วันนี้ (25 พ.ค.) ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองปราบฯ เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัด ในพื้นที่ กทม. 2 วัดดังอีกครั้งคือ วัดสัมพันธวงศ์ฯ และวัดสระเกศฯ เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติมปมเงินทอนวัด ซึ่งบรรยากาศที่วัดสระเกศฯ ยังคงมีลูกศิษย์ และประชาชนทั่วไปเดินทางมาทำบุญตามปกติ
พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า มีการขออนุมัติหมายค้นวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดสัมพันธวงศ์ เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้ โดยที่วัดสระเกศฯ จะเข้าค้นที่กุฏิของเจ้าอาวาส และรถยนต์ส่วนตัว เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และเอกสารที่อาจเกี่ยวข้องกับคดี
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่า พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เดินทางออกนอกประเทศตามกระแสข่าว และยังไม่มีรายงานว่าขอเข้ามอบตัว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว ผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยหากบุคคลใดเกี่ยวข้อง หรือให้ที่พักพิง ก็จะมีความผิดฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหาด้วย
พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. และตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง นำหมายค้นจากศาลอาญา เข้าตรวจสอบวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เป็นวันที่ 2 เพื่อหาหลักฐานการทอนเงินเพิ่มเติม และเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รอยนิ้วมือในห้องนอนส่วนตัวของพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด ผู้ต้องหาฟอกเงิน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2559
ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน ติดตามเข้าไปในวัด และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพเจ้าหน้าที่ระหว่างปฏิบัติการตรวจค้น โดยสื่อมวลชนทั้งหมดรออยู่ที่บริเวณด้านนอกวัด
นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการจับกุมพระมหาเถรสมาคมว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ การปกครองคณะสงฆ์มีมหาเถรสมาคมปกครองอยู่ พระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชเป็นอย่างไร สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และรัฐบาลก็มีหน้าที่สนองพระบัญชานั้น ขณะเดียวกันสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีงานที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์อยู่แล้ว เราก็จะดูแลส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา กิจการของคณะสงฆ์ให้เป็นไปอย่างดีที่สุด เพื่อให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป และอยากเรียนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ไม่ใช่เรื่องของคณะสงฆ์ โดยรวมคณะสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก