ยิงหัวหลานเขยตายต่อหน้าเมีย ฆาตกรแค้นถูกไล่หางานทำ ญาติฉะเนรคุณ (คลิป)

กรณีตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันอยู่กลางทุ่งนาบ้านหนองแวงไร่ หมู่ที่ 4 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายสุพจน์ ชมทอง อายุ 36 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ กระสุนเจาะเข้าที่บริเวณใกล้หู ลูกปืนฝังใน ถูกนำตัวส่ง รพ.บ้านไผ่ ก่อนจะเสียชีวิตขณะนำตัวส่งไปรักษา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังปิดล้อม เพราะว่าคาดว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะไปได้ไกล เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเอาไว้ ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 1 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อต่อมา นายอรุณ แสนมาตร อายุ 47 ปี อดีตรปภ.อยู่ที่จ.อุดรธานี ถูกเลิกจ้างจากงานมาอยู่พักอาศัยกับพี่ชาย (พ่อตาผู้เสียชีวิต) และอยู่ด้วยกันกับผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในครอบครัวเดียวกันโดยผู้เสียชีวิตนั้น มีศักดิ์เป็นหลานเขย

ล่าสุดวันที่ 7 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองแวงไร่ หมู่ที่ 4 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ลักษณะที่เกิดเหตุ จุดที่นายอรุณยืนก่อเหตุนั้นอยู่บริเวณคันสระน้ำ ใกล้ต้นมะพร้าว

ส่วนจุดที่ผู้เสียชีวิต ถูกยิงเป็นบริเวณแปลงผัก มีรอยเท้าผู้เสียชีวิต และคราบเลือดของผู้เสียชีวิตติดตามพื้นดิน จุดที่ผู้ก่อเหตุยืนก่อเหตุ และจุดที่นายอรุณนอนเสียชีวิตนั้น มีระยะห่าง 4 เมตร

น.ส.รัตนาวดี ศาลาแดง ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตอนเกิดเหตุครอบครัวของตนได้ยืนรดน้ำผัก ที่ไร่นาอยู่ 4 คน ตนและสามียืนรดน้ำผักอยู่ฝั่งสระน้ำ (ฝั่งจุดเกิดเหตุ) ส่วนแม่และพ่อของตนยืนรดน้ำผักอยู่ฝั่งตรงข้าม

ขณะที่รดน้ำผัก นายสุพจน์ สามีของตนได้บอกกับตนว่า เห็นนายอรุณ ชำเลืองมองอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเดินวนไปวนมาอยู่แถวสระน้ำ ตอนนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ตนและสามีจึงรดน้ำผักกันต่อ กระทั่งตอนเกิดเหตุ ตนเดินแยกออกมาจากสามี ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทีแรกตนนึกว่านายอรุณยิงปืนเล่น เพราะที่ผ่านมาเขาชอบยืงปืนเล่นเป็นประจำ

จากนั้นตนได้หันหลังกลับไปหาสามี ก็พบว่าสามีล้มไปนอนในร่องแปลงผักแล้ว เลือดสามีพุ่งออกจากศีรษะเหมือนน้ำไหล โดยที่สามีไม่ได้เอ่ยปากพูดขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด ส่วนผู้ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปตามทุ่งนา

จากนั้นตนได้ถอดเสื้อไปห้ามเลือดให้สามี จนเลือดหยุดไหล ส่วนสามีตนก็นอนกัดลิ้นจนร่างกายซีดเขียว กว่ารถกู้ภัยจะมา กระทั่งนำตัวสามีส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตขณะนำส่ง สำหรับปมที่นายอรุณ มาก่อเหตุยิงสามีตนนั้น ตนก็ไม่รู้มาจากเรื่องอะไร คิดว่าผู้ก่อเหตุคงมีเรื่องไม่พอใจสามีตน ที่ผ่านมาสามีตนก็ไม่เคยมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุเลยด้วยซ้ำ ตนไม่เข้าใจว่าผู้ก่อเหตุอาฆาตแค้นอะไร

สำหรับนายอรุณ ผู้ก่อเหตุ มีศักดิ์เป็นอาของตน เขาถูกเลิกจ้างตกงานมาขออาศัยอยู่กับพ่อของตน ซึ่งเป็นพี่ชายของเขา ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ตัวผู้ก่อเหตุจะนอนที่บ้านในไร่นาจุดเกิดเหตุ ส่วนตนและสามีจะนอนอยู่ที่บ้านในหมู่บ้าน สำหรับนิสัยผู้ก่อเหตุเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด ตลอด 2 สัปดาห์ เวลาตนและสามีชวนเขาทานข้าว เขาก็จะไม่กินข้าวกับพวกตน และเขาจะไปทำอาหารกินเอง ตนยืนยันว่าตนกับสามีไม่ได้รังเกียจผู้ก่อเหตุ

กรณีที่ผู้ก่อเหตุรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขารู้สึกกดดันที่โดนสามีตน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเขยของเขา ชอบบ่นให้เขาว่า เขาไม่ช่วยทำงาน ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องไม่จริง สามีตนไม่เคยไปบ่นให้นายอรุณสักครั้ง และที่ตนสังเกต นายอรุณเขาเป็นเหมือนคนอยากเอาหน้า เขาไม่ได้ขยันทำงานแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า วันเกิดเหตุ และวันก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาก็ไม่เคยมีปากเสียงกับสามีตน เขาไม่เคยแสดงอาการให้เห็นว่า เขาไม่พอใจสามีตน เขาไม่ค่อยพูดกับใคร บางทีพวกตนพูดด้วยเขาก็ไม่พูด ตนขอยืนยันว่าไม่อโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุ ให้เขาติดคุกจนถึงวันตาย ไปชดใช้กรรมอยู่ในนั้น ไม่ต้องออกมา ถึงตนจะมีศักดิ์เป็นหลานผู้ก่อเหตุ แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดคุยกับเขา ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนไม่มีลางสังหรณ์แต่อย่างใด

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านสว่าง ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นงานศพของนายสุพจน์ ชมทอง อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นายไกรสร แสนมาตย์ พี่ชายของผู้ก่อเหตุ และเป็นพ่อตาของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนขอแก้ข่าวเพราะมีข่าวบางสำนัก ไปลงข่าวว่าพ่อยิงลูกเขย ซึ่งตนขอแก้ไขข้อมูลว่า คนก่อเหตุคือน้องชายตน ไม่ใช่ตน

สำหรับวันเกิดเหตุ ตนและภรรยาอยู่ในแปลงผักเดียวกันกับผู้ตาย แต่อยู่คนละฝั่ง ตนได้ยินแค่เสียงปืนดังขึ้น 1 นัดเท่านั้น จากนั้นลูกสาวก็เรียกชื่อสามี ส่วนคนก่อเหตุวิ่งหนีไปตามทุ่งนา กระทั่งตำรวจจับกุมได้ 1 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ตนยืนยันว่าน้องชายตน และผู้เสียชีวิต ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน สำหรับน้องชายเพิ่งตกงาน ถูกเลิกจ้างมาจาก จ.อุดรธานี และมาขออาศัยอยู่กับตนได้ประมาณ 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ตนก็ไม่เคยเห็นผู้เสียชีวิตบ่นให้ผู้ก่อเหตุว่า ผู้ก่อเหตุไม่ทำงานแต่อย่างใด ยืนยันว่าคนตายเป็นคนนิสัยดี พูดน้อย แต่มีเหตุการณ์ก่อเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ก่อเหตุได้ยิงปืนใส่สุนัขผู้ตาย แต่ไม่สุนัขของผู้ตายแค่บาดเจ็บ ไม่เสียชีวิต แต่ผู้ตายก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยเห็นน้องชายมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นตนก็ให้อภัยน้องชายตนเสมอ