อัจฉริยะ ฟันธงคิวคนต่อไปใครจะโดนจับ - ษิทรา บอกถ้าเป็นทนาย “ปรีชา” ก็ถอนตัว (คลิป)

จากกรณีคดีพิพาทลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี ข้าราชการตำรวจเกษียณ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษ ล่าสุด พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ระบุถึงความคืบหน้าว่า ในวันที่ 12 มี.ค. คณะทำงานติดตามคดีจะประชุม เพื่อสรุปการออกหมายเรียก นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน ซึ่งอ้างเป็นผู้เห็น ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บลอตเตอรี่ เพื่อมารับทราบข้อหาฐานร่วมกันการกระทำผิดกับครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น

ด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวที่ฝั่งพยานของครูปรีชา เริ่มถอนตัวออกจากคดีดังกล่าว เป็นเพราะว่า ครูปรีชาไม่ได้เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ ซึ่งทุกเรื่องที่ครูปรีชาพูด ไม่ได้เป็นความจริง จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง, กองบังคับการปราบปราม และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงร่วมกัน จนนำไปสู่การออกหมายจับครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่น ซึ่งขณะนี้ พยานเริ่มถอนตัวออกไปเป็นจำนวนมาก เพราะพยานต่างทราบดีว่า ถ้าขึ้นศาลหรือให้การในชั้นสอบสวน ก็จะเป็นการให้หลักฐานเท็จ หรือพยานเท็จ ทั้งนี้ พยานได้ถูกปรุงแต่งขึ้นมา เนื่องจากเป็นการสอบสวนที่มิชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะมั่นใจว่า 3 เจ๊แม่ค้าลอตเตอรี่ คงไม่รอดคดีอย่างแน่นอน ส่วนนางดุษฎี หรือกุ้ง และนายแผน ที่เป็นผู้สนับสนุน น่าจะโดนคดีด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่ นายแผนอ้างว่า เห็นลุงจรูญก้มเก็บลอตเตอรี่ แต่พอมาให้การกับกองปราบฯ กลับบอกว่า คนเก็บหวยมีส่วนคล้ายลุงจรูญเท่านั้น ก็ต้องมีอันหนึ่งเท็จ อันหนึ่งจริง ตนคิดว่านายแผนต้องโดนข้อหาเป็นพยานเท็จ แต่ถ้านายแผนยอมรับสารภาพว่าไม่เห็นจริงตั้งแต่แรก โทษหนักก็จะกลายเป็นเบา โดยศาลอาจเมตตาให้รอลงอาญาได้ ทั้งนี้ นายอัจฉริยะเชื่อว่า ผู้ร่วมขบวนการทุกคนน่าจะถูกจับทั้งหมด แล้วในอนาคต เรื่องคดีหวย 30 ล้านนี้ จะเป็นบทเรียนที่ดี ให้บุคคลอื่นไม่กล้าทำเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ด้านทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กล่าวว่า ไม่ว่าฟ้าจะประกาศถอนตัวออกจากคดีนี้หรือไม่ ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อคดีนี้อยู่แล้ว เพราะอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ ก่อนหน้านี้แล้วว่า ตนไม่เคยกังวลว่า ฟ้า เข้ามาเป็นพยานให้ครูปรีชาแล้วจะมีผลต่อคดี ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาว่า ทนายความของครูปรีชา จะขอถอนตัวออกจากคดีนี้เช่นกัน ตนก็มองว่า หากมีการประกาศถอนตัวออกมาจากคดีนี้จริง ก็เป็นสิทธิ์ของทนายความ แต่ไม่ขอยืนยันว่า ทนายความของครูปรีชาจะถอนตัวออกจากคดีนี้จริงหรือไม่ เพราะตนยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน และหากใครจะเข้ามาทำคดีนี้ให้ครูปรีชา ก็เปรียบเสมือนเอาชื่อมาทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ เพราะหลักฐานในคดีนี้ค่อนข้างชัดเจน และหากเห็นแล้วว่าลูกความอาจผิดจริง ก็ไม่ควรเข้ามารับทำคดีตั้งแต่แรก