จากกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังสมาชิกผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อดัง ออกมาเผยคลิปวิดีโอไลฟ์สดของ ลีน่า จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง ที่กำลังด่าทอพนักงานส่งอาหาร แต่พนักงานคนดังกล่าวเป็นพนักงานใหม่ จึงได้โทรมาสอบถามที่อยู่ 3 ครั้ง ทำให้ลีน่าจังด่าไปถึงพ่อแม่ของพนักงานอย่างหยาบคาย และต้องการให้พนักงานคนดังกล่าวขอโทษ เพราะพูดไม่ดี
แต่พนักงานคนดังกล่าว ก็ยืนยันว่าไม่ได้พูดคำหยาบ และลีน่าจังบอกจะไม่รับของ จนกว่าพนักงานจะขอโทษ ต่อมาได้ไล่พนักงานส่งอาหารคนดังกล่าวออกไปจากร้าน และเรียก รปภ.มานำตัวพนักงานส่งอาหารออกไป พร้อมอ้างว่าจะถูกทำร้าย ก่อนที่คลิปจะจบลง
ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่พูดคุยกับ ลีน่า จังจรรยา เปิดเผยว่า วันที่ 10 ต.ค.63 เวลาประมาณ 10.00 น. ตนอยู่ที่คลิกนิกแพทย์แผนไทยของตน และสั่งอาหารมารับประทาน เป็นพิซซ่าถาดใหญ่จำนวน 2 ถาด ราคา 509 บาท จากนั้นพนักงานส่งอาหารโทรมาถามที่อยู่ 3 รอบ
เมื่อพนักงานส่งอาหารมาถึงคลินิก ก็มาประชิดตัวตน และทำหน้าขึงขัง น่ากลัว และพูดตะคอกว่า "ด่าแม่ผมตายทำไม" จากนั้นก็เดินเข้ามาใกล้อีก ตนกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน เพราะกำลังไลฟ์สดอยู่พอดี พร้อมถามว่าจะขอโทษหรือไม่ ถ้าขอโทษก็รับเงิน 509 บาทค่าอาหารไป แต่หากไม่ขอโทษก็จะไม่รับสินค้า
จากนั้นพนักงานส่งอาหารก็เรียกตนว่าป้า ทำให้ตนรู้สึกโมโหมาก ตนจึงบอกว่าอย่าเรียกป้า และพนักงานส่งอาหารยังพูดซ้ำอีก "แม่ผมยังไม่ตาย" ด้วยความกลัว ตนจึงรีบวิ่งออกมาเรียก รปภ.ให้นำตัวออกไป และปิดประตู เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้าย ที่ตนบอกว่าจะถูกทำร้ายร่างกายนั้น ความจริงยังไม่โดนทำร้าย ที่ต้องบอกก่อนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายจริง ๆ
ส่วนที่ตนด่าพนักงานส่งอาหารว่า "แม่ตาย" ตนยืนยันว่าไม่จริง เพราะขณะนั้น ตนกำลังหงุดหงิดขณะไลฟ์สดอยู่ ไม่ได้ตั้งใจจะด่าพนักงานส่งอาหารคนดังกล่าว แต่มองว่าพนักงานส่งอาหารทำไม่ถูก เพราะเข้ามาถามว่า "ด่าแม่ผมตายทำไม" แทนที่จะกล่าวคำขอโทษ และบอกว่าเพิ่งมาเริ่มทำงานวันแรก และไม่รู้เส้นทาง เท่านี้ตนก็จะไม่เอาเรื่อง
หลังจากนั้นตนเองได้โทรไปหา call center บอกว่าพนักงานประพฤติตัวไม่เหมาะสม ต่อมา 5 นาทีผู้จัดการสาขาดังกล่าว จึงโทรมาเพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และส่งพนักงานส่งคนใหม่มาส่งอาหาร พร้อมทั้งขอโทษตนอีกครั้ง แทนพนักงานคนดังกล่าว เพราะเป็นพนักงานใหม่ ซึ่งขณะนี้ตนได้ลบคลิปวิดีโอดังกล่าวไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (10 ต.ค. 63) เวลา 17.30 มีคนโทรมาขู่ฆ่าตน เรียกตนว่า อีคางคก แต่ตนรีบวางสายด้วยความกลัว และวันนี้เวลา 10.30 น. มีคนโทรมาด่าทอ ตนยืนยันว่าเป็นเสียงของพนักงานส่งอาหารคนดังกล่าว เพราะจำเสียงได้ ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ขณะไลฟ์สดก็ถูกสังคมรุมด่า เคยโดนถีบหน้าแล้วหงายหลังหรือไม่ ตนอยากถามว่าตนผิดตรงไหน
ด้านพนักงานส่งอาหารให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันที่เกิดเรื่องตนเพิ่งเริ่มทำงานเป็นวันที่ 2 ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปส่งอาหารที่อาคารแห่งหนึ่ง (อินทาวน์สแควร์) ด้วยความที่เป็นพนักงานใหม่ยังไม่ชำนาญเส้นทาง จึงโทรศัพท์ไปยังลูกค้าเพื่อสอบถามเส้นทางตามปกติ แต่ถูกตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระแทกตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อโทรศัพท์สอบถามเส้นทางครั้งที่ 2 เริ่มมีน้ำเสียงโกรธขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ตนก็ยังหาเส้นทางตามที่ลูกค้าบอกไม่พบ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามเส้นทางเป็นครั้งที่ 3 แต่กลับถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายและด่าว่า แม่ตาย จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องมาต่อว่าตนเองขนาดนี้ ยืนยันว่าขณะที่สอบถามเส้นทางตนเองพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ และไม่มีการขึ้นเสียง
เมื่อมาถึงสถานที่ส่งอาหาร ซึ่งเป็นคลินิกของลีน่าจัง จึงขอเข้าไปในคลินิกตามปกติ แต่กลับถูกลีน่าจังต่อว่าตลอดเวลาที่เข้าไปในร้าน เพราะไปเรียกลีน่าจังว่าป้า กลายเป็นเรื่องไม่พอใจที่ลีน่าจังมาด่าตนว่า "แม่ตาย" และตนยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายลีน่าจังแน่นอน ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนและทางร้านได้มีการติดต่อกลับไปที่ลีน่าจัง เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่มายังร้านอาหารดังกล่าว ที่พนักงานส่งอาหารรายนี้ทำงาน แต่ทางร้านและพนักงานส่งอาหารคนปฏิเสธการให้ข้อมูลกับทีมข่าว เพียงแค่ยืนยันข้อมูลสั้น ๆ ว่า มีการขอโทษและตกลงกับลีน่าจังเรียบร้อยแล้ว และอยากให้เรื่องจบ พร้อมทั้งยืนยันว่าพนักงานส่งอาหารคนนี้ พูดจาเข้าใจรู้เรื่อง เพิ่งเริ่มงานได้วันที่ 3 และเป็นคนขยัน ตั้งใจทำงาน