เทคโนบางกะปิไม่ขอล่ามือบอนพ่นสี ช่วยแค่ตามถู โยนผิดเด็ก 15 ป่วน (คลิป)

15 ก.พ. 61
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Fon Tippawan" โพสต์ภาพประตูร้านก๋วยเตี๋ยวถูกพ่นสีสเปรย์ด้วยสีแดง เป็นเลข 10 บานประตูอีกบาน ถูกพ่นคำว่า "โนฯปิ" โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ระบุข้อความว่า "ครบ 37 ปี วันสถาปนาโรงเรียน มาประกาศศักดา ประตูบ้านฉันเพื่อ ??? รร.เทคโนบางกะปิ มาช่วยแก้ไขให้ด้วย" ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Athiporn Lapwilai" เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า โดนพ่นสีสเปรย์ใส่ประตูบ้านเช่นกัน โดยพ่นคำว่า "กูโนปิ" พร้อมกับแชร์คลิปวงจรปิดที่จับภาพวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มากลางดึก เพื่อพ่นสีสเปรย์ลงบนประตูบ้าน
นายทำนอง นาคสวัสดิ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีบางกะปิ
ล่าสุด ทีมข่าวได้พบกับ นายทำนอง นาคสวัสดิ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีบางกะปิ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบว่าคนที่ไปพ่นสีที่กำแพง หรือประตูบ้าน นั้นเป็นใคร เพราะตนไม่มีหน้าที่ไปเสาะหาคนทำ แต่มีหน้าที่แก้ไข เรื่องนี้ตนทราบตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. จึงได้มอบหมายให้รองผู้อำนวยการ กับเด็กจิตอาสา ไปช่วยปรับแก้ด้วยการทาสีใหม่ ขณะนี้ทราบว่า มีเด็กไปพ่นสีทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก้ไขไปแล้ว 3 แห่ง พร้อมย้ำว่า ถ้าหากมีผู้เสียหายแจ้งข้อมูลเข้ามา ทางสถาบันพร้อมที่จะไปแก้ไข นายทำนอง เปิดเผยอีกว่า ทางวิทยาลัยไม่ได้มีการกำหนดวันสถาปนาวิทยาลัย และไม่เคยมีการจัดงานเลี้ยง หรือกิจกรรมภายในวิทยาลัย เนื่องจากผิดกฎระเบียบของกระทรวง และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ศิษย์เก่าไปรวมตัว จัดตั้งวันสถาปนาขึ้นมาเอง โดยตนมีหน้าที่เข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น และไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือร่วมงานวันสถาปนาวิทยาลัย แม้แต่ครั้งเดียว
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับ น.ส.ฝน ผู้เสียหาย
ทางด้าน น.ส.ฝน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ตนเดินลงมาบริเวณหน้าร้าน แล้วได้ยินเสียงคล้ายคนเขย่ากระป๋อง และได้กลิ่นสี แต่ไม่คิดว่าจะมีคนมาพ่นสีที่ร้านตน จนกระทั่งแฟนกลับมาที่ร้าน จึงทราบว่าร้านถูกพ่นด้วยสีแดง ที่บริเวณประตูข้างร้านว่า "โนฯ ปิ" หลังจากนั้นตนจึงได้ติดต่อไปที่เพจของวิทยาลัยฯ และเพจรวมศิษย์เก่า แต่เพจของศิษย์เก่าตอบกลับมาว่า "ขอโทษ"
ข้อความที่มีการพ่นสีหน้าประตูร้าน
ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์ไปที่วิทยาลัยเทคโนโลยีบางกะปิ เจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยแนะนำให้ไปแจ้งความ และถ่ายภาพเก็บไว้ เพื่อจะนำมายื่นที่วิทยาลัย ตนจึงถามว่าจะดำเนินการ หรือรับผิดชอบอย่างไรบ้าง โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า "ไม่ทราบ เพราะเป็นขั้นตอนของผู้ใหญ่" หลังจากนั้นมีชายวัยรุ่น สวมเสื้อคลุมสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์ แนะนำตัวว่าเป็นนักเรียนของวิทยาลัยฯ ดังกล่าวมาขอโทษ และยินดีจะรับผิดชอบ ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) จะมาลบ และจะทาสีให้ใหม่ ทั้งนี้ น.ส.ฝน เปิดเผยอีกว่า มีคนมาบอกว่ารู้ตัวคนพ่นสีแล้ว เป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 15 ปี แต่ตนไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต เพียงแค่อยากจะขอให้ผู้กระทำผิด ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังจากนี้จะเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และอยากจะขอขอบคุณเพจที่ช่วยนำเรื่องตนไปแชร์
สีที่ถูกพ่นตามกำแพง
นอกจากนี้ ทีมข่าวติดต่อไปหา นายแมว จิตอาสาวิทยาลัย บุคคลที่จะตามหาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนทราบว่ามีการพ่นสี จึงได้มาติดต่อสอบถามข้อมูลที่ร้านดังกล่าว ตนทราบว่า คนที่ก่อเหตุคือ วัยรุ่นอายุ 15 ปี ซึ่งไม่ได้เรียนที่วิทยาลัยฯ ส่วนสาเหตุที่ไปพ่นสเปรย์ เพราะวันนั้นเป็นวันสถาปนาวิทยาลัยฯ บวกกับความสนุก และคึกคะนอง จึงพ่นสีวันสถาปนาลงบนกำแพง โดยพ่นทั้งหมด 2 แห่ง คือพ่นสีภายใน ซ.พัฒนาการ 20 และ 28 วัยรุ่นมือพ่นสีได้รับสารภาพ และขอโทษสิ่งที่ทำลงไป พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำอีก ขณะเดียวกันตนได้ติดต่อไปยังครอบครัวของวัยรุ่นคนดังกล่าว ซึ่งทางครอบครัวได้ฝากขอโทษ และพร้อมที่จะรับผิดชอบ ทั้งนี้ นายแมว ยืนยันว่าได้ตำหนิคนก่อเหตุไปแล้วว่า ไม่สมควรกระทำเช่นนี้ เพราะทำให้ชื่อเสียงของวิทยาลัยฯ เสื่อมเสีย รวมถึงทำให้ทุกคนเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับนายบุญชู นักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีบางกะปิ จิตอาสาของวิทยาลัยฯ
ขณะเดียวกัน นายบุญชู นักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีบางกะปิ ยอมรับว่า ตนเป็นอาสามัครจิตอาสาในวิทยาลัยฯ ไปแก้ไขทาสีบนกำแพงบ้านผู้เสียหาย โดยการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ทางวิทยาลัยฯ จะประสานตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้มาป้องกันเหตุ เนื่องจากไม่ทราบว่าจะมีคนไม่พอใจ ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวหรือไม่ ทุกครั้งที่ไปลบสีที่พ่นตามกำแพง ตนจะลบของทุกสถาบันออกทั้งหมด
จิตอาสาไปลบสีที่ถูกพ่นตามกำแพง
ขณะนี้ทราบว่า มีการพ่นสีใส่กำแพงประมาณ 4-5 แห่ง แต่ไม่เคยรู้ว่าคนที่พ่นสีเป็นใคร ตนเชื่อว่า ต่างคนต่างความคิด ไม่สามารถบังคับใครให้คิดแบบเดียวกันได้ โดยส่วนตัวเคยสอนรุ่นน้องอยู่เสมอว่า ไม่อยากให้ทำแบบนี้ เพราะสถาบันจะเสื่อมเสียชื่อเสียง เมื่อปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่สามารถไปแก้ตัวให้สถาบันได้ ซึ่งทำได้เพียงทาสีทับรอยพ่นเท่านั้น ทั้งนี้ นายบุญชู อยากฝากบอกน้องที่หันมาเรียนรู้สายอาชีวะว่า "เรียนสายนี้มีดี ทำให้เด็กนักเรียนหลายๆ คนมีอาชีพ แตถ้าใครยังกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง ขอให้มองก่อนว่า ขนาดเหรียญยังมี 2 ด้าน เหตุการณ์ความรุนแรงที่เห็นคือส่วนน้อย แต่ความดี ช่วยเหลือสังคม เด็กอาชีวะมีเต็มเปี่ยม"
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับ นายเม๊ง เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง
ด้าน นายเม๊ง เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. เวลาประมาณ 02.00 น. ขณะที่น้องชายกลับมาที่บ้าน พบว่าประตูบ้านมีลักษณะแปลกๆ เมื่อไปดูใกล้ๆ พบว่าประตูบ้าน ถูกพ่นสีคำว่า "กูโนปิ" ก่อนจะถ่ายภาพส่งมาให้ดู ระหว่างนั้นตนได้ให้น้องชายไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า คนร้ายมากัน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน แล้วพุ่งตรงเข้ามาเพื่อพ่นสีใส่ร้าน ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.พ. เวลาประมาณ 04.00 น.
ภาพกล้องวงจรปิด
นางเม๊ง กล่าวอีกว่า ในขณะนั้น ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไร เนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตราย จึงรอให้ตนมาจัดการ ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) โดยตนจะเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางชัน และนำเอกสารการแจ้งความ พร้อมภาพถ่ายไปยื่นให้กับทางวิทยาลัยเทคโนโลยีบางกะปิ แต่ตอนนี้ไม่ยังทราบว่า ใครเป็นคนพ่น เพราะภาพในกล้องวงจรปิด คนร้ายดูลักษณะท่าทางคล้ายวัยรุ่น สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ จงใจเดินมาพ่นสีหน้าร้านตนแน่นอน และขอยืนยันว่า คนในร้านของไม่เคยไปมีปัญหากับใคร พร้อมยอมรับว่า ไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โต แต่เมื่อเกิดเรื่องแล้ว อยากจะให้สถาบันมารับผิดชอบ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ