จากกรณีเด็ก 4 คน พลัดตกจากอาคารห้องพักภายในซอยรามคำแหง 34 กรุงเทพฯ จนเป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย คือ ด.ช.คนัธชา ริ๊กกี้ โบเรล หรือ น้องอเล็กซ์ อายุ 5 ปี แต่ทางพ่อของน้องอเล็กซ์ ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และสงสัยว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม พร้อมคาใจว่าขณะเกิดเหตุ แม่ของน้อง ตายาย อยู่ที่ไหน ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา
นางรัตนา ประกายแก้ว หรือ "แอ๊ด" อายุ 63 ปี
ยายของเด็กที่ประสบอุบัติเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเมื่อตนให้หลานทั้ง 4 คนหลับแล้ว ตนก็มากินข้าวด้านล่างตึกตอนค่ำ ขณะนั้น ยืนยันว่าในห้องมีเพียงหลานอยู่เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ตนกินข้าวเสร็จแล้ว ก็จะขึ้นไปนอนกับหลานอยู่เป็นประจำ
โดยนางรัตนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้อาการของหลานๆ ดีขึ้นแล้ว ซึ่งขณะที่ให้สัมภาษณ์ นางรัตนาก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ต่อได้ พร้อมกับบอกว่า ยายพูดไม่ได้แล้ว
ด้าน
นายมาร์เชล เลออง โบเรล ชาวสวิตเซอร์แลนด์ พ่อของเด็ก ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลพร้อมนางอัญชลี วิม็งด์ หรือ แตงกวา เพื่อนและทนายความ โดยนายมาร์เชล ได้นำภาพที่ตนถ่ายรูปร่วมกับลูกๆ ทั้ง 4 คน ซึ่งถ่ายไว้เมื่อ 3 ปีก่อน ก่อนที่ตนจะไม่ได้เจอกับลูกๆ มาโชว์ให้ทีมข่าวดู
นายมาร์เชล เปิดเผยว่า ตนพยายามจะมาเจอลูกแต่ถูกแม่ของเด็กกีดกันไม่ยอมให้เจอ ตนรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตั้งใจมาหาลูก และพยายามที่จะหาช่องทางในการเจอลูก ตนสงสัยว่าทำไมตำรวจยังหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งผู้เป็นแม่อาจจะเป็นผู้กระทำผิดเอง แต่ทำไมแม่ยังอยู่ใกล้ชิดลูกตนได้ ซึ่งตนก็มีสิทธิ์ตามกฎหมายในฐานะคนเป็นพ่อ แต่กลับไม่มีสิทธิ์เจอลูก
นายมาร์เชล พูดทั้งน้ำตาว่า ตนได้ให้ทนายเตรียมเอกสารหลักฐาน และหวังที่จะพูดคุยกับทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลในการเข้าเยี่ยมลูกในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) เวลา 08.00 น. และยอมรับว่า ที่ตนไม่ได้เข้าเยี่ยมลูก ก็รู้สึกว่าไม่เท่าเทียม เหมือนกับตนถูกมัดแล้วจับโยนลงไปในน้ำ คล้ายกับคนตายทั้งเป็น ตนเองก็ภาวนาทุกวัน อยากให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง ตนไม่เคยทราบว่าลูกเจ็บปวดอย่างไรบ้าง แค่อยากขอพบหน้าลูกบ้างสักครั้ง
[caption id="attachment_194416" align="alignnone" width="640"]
_snapshot_00.01_2018.05.08_01.07.37-1024x576.jpg" alt="" width="640" height="360" /> นายมาร์เชลได้เปิดเผยเอกสารการรับรองบุตร[/caption]
นอกจากนี้ นายมาร์เชล ได้เปิดเผยเอกสารการรับรองบุตร ที่นายมาร์เชลลงชื่อในฐานะผู้เป็นบิดาของเด็กด้วย และหลังจากที่ ด.ช.คนัธชา ริกกี้ โบเรล หรือ น้องอเล็กซ์ เสียชีวิต ทางโรงเรียนได้ทำประกันอุบัติเหตุหมู่ไว้ จึงต้องมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทางครอบครัว แต่ผู้เป็นพ่อคือนายมาร์เชล ได้เขียนว่าระบุ ไม่ประสงค์ขอรับเงินประกันอุบัติเหตุจำนวนเงิน 115,000 บาท และให้น.ส.รัตติกาล ประกายแก้ว แม่ของเด็กรับเงินไว้
น บอกกับทีมข่าวว่า ครอบครัวของตายายจะอยู่อาศัยที่ตึกตามปกติ แต่ด้วยครอบครัวที่ใหญ่ จึงเช่าห้องเอาไว้ 2 ห้อง โดยตายายจะพักอยู่ห้องชั้นล่าง ส่วนแม่ของเด็กและเด็ก 4 คน จะพักอยู่ชั้นบน ส่วนเรื่องการทะเลาะกันในครอบครัวก็เป็นเรื่องปกติ มีการดุด่าว่ากล่าวเด็กๆ ให้พบเห็นบ้างบางครั้ง ในกรณีที่เด็กดื้อหรือซุกซน
นายพีเล่าว่า คนในครอบครัวมักบอกกับเพื่อนบ้านว่า หากมีคนมาถามหาแม่เด็ก หรือเด็กทั้ง 4 คน อย่าบอกว่าทุกคนอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้น ส่วนตัวก็ไม่ทราบแน่ชัด
เล่าด้วยว่า ยายมักจะเป็นคนไปรับหลานกลับจากโรงเรียน จูงมือเดินผ่านร้านของตนเองประจำ ส่วนแม่ของเด็กจะมีเวลาแค่ช่วงกลางวัน เพราะช่วงประมาณ 1-2 ทุ่ม ก็จะออกจากบ้านไปทำงาน จนเลิกงานกลับมาอีกครั้ง 08.00 น. ของวันรุ่งขึ้น บางวันก็ 10.00 - 11.00 โดยประมาณ ส่วนเรื่องการทะเลาะกันใครอบครัวหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว ส่วนการดื่มสุราของตายายหรือแม่เด็กนั้น ก็ไม่เห็นว่าจะมีนิสัยเป็นคนชอบดื่ม
กล่าวถึง กรณีที่ฝ่ายพ่อออกมาพูดถึงการเสียชีวิตของน้องอเล็กซ์ว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุนั้น ส่วนตัวมองว่า มันก็คือ อุบัติเหตุ เด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และการปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กคิดอย่างไร หรือการที่ออกไปเล่นแล้วจะต้องตกลงไป แต่การที่พ่อของเด็กมองว่าทางครอบครัวทำร้ายเด็ก ตนคิดว่าไม่ใช่การฆาตกรรม และวันเกิดเหตุ ยายก็นอนอยู่ที่ห้องชั้นล่าง พอเด็กนอนยายก็ปิดห้องลงมานอนตามปกติทุกวัน ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่แม่จะเป็นคนทำ เพราะแม่ก็รักลูก ที่สำคัญวันเกิดเหตุ แม่ของเด็กก็ออกไปทำงาน ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นแม่เด็กทุบตี หรือดุด่าลูกที่ร้านแต่อย่างใด
เปิดเผยว่า วันนี้ ด.ญ.ดีมา พาเมล่า โบเรล หรือ น้องดีดี้ ผ่าตัดขาหลังจากกระดูกขาหักการผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขณะนี้ต้องพักรักษาตัวและต้องนอนกางขาไว้ สำหรับด.ช.ลูก้า ฟรองซัว โบเรล วันนี้แพทย์ได้พาไปเอ็กซเรย์สมอง พบว่าอาการบวมลดลง แต่น้องลูก้ายังมีอาการผวาอยู่บ้าง ส่วนด.ญ.ชนิดา ฟรองซัว โบเรล หรือ แดนี่ อาการทรง ไม่ต้องให้ยาลดความดัน
ขณะนี้ตนก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะได้ผ่านช่วงเวลาที่ลูกบางคนได้ทำการผ่าตัดแล้วปลอดภัย พร้อมกับขอบคุณทุกคนที่นำเงินมาช่วยเหลือ โดยในวันนี้ได้นำเงินที่ได้รับมา ไปจ่ายมัดจำเหล็กที่ดามขาของน้องดีดี้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ สำหรับประเด็นเรื่องที่น.ส.รัตติกาล ได้โพสต์รูปเรื่องธูปที่ไม่ดับ และเรื่องค่าสินไหมทดแทนที่นายมาร์เชล ได้เขียนมอบให้กับตนนั้น ตนก็ขอไม่ตอบ และขอพูดเรื่องอาการของลูกเท่านั้น เพราะตอนนี้ตนอยากให้อาการน้องดีขึ้น ตนจะไม่ขอตอบโต้กับพ่อของน้องอีก ซึ่งตอนนี้น้องดีดี้อยากกลับไปเรียน และน้องลูก้าก็อยากกลับบ้านแล้ว