ผอ.กกท.สุราษฎร์ฯ แจงปมดราม่าสาวถูกไฟช็อตตายในสนามกีฬา เผย ช่วยเหลือตามขั้นตอนทุกอย่าง

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "นู๋เจน เด็กในบาง" ได้โพสต์รูปและข้อความ ระบุว่า เรียนผู้ว่าการจังหวัดสุราษฏร์ธานี ทางครอบครัวต้องการความเป็นธรรม เรื่อง น.ส.คนึงจิตร มีบุญ ที่เกิดเหตุการไฟฟ้าช็อตขณะทำงาน ในสนามกีฬากลางจังหวัดสุราษฏร์ธานี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 ต้องการคนรับผิดชอบ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชีวิตคนทั้งชีวิต พ่อเเม่เเละลูกขอความเป็นธรรม กับการสูญเสียชีวิตของพี่สาว"

วันนี้ (2 มี.ค.) นายเมธา อินทรโยธา ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี (กกท.) ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 เวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งตรงกับพิธีปิดการแข่งขันกีฬาอาชีวะเกมส์ ภาคใต้ โดยในขณะที่เกิดเหตุ น.ส.คนึงจิตร มีบุญ ซึ่งเป็นลูกจ้างรายปีของ กกท.สุราษฎร์ธานี ได้รับฝากโทรศัพท์จากเด็กนักเรียนอาชีวะที่มาเข้าร่วมพิธี เพื่อนำไปชาร์จแบตฯบริเวณซุ้มขายน้ำตรงข้ามกับประตูทางเข้าสนามกีฬา

ขณะนั้นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก น.ส.คนึงจิตร จึงถอดรองเท้าแล้ววิ่งไปเพื่อที่จะเอาโทรศัพท์ที่เด็กนักเรียนอาชีวะฝากที่ชาร์จไว้ มาเก็บเนื่องจากกลัวโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้จะเปียกฝน แต่พอถึงข้างๆซุ้มขายน้ำ มือของ น.ส.คนึงจิตร ได้ไปจับถังที่วางไว้ข้างๆซุ้ม ที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลทำให้นางสาว คนึงจิตร โดนไฟดูดและล้มลง

ขณะนั้นได้มีอาจารย์และนักเรียนอาชีวะที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยการปั้มหัวใจก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีจะช่วยนำส่งโรงพยาบาล แต่ น.ส.คนึงจิตร ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายเมธา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนได้นำเงินของ กกท.สุราษฎร์ธานี เข้าให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท พร้อมกับ เต้นท์,โต๊ะ,เก้าอี้ ไปช่วยเหลือในงานศพ ต่อมาหลังจากรายงานให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทยทราบเรื่อง ก็ได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นมาอีก 15,000 บาท และได้รับเงินจากประกันภัยที่ทาง กกท.สุราษฎร์ธานี ทำให้ลูกจ้างทุกคนอีกเป็นเงิน 210,000 บาท รวมถึงเงินเดือนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจำนวน 3 เดือน เดือนละ 9,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท

โดยนายเมธา กล่าวว่า รวมเงินเยียวยาทั้งหมดที่ทาง กกท.ได้มอบให้กับทางครคอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นเงินทั้งสิ้น 262,000 บาท

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต่อมาได้มีการมีการโพสต์ข้อความลงในโลกโซเชี่ยล ทำให้ตนไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดทางญาติของผู้ตายจึงทำเช่นนั้น เพราะถ้าหากไม่เข้าใจอะไรก็ควรมาสอบถามได้ที่ กกท.สุราษฎร์ธานี เพราะการไปโพสต์ข้อความลงในโลกโซเชี่ยลแบบนี้จะทำให้เสียหายไปทั้งจังหวัด ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ประสานงานให้ทุกอย่างอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด

ด้าน น.ส.เจนจิรา มีบุญ ซึ่งเป็นน้องสาวของ น.ส.คนึงจิตร มีบุญ ผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนทราบรายละเอียดการออกมาชี้แจงจากทาง ผอ.กกท.สุราษฎร์ธานี ได้ปรึกษากับทางครอบครัว โดยยืนยันว่าจะทำการยื่นฟ้องทาง กกท. เนื่องจากเห็นว่าทางครอบครัวยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ในเรื่องของการเยียวยา