หนุ่มช็อกเหล็ก 200 โลทับรถหวิดดับ - ก่อสร้างจ่าย 5 หมื่น อ้างให้แสนแพงไป (คลิป)

จากกรณีที่เมื่อวานที่ผ่านมา (15 มิ.ย. 61)​ เพจเฟซบุ๊ก "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ที่ปรากฏภาพรถเก๋งมิตซูบิชิ สีบรอนด์ อยู่ในสภาพที่ได้รับความเสียหายทั้งคัน พร้อมระบุข้อความว่า "ถูก ท่อนเหล็กจากรถบรรทุกที่กำลังปฏิบัติหน้าที่สร้างสกายวอล์ก อยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงบางนา ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางนา หล่นลงมาใส่รถ ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งรถก็พังเสียหายทั้งคัน" จนทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีนี้กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันนี้ (16 มิ.ย. 61) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ นายธนนภัทร ราชพลแสน หรือ อูน ผู้เสียหาย อายุ 38 ปี เผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.40 น. ของวันที่ 4 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา ตนกำลังขับรถเพื่อเดินทางมุ่งหน้ากลับบ้าน ขณะที่ขับรถมาถึงบริเวณสี่แยกบางนา ตนขับอยู่ในเลนกลางแล้วเห็นรถหกล้อคันหนึ่ง จอดอยู่บริเวณด้านหน้าในเลนขวาสุด จึงคิดว่าเป็นรถธรรมดา เนื่องจาก ไม่คิดว่าเป็นรถที่กำลังปฏิบัติงานก่อสร้างอยู่ในบริเวณนั้น เนื่องจาก ไม่มีการตั้งกรวย หรือแสดงสัญลักษณ์ให้เห็นว่าเป็นจุดอันตรายที่กำลังอยู่ในการก่อสร้าง เมื่อตนขับรถเข้าไป จึงเห็นว่าเป็นรถเครน มีท่อนเหล็กอยู่ด้านหลังจึงชะลอความเร็วลง และขับรถไปตามปกติ

หลังจากนั้น นายธนนภัทร พบว่าท่อนเหล็กกำลังหล่นลงมาใส่รถของตน ด้วยสัญชาตญาณตนจึงขับรถหักหลบท่อนเหล็กดังกล่าว แต่ไม่พ้น ทำให้ท่อนเหล็กได้ตกลงมาใส่รถและกระจกด้านหน้าฝั่งคนขับอย่างแรง ทำให้รถได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ประกอบกับตนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากท่อนเหล็กถูกเข้าที่บริเวณศีรษะ ทำให้ศีรษะบวม และคอฟกช้ำเล็กน้อย ต่อมาคนขับรถเครนได้เข้ามาพูดคุยกับตนว่า "เหล็กบนรถเครนหล่นใส่รถของคุณเหรอ" ขณะนั้นตนตอบไปว่า "ใช่" พร้อมกับถามว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดก่อสร้างอะไร ทำไมถึงไม่มีสัญลักษณ์บอกให้คนที่ขับรถสัญจรไปมาระวัง คนขับรถเครนจึงตอบกลับมาว่า "ตนเป็นลูกจ้างขับรถให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่รับเหมาสร้างสะพานลอย หรือ sky walk บริเวณจุดนี้"

หลังจากนั้น ตนจึงโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลและโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้มาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกท่อนเหล็กตีที่ศีรษะ จากนั้นเพื่อนและภรรยาของตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน. บางนา โดยตำรวจได้มีการให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น จนกระทั่งวันที่ 8 มิ.ย. 61 ตำรวจได้เรียกตนพร้อมกับคู่กรณี ที่เป็นเจ้าของรถเครน ไปพูดคุยไกล่เกลี่ย โดยตนได้เรียกเงินค่าเสียหายจากคู่กรณีเป็นจำนวนเงินกว่า 400,000 บาท ซึ่งเป็นค่ารถพร้อมกับค่าเสียเวลา แต่ทางคู่กรณียืนยันว่า พร้อมที่จะให้เงินค่าเยียวยาเพียงแค่ 50,000 บาทเท่านั้น เนื่องจาก ยอดเงินที่ตนเรียกสูงเกินไป ตนจึงขอให้บริษัทประกันภัยรถยนต์เป็นผู้เจรจา เรียกเงินค่าซ่อมรถและค่าเสียหายทั้งหมด บริษัทประกันรถยนต์ของฝ่ายคู่กรณี จึงยืนยันจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับตนได้เพียงแค่ 120,000 บาทเท่านั้น ทำให้ตนรู้สึกว่า ไม่ยุติธรรม เพราะรถเสียหายทั้งคัน และต้องใช้เงินจำนวนมากในการที่จะซ่อมแซมรถให้กลับมาเป็นสภาพเดิมได้

อีกทั้ง ยังต้องมีค่าเสียเวลาของตนอีกจำนวนหนึ่งด้วย ทางคู่กรณีและทางบริษัทประกันภัยของคู่กรณี ยังไม่สามารถชดเชยหรือรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเสียไปได้ ตนจึงอยากฝากให้ทางคู่กรณี เข้ามาเยียวยาและแสดงความรับผิดชอบกับตนให้มากกว่านี้ เนื่องจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้ตนเป็นอย่างมาก ซึ่งโชคดีที่ตนไม่ได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมกับอยากวอนขอให้ใส่ใจเรื่องของความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากขึ้น หากจะมีการก่อสร้างหรือซ่อมแซมตรงส่วนใด ควรที่จะมีการติดตั้งสัญลักษณ์ให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเห็นว่าจุดตรงนั้นอันตราย เนื่องจากมีการก่อสร้าง หลังจากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มีการโทรศัพท์ไปสอบถามทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างสกายวอล์กดังกล่าว ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล เนื่องจากขอตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตรงจุดรับเหมาก่อสร้างสกายวอล์กจุดใด เนื่องจาก บริษัทดังกล่าวมีการรับเหมาก่อสร้างสกายวอล์กหลายจุด