฐานว่าเป็นกระดูกปลาวาฬ ชาวบ้านคงจินตนาการ เนื่องจากเห็นลักษณะเป็นริ้ว ๆ ในชิ้นส่วน ประกอบกับบริเวณที่เก็บได้มีการนำซากปลาวาฬมาเผาก็มีความเป็นไปได้ แต่เท่าทีดูมีรูพรุนคล้ายก้อนหิน หากจะแยกประเภทว่าเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ต้องใช้เครื่องมือนิติวิทยาศาสตร์ กองพิสูจน์หลักฐาน ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานถึง 3 เดือน

โดยขั้นตอนการพิสูจน์ ถ้าหากจะดูว่าเป็นอิฐมวลเบาจริงหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์ทางเคมี การนำเข้าห้องแล็บ โดยใช้กล้องสแกนนิ่งอีเล็กตรอนไมโครสโคป หรือ SEM ถ้าหากพบซิลิคอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสารอนินทรีย์ ก็จะทราบชัดเจนทันทีว่าคืออิฐอละไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต แต่ถ้าหากพบแร่ธาตุที่เป็นแคลเซียม หรือถ้าหากพบเศษซากของอะมิโนแอซิด หรือ โปรตีน ก็จะเป็นชิ้นส่วนกระดูก

โดยอาจารย์อ๊อดได้มีการนำชิ้นส่วนที่ทีมข่าวนำมาให้ตรวจสอบไป 2 ชิ้น ขนาดเล็ก และจะมีการนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลว่าเป็นชิ้นส่วนใดในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.64)