แก๊งมังกรเปิดใจสื่อกลัวหลังยิงถล่มตำรวจสาหัส ลั่นไม่ผิดทนายปัดเอี่ยวธุรกิจมืด (คลิป)

กรณีตำรวจสืบสวนภาค 2 ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ตำรวจชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดชลบุรี และตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี เข้าปิดล้อมตรวจสอบบ้านหรูหลังหนึ่ง ในสนามกอล์ฟ หมู่ 9 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ 2 คน เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 พ.ค.64

เมื่อไปตรวจสอบพบเป็นบ้านหรูหลังใหญ่ 3 ชั้น บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ภายในบ้านยังพบรถยนต์หรู 2 คัน ทั้งโรลส์-รอยซ์ สีขาว ทะเบียน ชย 999 และเบนซ์ สีดำ 9 กศ 2774 กทม. จากนั้นส่งหน่วยสวาทเข้ากระชับพื้นที่ภายในตัวบ้าน

สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่ถูกยิงทราบชื่อ ร.ต.อ.พันเทพ ศรีบุญนาค หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ.เมืองพัทยา ช่วยราชการชุดปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติภาค 2 ถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ หน้าอก ท้องรวม 3 นัดอาการสาหัส ส่วนอีกราย ด.ต.กรีฑา ทิพย์เนตร ถูกยิงที่หน้าอกแต่ไม่เข้า และถูกยิงเข้าขา 1 นัด ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่รีบเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาลอย่างเร่งด่วน ก่อนจู่โจมเข้าจับกุมคนร้ายภายในบ้าน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ Mr.Yang Zhang (จาง หยาง) สัญชาติ ST.CHRISTOPHERAN (เซนต์คิตส์และเนวิส เป็นหมู่เกาะในเครือของอังกฤษ) โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างสอบสวน

ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.64 เวลา 14.20 น. พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ ในสนามกอล์ฟ หมู่ 9 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายหลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วพลตำรวจเอกสุชาติ ยังไม่สะดวกให้สื่อสัมภาษณ์ เนื่องจากต้องประชุมกับผู้ใต้บังคับบัญชา

หลังจากนั้น พลตำรวจเอกสุชาติ ได้เดินทางมาประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะแถลงข่าว กล่าวว่า วานนี้ (19 พ.ค.64) ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ไปปฏิบัติหน้าที่ โดยมีหมายค้นเกี่ยวกับการกระทำผิดพ.ร.บ.อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ จึงได้นำหมายค้นไปที่บ้านของผู้ต้องหา ขณะนั้นยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตนตรวจค้น และปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน แต่พอผู้ต้องหาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วิ่งหนี้เข้าไปในห้องนอน เจ้าหน้าได้วิ่งตามขึ้นไป พอเปิดประตูห้องทำให้ผู้ต้องหายิงสวน เป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังได้ใช้แก๊สน้ำตา การกระทำดังกล่าวถือว่ามีเจตนายิงใส่เจ้าหน้าที่ และไม่ได้เข้าใจผิดว่าตำรวจเป็นคนร้าย โดยในที่เกิดเหตุ บริเวณห้องนอนยังพบกระสุน จำนวน 60-70 ปลอก

ขณะเดียวกกัน ตนยอมรับว่าตำรวจยังต้องรวบรวมหลักฐานภายในบ้านให้ครบถ้วน คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.64) เจ้าหน้าที่จะสามารถตรวจค้นและตรวจยึดหลักฐานในบ้านได้อย่างครบถ้วน ซึ่งในวันนี้เจ้าพนักงานได้แบ่งหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้การทำงานชัดเจนขึ้น สำหรับของกลางที่สามารถยึดได้เบื้องต้น คือ อาวุธปืน 2 กระบอก โดยมี 1 กระบอกที่กลุ่มเพื่อนผู้ต้องหาพยายามลำเลียงออกจากภายในบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้ได้ก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าวเป็นอาวุธปืนดัดแปลง

นอกจากนี้ ยังสามารถยึดเสื้อเกาะ เกาะแข็ง ถือว่าเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหาร หรืออาวุธสงคราม ไม่สามารถครอบครองไว้ได้ และยังได้หลักฐานในส่วนอื่น เช่น คอมพิวเตอร์ และเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจและธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งจะต้องทยอยเก็บรายละเอียดให้ครบถ้วน และจะต้องตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าของคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการสอบปากคำคนที่อยู่ในบ้านทั้งหมดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และจะตรวจสอบว่าคนที่อยู่ในบ้านโดยเฉพาะชาวต่างชาติ มีพฤติการณ์ถือว่าเป็นบุคคลคนที่เป็นภัยต่อความมั่นคงตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง มาตรา 12 หรือไม่ หากพิจารณาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ก็จะดำเนินการเพิกถอนวีซ่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ 3 ข้อกล่าวหา 1.พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการทำตามหน้าที่ 2.ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวาง เจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธปืน และ 3.มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยัง สภ.ห้วยใหญ่ พูดคุยกับนายอนิรุจน์ คงทรัพย์ อายุ 53 ปี ทนายความของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วานนี้ (19 พ.ค.64) ช่วงเวลา 18.00 น. ทางลูกน้องของผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์มาหาตนว่า ภายในบ้านมีตำรวจเข้าไปตรวจค้นบ้าน และได้เกิดเหตุยิงปะทะกันเกิดขึ้น ตนจึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ก่อนจะเดินทางไปยัง สภ.ห้วยใหญ่

เมื่อมาถึงได้สอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยอ้างว่าขณะที่เกิดเหตุภายในบ้านมีคนอยู่อาศัย 8 คน ประกอบด้วย ผู้ก่อเหตุ เป็นเจ้าของบ้าน แฟนสาว ลูกพี่ลูกน้อง 2 คน (ผู้ชายทั้งหมด) แม่บ้าน 2 คน (ผู้หญิงทั้งหมด) คนทำสวน 1 คน (ผู้ชาย) และคนทำอาหาร 1 คน (ผู้ชาย) ขณะเดียวกันพบว่า ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคนปีนข้ามรั้วเข้าไปในบ้าน ขณะนั้นไม่ได้ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกลุ่มชายฉกรรจ์สวมใส่ชุดนอกเครื่องแบบ

ทางผู้ต้องหาคิดว่าน่าจะเป็นคนร้าย จึงได้นำอาวุธปืนที่มีอยู่ในบ้านยิงเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการข่มขู่ว่าจะถูกอุ้มฆ่า ตนไม่แน่ใจว่าผู้ต้องหามีปัญหาอะไรหรือไม่ ส่วนอาวุธปืนนั้นคาดว่าเป็นของแฟนสาว โดยมีใบอนุญาตให้ครอบครอง ขณะเดียวกันตนยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ต้องหา เนื่องจากอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ ตนทราบมาว่าหมายค้นที่ตำรวจอ้างนำไปตรวจค้นนั้น เป็นหมายเกี่ยวกับลักลอบเปิดโต๊ะพนันออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาตนทราบว่าผู้ก่อเหตุประกอบอาชีพอสังหาริมทรัพย์ และเทรดหุ้น ส่วนจะมีธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ โดยตนรู้จักกับผู้ต้องหาประมาณ 1 ปีแล้ว ตนจะทำคดีความให้ ซึ่งเขาได้มาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย 1 ปีกว่า ๆ อย่างไรก็ตาม ตนอยากทราบว่าตำรวจทำตามขั้นตอนหรือไม่ 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้พาคนที่อยู่ในบ้านไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด เบื้องต้นพบว่าไม่มีใครพบสารเสพติดในร่างกาย นายจัน (นามสมมติ) คนสวน เปิดเผยว่า วานนี้ (19 พ.ค.64) เวลา 14.30 น. ตนตัดหญ้าอยู่ที่หน้าบ้าน พบว่ามีรถยนต์ประมาณ 4-5 คันขับมาจอดที่บริเวณใกล้บ้าน พร้อมกับมีกลุ่มชายฉกรรจ์ สวมใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์จำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามาล้อมรั้วบ้านไว้ ก่อนจะปีนกำแพงเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งไม่ได้เข้าทางประตูหน้าบ้าน แต่เข้าประตูหลังบ้าน

ขณะเดียวกัน ตนได้ตัดสินใจเดินไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น โดยชายฉกรรจ์ที่อยู่หน้าประตูบ้านจำนวน 2 คน อ้างว่าเป็นตำรวจมีหมายค้น แต่ตนไม่ได้เห็นหมายค้น และไม่แน่ใจว่าได้แสดงหมายค้นในบ้านหรือไม่ ผ่านไปครู่หนึ่งตนได้ยินเสียงหมาเห่า ตนจึงได้เดินไปส่องที่รั้วบ้าน พบว่าภายในบ้านมีคนวิ่งเต็มไปหมด และได้ยินเสียงเคาะประตูซึ่งดังมาก ก่อนจะมีเสียงปืนดังลั่นออกมา ประมาณ 40-50 นัด

ภายหลังจากเกิดเหตุ ตนยังไม่ได้พูดคุยกับทางนายจาง หยาง ซึ่งเป็นนายจ้างของตน ถึงสาเหตุที่ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตัวแล้วตนเข้ามาทำงานเป็นคนสวนได้ 4 เดือน ตนไม่เคยเห็นว่านายจ้าง มีอาวุธปืนหรือเสื้อเกาะ และไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด นอกจากนี้ตนไม่ทราบว่านายจ้าง ประกอบอาชีพอะไร แต่คาดว่าไม่ใช่ธุรกิจสีเทาอย่างแน่นอน ส่วนตัวแล้วเท่าที่ตนสังเกต นายจ้างไม่ค่อยออกจากบ้าน ลักษณะนิสัยใจคอก็เป็นคนดี

นอกจากนี้ ตำรวจได้นำตัว นายจาง หยาง ไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายจาง อยู่ในลักษณะที่วิตกกังวล หวาดกลัว พร้อมระบุว่า “ขณะนี้กลัว ขอให้ช่วยเหลือ เขาบริสุทธิ์ไม่ได้ทำอะไรผิด”