เฒ่าฝาท่อหายรัวกระสุนทะลุรถเจาะหัวหนุ่มปีนเกลียว อ้างถูกฟันก่อน ชาวบ้านซวยบ้านพัง (คลิป)

จากกรณีเวลา 21.30 น. ของวันที่ 19 ก.พ. 64 มีแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดช่วงกลางซอยสุขุมวิท 79 หรือ ซอยโรงหนังสเตท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในทีเกิดเหตุ 1 ราย ส่วนมือยิงเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือแล้วนั้น

ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายชาติชาย เครือพาณิชย์วงศ์ ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสุรชัย ชูเกตุ อายุ 33 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด หลังหูขวาทะลุหูซ้าย 1 นัด คอ 1 นัด และ แขนขวา 1 นัด

วันที่ 20 ก.พ. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ซอยสุขุมวิท 79 ซอยโรงหนังสเตท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ โดยจุดที่เกิดเหตุทะเลาะกัน อยู่บริเวณลานกว้าง ตรงกลางซอยสุขุมวิท 79 ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของตลาดมาก่อน ซึ่งห่างจากบ้านที่ถูกรถพุ่งชนประมาณ 30 เมตร ห่างจากจุดที่ทะเลาะกันประมาณ 50 เมตร มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงินจอดอยู่ด้านหลังตึกแถว

ที่บ้านของผู้เสียหาย พบว่ารถกระบะของผู้ตายยังคงอยู่ในสภาพเดิม บริเวณหน้าบ้านจะมีแท่งปูนตั้งเป็นรูปตัวแอล สำหรับตั้งร้านขายอาหารทะเลสด แต่ตอนนี้ถูกชนจนพังเสียหายทั้งหมด เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เดินทางมาตรวจสอบ ก่อนเคลื่อนย้ายรถกระบะคันที่เกิดเหตุออกจากบ้านของผู้เสียหาย

นางยุพา จ๋องาม อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกชนเสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 21.00 น. ตนกำลังจะเข้านอน แต่ตนได้ยินเสียงปืนพอดี หันไปมองพบว่ารถของผู้ตายกำลังพุ่งตรงเข้ามาที่บ้านของตนพอดี ตนยืนอยู่ใกล้กับลูกชาย อายุ 10 ปี จึงทำได้เพียงเดินถอยหลัง ส่วนสามีของตนยืนอยู่บริเวณริมกำแพง หันหน้าเข้าบ้านอยู่ฝั่งขวามือ จึงถอยหลังหลบ โดยเหตุการณ์เหิดขึ้นเร็วมาก ทำให้วิ่งหนีไม่ทัน

ทั้งนี้ ตนได้รับบาดเจ็บมีรอยช้ำที่ต้นข้างซ้าย ข้อเท้า ส่วนสามีมีรอยแผลถลอกที่แขนข้างซ้ายกับขาข้างขวา ส่วนตัวมาทราบภายหลังว่าผู้ตายถูกยิงเข้าที่แขน ก่อนที่จะถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย และคงจะเสียชีวิตตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้รถพุ่งเข้ามาที่บ้านของตน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณชั้น 1 ของบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด และอาหารทะเลที่เตรียมไว้สำหรับขายถูกชนกระจัดกระจาย ทำให้ตนเสียรายได้ไปพอสมควร ทั้งนี้ ตนอยากจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบด้วยการชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งตนยังไม่ได้ประเมินราคา และยังไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ หากรถของผู้ตายมี พ.ร.บ จะใช้ในส่วนนี้มาชดใช้ค่าเสียหาย แต่หากไม่มีทางผู้ก่อเหตุจะต้องเป็นฝ่ายชดใช้เอง

นายณรงค์ศักดิ์ อดีตลูกจ้างของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ นายชาติชายเข้ามากล่าวตักเตือนตนให้หาอะไรไปปิดฝาท่อ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกัน แต่นายสุรชัย ผู้ตายนั้นไม่รู้จักกับอีกฝ่าย จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนพูดจาโผงผาง ขณะที่ตนกับนายชาติชายพูดคุยกัน นายสุรชัยได้พูดแทรกขึ้นมาและพูดเล่น ๆ ทำนองว่า "หลุมไม่ได้กว้าง เดี๋ยวจัดการให้" อีกฝ่ายคงมองว่า นายสุรชัยพูดกวนอารมณ์ จึงทะเลาะกัน พอตนเห็นเช่นนั้นจึงเดินหนี เพราะตนไม่อยากจะเข้าไปแทรก กลัวจะโดนลูกหลง

ส่วนตัวเคยทำงานเป็นลูกจ้างรับเหมาก่อสร้างกับนายชาติชาย และลาออกมาแล้ว แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และเจอกันก็พูดคุยกันตามปกติ โดยนายชาติชายเป็นคนพูดจาโผงผาง มีอะไรจะพูดตรง ๆ ถ้าใครมาหาเรื่องจะไม่เคยยอม แต่ไม่ได้เป็นคนกินเหล้าเมายา และเป็นคนทำงานทั่วไป ส่วนสาเหตุตนมองว่าทั้งคู่ไม่ยอมคนเหมือนกัน และอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่กว่าจึงมองว่าผู้ตายเป็นรุ่นน้อง แต่กลับพูดจาไม่ดีกับรุ่นพี่

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าทำรุนแรงเกินไป และขณะนี้ตนยังทำใจไม่ได้ รู้สึกหดหู่ใจมาก เพราะตนรู้จักทั้งคู่ ผู้ตายก็เป็นเพื่อน ผู้ก่อเหตุก็เป็นรุ่นพี่ของตน ตนจึงแสดงความคิดเห็นไม่ได้มาก

นายชาติชาย เครือพาณิชย์วงศ์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนลงมือยิงนายสุรชัยจริง เพื่อป้องกันตัว ประกอบกับโมโหที่นายสุรชัยเอามีดมาฟันตนเองกับลูกชายก่อน จึงพลั้งมือยิงไปถึง 4 นัด

โดยตนเองมีอาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน ไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน จนวันเกิดเหตุตนไปตักเตือนนายณรงค์ศักดิ์ ลูกน้องเก่า เรื่องที่นายณรงค์ศักดิ์มาขโมยฝาท่อระบายน้ำบริเวณลานจอดรถ จนทำให้รถถอยออกลำบาก พร้อมกับบอกให้นายณรงค์ชัยให้นำดินไปถมปรับปรุง แต่ระหว่างนั้นนายสุรชัย เข้ามาพูดก่อกวนทั้งที่ไม่รู้จักกัน และยังแสดงกริยาไม่เหมาะสม กระทั่งตนเองกลับมาที่เกิดเหตุอีก เห็นนายสุรชัยกำลังจะขับรถออกไป ตนจึงเรียกให้จอดเพื่อขอดูท้ายรถว่าได้มาขโมยของไปหรือไม่ จังหวะที่นายสุรชัยลงมาจากรถ ตนเองสังเกตเห็นนายสุรชัยซ่อนของไว้ด้านหลัง ไม่นานนายสุรัชยได้ง้างมีดฟันเข้าที่หน้า ตนถูกคมมีดเข้าบริเวณจมูก ต้องเย็บกว่า 10 เข็ม ระหว่างนั้นลูกชายเห็นจึงเข้ามาช่วย และถูกฟันเข้าทีศีรษะ 1 แผล ด้วยความโมโหจึงชักปืนออกมายิงนายสุชัย แต่กลับลืมขึ้นลำ จนนายสุชัยตกใจเห็นว่าตนมีปืน จึงรีบวิ่งขึ้นรถเพื่อขับหลบหนี แต่จังหวะที่นายสุรชัยกำลังเคลื่อนตัวออก ตนจึงรีบขึ้นลำปืนอีกครั้ง ก่อนจะจ่อยิงทะลุกระจกฝั่งคนขับโดยไม่รู้ว่ากระสุนถูกที่ไหนบ้าง รถของนายสุรชัยพุ่งไปชนกับร้านอาหารทะเลสด