จับฆาตกรเลือดเย็นยิงเพื่อนผลักศพทิ้งน้ำ อ้างแค้นถูกด่า จนมุมเพราะเลือดในเรือ (คลิป)

7 ก.พ. 64

กรณีตำรวจไปพบศพชายลอยน้ำเสียชีวิตอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ท่าเทียบเรือแพเจี๊ยบ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ แล้วผลการชันสูตรออกมา พบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายหมัด พันธนี อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าจำหน่ายเสื้อผ้าบนเรือบรรทุกสินค้า ถูกฆ่าอำพรางคดี โดยพบบาดแผลคล้ายรูกระสุนที่กลางหลัง 1 รู และบาดแผลที่ใบหน้า

979521

หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนสภ.พระประแดง นำโดย พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารีย์ รอง ผกก.สส.สภ.พระประแดง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระประแดง ลงพื้นที่ตรวจสอบและหาข้อมูลพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด และเบาะแสต่าง ๆ

838459

โดยภาพวงจรปิดที่หน้าร้านขายของชำ ใกล้กับท่าเรือแพเจี๊ยบ ช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. พบเห็นนายหมัด หรือผู้ตาย เดินผ่านหน้าร้านไปที่ท่าเรือเป็นครั้งสุดท้าย ฝ่ายสืบสวนจึงไล่กล้องตามเส้นทาง รวมถึงท่าเรือแพเจี๊ยบและท่าเรือกรมศุลกากร ฝั่งบางนา กลับไม่พบว่ามีเรือหรือผู้เสียชีวิตนั่งเรือไปลงที่ท่าเรือฝั่งบางหน้า เพื่อจะรอขึ้นเรือไปขายสินค้าตามปกติ

924248

ทำให้ฝ่ายสืบสวนจึงจำกัดวงแคบในการหาเบาะแส จนทราบว่าผู้ที่พบเห็นผู้ตายครั้งสุดท้าย คือ นายวิรัตน์ ละม้ายขำ คนขับเรือรับจ้างที่อ้างว่าขับเรือไปส่งผู้ตายท่าเรือกรมศุลกากร ฝ่ายสืบสวนจึงไปตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดที่ท่าเรือกรมศุลกากร ตามที่นายวิรัตน์ คนขับเรือรับจ้างอ้างว่าไปส่งผู้ตาย แต่จากกล้องวงจรปิดในห้วงเวลาดังกล่าวไม่พบว่ามีเรือใดและผู้ตายไปโผล่ที่ท่าเรือกรมศุลกากรตามที่กล่าวอ้าง ฝ่ายสืบสวนจึงไปนำตัวนายวิรัตน์ มาสอบปากคำ ซึ่งในตอนแรกเจ้าตัวปฎิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ลงมือก่อเหตุ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

521462

แต่จากเบาะแสและไทม์ไลน์ของผู้ตาย สอดคล้องกับนายวิรัตน์ ผู้ต้องสงสัย ฝ่ายสืบสวนสภ.พระประแดง จึงไม่ละความพยายาม ขออนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายวิรัตน์ และเรือยนต์ที่นายวิรัตน์ใช้ขับรับจ้าง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการเข้าเก็บหลักฐานต่าง ๆ จากในเรือจนไปพบคราบเลือดจาง ๆ ในเรือของนายวิรัตน์ ฝ่ายสืบสวนจึงขอหมายอนุมัติจับกุม

836666

ล่าสุดวันที่วันที่ 7 ก.พ.64 เวลา 05.30 น. พ.ต.ท.ธนกฤต พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมนายวิรัตน์ ละม้ายขำ อายุ 58 ปี ชาว ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีอาชีพขับเรือรับจ้างอยู่แถวท่าเทียบเรือแพเจี๊ยบ โดยจับกุมได้คาบ้านพักตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพาอาวุธปืนไปในเมืองชุมชนที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หลังจากนายวิรัตน์ ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ลูกโม่ยิงนายหมัด อายุ 53 ปี พ่อค้าขายเสื้อผ้าบนเรือสินค้าจนถึงแก่ความตายในช่วงเช้ามืดวันที่ 4 ก.พ.64 เวลาประมาณ 02.45 น. บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากท่าเทียบเรือแพเจี๊ยบ

123837

พ.ต.ท.ธนกฤต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.64 ได้รับแจ้งว่ามีศพลอยน้ำ จึงได้ลงพื่นที่ตรวจสอบและส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตร กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.พ.64 ได้รับผลตรวจจากนิติเวชว่า ผู้ตายมีร่อยรอยการถูกทำร้ายถูกยิงที่หลัง จึงได้ลงพื้นที่หาข่าวและได้ไปพบกับคนขับเรือที่ให้การว่าไปส่งผู้ตายฝั่งคลองเตย จึงได้เรียกคนขับเรือมาสอบปากคำ โดยมีพิรุธหลายอย่าง จึงให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและบริเวณเรือลำดังกล่าว ถึงแม้จะมีการล้างคราบเลือดออกไปก็สามารถใช้น้ำยาของกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบได้ จึงมั่นใจในพยามหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้มานำไปขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

737734

นายวิรัตน์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนและผู้ตายพักอาศัยในชุมชนเดียวกัน ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตพอดื่มสุราจนเมา มักจะชอบด่าตนเองหยาบคาย โดยเป็นแบบนี้มานานแล้ว ตนจึงรู้สึกแค้นใจ คืนวันเกิดเหตุตนนั่งดื่มสุรากับเพื่อน 2 คน ใกล้ท่าเรือ และพบว่าผู้ตายเดินมาหาว่างจ้างเรือให้ไปส่งข้ามฝาก ตอนแรกก็บอกไปว่าเรือหมดเวลาวิ่งแล้ว แต่ด้วยความแค้นสะสม จึงออกอุบายว่าจะไปส่ง จึงพากันลงเรือไป ระหว่างทางกลางแม่น้ำผู้ตายก็ยังด่าทอไม่หยุด ตนจึงตัดสินใจหยิบปืนที่พกมาด้วยยิงใส่กลางหลังของผู้ตายไป 1 นัด จนล้มพับในเรือจนเสียชีวิต

cg_7

จากนั้นจึงจอดเรือกลางแม่น้ำ และยกศพโยนทิ้งกลางแม่น้ำเพื่ออำพรางคดี ก่อนจะขับเรือกลับมาที่ท่าเรือตามปกติ ระหว่างนั้นก็ใช้น้ำล้างคาบเลือดในเรือออกเพื่อทำลายหลักฐาน ส่วนสาเหตุเกิดจากความโมโหที่ถูกผู้ตายด่าเป็นประจำ 

912489

นางสวรรค์ ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณตำรวจที่สามารถจับตัวคนร้ายได้แล้ว ยอมรับคนร้ายโหดเหี้ยมมาก ๆ เพราะแค่สามีตนไปต่อว่าผู้ก่อเหตุ ก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ และก็เป็นคนที่เคยเห็นหน้ากัน โทษที่จะได้รับตนคิดว่าต้องประหารเท่านั้น อีกทั้งแม่สามีของตน อายุ 80 ปี ที่ชรามากแล้ว หลังจากนี้ก็จะต้องขาดผู้ดูแลไปด้วย 

671192

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายเทพ แก่นจันทร์ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.บางกะเจ้า บอกว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเป็นผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านบริเวณท่าเรือ มาเป็นเวลากว่า 10-20 ปี แต่ทั้งคู่ไม่สนิทกัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุทำงานขับรถส่งสินค้า แล้วเพิ่งจะตกงาน จึงหันมาขับเรือข้ามฟากได้ 2 เดือนที่ผ่านมา ส่วนผู้ตายทำงานขายเสื้อผ้าบนเรือบรรทุกสินค้า ทำงาน 2-3 วัน จะกลับบ้าน 1 ครั้ง โดยผู้ก่อเหตุมีนิสัยไม่ค่อยพูด แต่มักจะยิ้มแย้มให้กับชาวบ้านอยู่เสมอ ส่วนผู้ตายเป็นคนนิสัยดี แต่หากมึนเมาจะเปลี่ยนเป็นคน พูดจาไม่ยั้งคิด ด่าทอคนอื่นเป็นประจำ

952963

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากในหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อีกทั้งทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางต่อกัน ไม่มีใครทราบว่าปมปัญหาของทั้งคู่คืออะไร แต่ในวันเกิดเหตุ ทั้งคู่อยู่ในอาการมึนเมา โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ตายมักด่าทอผู้ก่อเหตุด้วยถ้อยคำหยาบคาย

แต่ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์จงใจที่จะก่อเหตุ โดยขับเรือพาผู้ตายไปยังจุดที่ไม่มีบ้านคน และเร่งเครื่องยนต์เรือหางยาวเพื่อกลบเสียงปืน รวมถึงมีวัตถุประสงค์ที่จะปกปิดความผิดด้วยการทิ้งศพลงน้ำ และกลับมาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามปกติ ตนทราบมาว่าครอบครัวของผู้ก่อเหตุ จะเดินทางไปร่วมงานศพของผู้ตาย เพื่อขอขมาผู้ตาย และขอโทษครอบครัวผู้ตายแทนผู้ก่อเหตุ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส