“ฝันเด่น” เปิดภารกิจหา 13 ชีวิต เหนื่อยแต่ไม่เลิก - ชาวบ้านเผย ได้ยินเสียงเด็กเล่นในถ้ำ (คลิป)

28 มิ.ย. 61
ความคืบหน้าการค้นหากลุ่มผู้สูญหาย 13 คน ที่สูญหายไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตลอดทั้งวันนี้ (28 มิ.ย. 61) เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการให้ความสำคัญในการสูบน้ำออกจากถ้ำ เนื่องจากปริมาณน้ำภายในถ้ำยังเพิ่มสูง หลังมีฝนตกลงในพื้นที่ตลอดทั้งคืน
เจ้าหน้าที่เร่งสูบระบายน้ำ
โดยครูบาน้อย อริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เดินทางมากราบสักการะเจ้าแม่นางนอน บริเวณหน้าปากถ้ำหลวง โดยใช้เวลาราว 30 นาที ในการสวดมนต์ ก่อนจะเดินเข้าไปดูบรรยากาศการทำงานภายในถ้ำ และเดินกลับออกมา ทั้งนี้ ครูบาอริยชาติ ให้พรกับสื่อมวลชน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างลุลวง ก่อนเดินไปที่กองอำนวยการ
ครูบาน้อย อริยชาติ กราบสักการะเจ้าแม่นางนอน
ครูบาน้อย อริยชาติ เปิดเผยว่า อาตมาได้ติดตามข่าว และวันนี้มีกิจนิมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง จึงเดินเข้ามาเพื่อให้กำลังใจ ทั้งนี้ จากการเข้าไปภายในถ้ำมีบรรยากาศที่น่ากลัว และรู้ว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ ซึ่งอาตมาได้สวดมนต์ แผ่เมตตา ขอให้ผู้สูญหายออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย และวันนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี คือฝนไม่ตกแล้ว จึงเชื่อว่าอีกไม่นาน เจ้าหน้าที่จะสามารถช่วยเหลือผู้สูญหายออกมาจากถ้ำได้
ครูบาน้อย อริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย
ทั้งนี้ อยากฝากให้ทางครอบครัวและญาติ ๆ ของทั้ง 13 คน ตั้งสติ และเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ ว่าจะสามารถช่วยเหลือทุกคนออกมาได้ ซึ่งความมีน้ำใจของทุกคน ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี นอกจากนี้ ครูบาน้อย นำปัจจัยมาร่วมสมทบทุน เป็นค่าใช้จ่ายในการใช้ช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทั้ง 13 คน
ดร.ธนา สราญเวชภัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญ จาก ปตท.สผ.
ด้าน ดร.ธนา สราญเวชภัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญ จาก ปตท.สผ. ได้นำคณะ พร้อมอุปกรณ์โดรน เดินทางมาสนับสนุนการปฏิบัติการ โดย ดร.ธนา กล่าวว่า ได้นำอุปกรณ์การบินไร้คนขับ หรือ โดรน ที่มีศักยภาพในการบินทั้งบนพื้นที่สูงและพื้นที่แคบ มีซอฟต์แวร์พิเศษ สามารถถ่ายภาพออกทำเป็นแผนที่แบบสามมิติได้
ชุดโดรนและอุปกรณ์ที่นำมาใช้งาน
นอกจากนี้ มีโดรนที่ใช้ดำน้ำและโดรนขนาดเล็กที่สามารถดำในน้ำที่มีภูมิประเทศคับแคบหรือจำกัดได้ รวมทั้งมีหุ่นยนต์ภาคพื้นดิน ที่สามารถเดินทางเข้าไปในโพรงขนาดเล็กด้วย พร้อมมีอุปกรณ์เครื่องตรวจจับความร้อน สแกนหาจุดที่มีคนอยู่ได้ โดยมีความพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที หลังจากเจ้าหน้าที่ทหารกำหนดจุดให้ขึ้นบินสำรวจไว้แล้ว
กลุ่มชาวบ้านค้นหาโพรงตรงบริเวณจุดใกล้ปากถ้ำ
ทั้งนี้เมื่อช่วงสาย บริเวณบันไดทางขึ้นถ้ำหลวง พบว่ามีกลุ่มของผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนชาวบ้าน เดินทางมาบริเวณหน้าทางขึ้น เพื่อค้นหาโพรงตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ปรากฎพบมีโพรงอยู่จุดหนึ่ง ความกว้างปากโพรงประมาณ 2 เมตร ด้านในมีช่องลงไป ซึ่งไม่ทราบว่าด้านในไปทะลุจุดใด ซึ่งอยู่ใกล้ปากทางเข้าถ้ำ
นางนภาสรณ์ ทาตุการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย
โดยนางนภาสรณ์ ทาตุการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ตนมีความต้องการให้มีตรวจสอบบริเวณโพรงนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปูพรมหาโพรงตลอดแนวเขาทั้งหมด จึงคิดว่าจุดนี้เป็นจุดที่ใกล้ปากถ้ำ และควรให้ความสำคัญ เพราะอาจจะเป็นจุดที่ผู้สูญหายอยู่ก็ได้ นอกจากนี้ นางนภาสรณ์ ยังระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายช่วงเวลา21นาฬิกา ตนก็รีบลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรากฎเมื่อมาถึงพื้นที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้ยินเสียงคล้ายเด็กคุยกัน เหมือนว่าเด็กอยู่ไม่ไกล แต่ปรากฎเมื่อเข้าตรวจสอบในจุด3กิโลเมตร ก็ไม่พบกลุ่มผู้สูญหายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามวันดังกล่าวตนสังเกตว่าระดับน้ำในถ้ำขึ้นสูงเร็วมาก เนื่องจากผ่านไปเพียงไม่ถึง10นาที ระดับน้ำที่อยู่ในระดับข้อเท้า ก็สูงขึ้นถึงระดับเอวแล้ว
ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลหมูป่า
ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลหมูป่า ให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นห่วงเด็กๆมาก ที่ผ่านมาตนไม่เคยทราบว่าเด็กๆกลุ่มนี้เข้ามาเที่ยวเล่นในถ้ำ หากตนทราบตนไม่มีทางจะให้เดินทางมาอย่างแต่นอน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกความเป็นไปได้ เพราะมั่นใจเด็กยังปลอดภัย ด้วยเพราะชำนาญเส้นทางในถ้ำ
รถขุดเจาะบาดาล
นอกจากนี้ช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนน้ำเพชรบาดาล ได้น้ำรถขุดเจาะบาดาลเข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่ โดยเป็นเครื่องสำหรับขุดเจาะโดยเฉพาะ โดยจะนำเข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่ทั้งสิ้น 3 คัน
เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนน้ำเพชรบาดาล
ระบุว่ารถเจาะสามารถเจาะทะลุพื้นผิวได้ลึกมากกว่า 1 กิโลเมตร อีกทั้งหากพบน้ำ ก็สามารถใช้ลมเป่าให้น้ำในถ้ำออกมาได้ พร้อมยืนยันไม่มีผลกระทบกับโครงสร้างถ้ำ เนื่องจากช่องเจาะมีรัศมีกว้างเพียง 6.5 นิ้ว เท่านั้น
เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร นักแสดงทีมกู้ภัยจิตอาสา
ด้าน เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร นักแสดงทีมกู้ภัยจิตอาสา ที่เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. โดยวันนี้ได้เดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯ แล้ว เนื่องจากติดภารกิจถ่ายละคร ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าหากถ่ายละครเสร็จแล้วและปฏิบัติการค้นหายังไม่เจอตัวกลุ่มผู้สูญหาย ตนก็จะกลับไปที่ถ้ำหลวงอีกครั้ง โดยตั้งแต่เกิดเรื่องตนก็ยังไม่ได้ไปช่วยเหลือในทันที เพราะคิดว่าที่นั่นก็มีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว แต่พอผ่านไปสัก2-3 วัน ก็คิดว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือ ตอนนั้นคิดว่ายังไม่มีอะไรรุนแรง แต่ก็คิดว่าทีมเราน่าจะพอเป็นอีกหนึ่งกำลังที่พอจะช่วยได้ โดยได้รวมกลุ่มกันประมาณ 16 คน เดินทางไปทันที และได้นำเครื่องมือที่จำเป็นในการค้นหาภายในถ้ำมาด้วย ซึ่งระหว่างที่ปฏิบัติงานยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ก็ไม่เคยท้อถอย เพราะอยากจะได้เจอกับทั้ง 13 คนให้เร็วที่สุด ส่วนตัวก็เชื่อว่าทั้งหมดปลอดภัยแน่นอน และอยากจะวอนให้โซเชียลเลิกสร้างข่าวลวงได้แล้ว เพราะทำให้ทุกคนเสียขวัญและกำลังใจ ฝันเด่น เล่าต่อว่า พวกตนและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกันตลอดฝนตกก็ไม่มีถอย ตอนที่ไปคือฝนตกทุกวัน ฝนไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้เรายกเลิก เหนื่อยก็พัก หิวก็มีอะไรกิน ยินดีที่จะทำทุกอย่าง แต่ก็ยอมรับว่ามีความวุ่นวายในเรื่องบริหารพื้นที่ เพราะมีหลายหน่วยงาน อีกทั้งระบบการสื่อสารวันแรกๆ ก็จะติดต่อกันลำบาก แต่อย่างที่บอกว่าเหนื่อยก็ไม่ใช่ว่าจะเลิก ภารกิจยังไม่จบ ตนหรือใครก็ตามที่อยู่หน้างานคิดเป็นใจเดียวกันว่าขอให้เจอน้อง "ในฐานะนักกู้ภัย และในฐานะที่เป็นพ่อคน เราจะไม่ละทิ้งความหวังเสมอจนถึงวันสุดท้าย ทุกวันนี้เราอยู่บนความหวัง ว่าจะได้เจอแน่ครับ" ฝันเด่นกล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ