"พุทธ" - "ษิทรา" - "เดชา" ไม่หวั่นประธานบอยแจ้งความ ลั่นงานนี้มีคนจบไม่สวยล้างคุกรอได้เลย (คลิป)

จากกรณี นายธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต หรือ "ประธานบอย" รับปากช่วยเหลือลูกความในการหาทนายแล้วไม่สามารถทำได้ นำไปสู่การฟ้องร้องกัน ประกอบกับ ประธานบอย กำลังเป็นข่าวในโซเชียลเรียกค่าเสียหาย 9 ล้านบาท จากการพบ "แมลงสาบ" ในห้างฯ ทางรายการ "ต่างคนต่างคิด " ช่องอมรินทร์ทีวี 34 จึงได้เชิญ มาออกรายการเมื่อวันที่ 9 ม.ค.61 หลังจบรายการมีการฟ้องร้องเพิ่มเติมคดีหมิ่นประมาท ล่าสุด วันนี้ (12 ม.ค.61) นายธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต หรือ ประธานบอย ได้หอบหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และแจ้งความเท็จ กับนิติบุคคล 1 ราย กับบุคคลอีก 7 ราย ที่ออกรายการในวันดังกล่าว

ทั้งนี้ ประธานบอย กล่าวว่า การเรียกตนมาร่วม "รายการต่างคนต่างคิด" ในวันนั้นมองว่า เหมือนการกลั่นแกล้ง เพราะไม่มีโอกาสได้เตรียมเอกสารมาแก้ต่าง หลังจากวันนั้น ตนรู้สึกว่าตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่มาแจ้งความความเพิ่ม จึงต้องออกมาทำให้ความยุติธรรมชัดเจนขึ้น

ขณะเดียวกัน ประธานบอย มองว่า นายเดชา กิตติวิทยานันท์ มีพฤติกรรมการปลุกระดม ชอบอวดอ้างว่าเหนือกว่าทนายคนอื่น ทั้งที่จบเนติบัณฑิตมาแค่ 10 เดือน อ้างว่าเป็นอาจารย์ สอนมหาวิทยาลัย ทั้งที่เป็นแค่วิทยากร ส่วนประเด็นที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พาผู้เสียหาย 3 คน เข้าแจ้งความก่อนหน้านี้ คิดว่ามีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งตนให้มีคดีความทางอาญา เพื่อเป็นการดิสเครดิตตน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ในการแจ้งความเอาผิดอีกด้วย

ทางด้าน นายษิทรา พูดถึงการฟ้องร้องของประธานบอย ว่า เป็นสิทธิ์ของเขาที่พึงกระทำ แต่เท่าที่จำได้ในวันที่ออกรายการต่างคนต่างคิด ไม่มีประโยคไหนที่ตนพูดดูหมิ่น หรือทำให้เกิดความเสียหายแก่ ประธานบอย ซึ่งในวันดังกล่าว ประธานบอย เป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุดแต่กลับไม่พูด หากสิ่งที่ผู้เสียหายพูดเป็นเรื่องโกหก ก็แค่ชี้แจงมาว่าเขาโกหกอะไร ยังไง แต่กลับไปตอบประเด็นอื่น ทำให้สังคมสงสัย

ส่วนกรณีที่ว่า นำผู้เสียหายเข้ารายการเพื่อดิสเครดิตนั้น ทุกคนในรายการได้ยินเหมือนกันหมดว่า ตัวประธานบอยเอง เป็นคนอนุญาตให้เข้ามาร่วมพูดคุยด้วยตัวเอง อีกทั้งตนได้เคยโพสต์บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วด้วยว่า จะมีการนำผู้เสียหายมาเพิ่ม ตั้งแต่ก่อนมารายการ แล้วจะกลัวอะไร สำหรับประเด็นหมิ่นประมาทก็เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ทำคดีมาไม่มีคำพูดประโยคไหนที่ไปหมิ่นประมาท และนำไปดำเนินคดีได้ เพราะตนไม่เคยกล่าวถึง จะขอสมมติว่าเป็นอีกคน และตอบแบบกลางๆ เท่านั้น ไม่เคยเจาะจงว่า ใครเป็นคนทำผิด นายษิทรา เปิดเผยอีกว่า ตนทำคดีมาก็เยอะ แต่คดีที่หนักแบบนี้ และคนแบบนี้ ตนยังไม่เคยเจอ ซึ่งที่ผ่านมาจะเซฟตัวเองตลอด ไม่เคยพาดพิง หรือหมิ่นประมาทใคร ให้ตัวเองถูกฟ้อง ซึ่งตอนนี้ตนกำลังให้ทีมงานถอดเทปรายการทุกคำพูด ที่ได้ไปออกรายการ เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกล่าวตบท้ายว่างานนี้ “จุดจบไม่สวย เตรียมเสื้อผ้ารอไว้ได้เลย เรือนจำล้างคุกไว้รอแล้ว คดีนี้มีเจ้าทุกข์หลายคน และมีหลายคดี ไม่รอดแน่นอน” ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เปิดเผยว่า ไม่ได้วิตกกังวลอะไร ระหว่างออกรายการเป็นการตอบโต้กัน แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ส่วนที่ว่าโอ้อวดเป็นความคิดของประธานบอย ต้องไปร้องที่สภาทนายฯ ไม่ใช่เรียกร้องผ่านสื่อ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ

ขณะที่การทำคดีนี้ ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะตนไม่ใช่คู่กรณีกับ ตนทำหน้าที่ทนายความ โดยผู้เสียหายถูกหลอก จึงพาไปแจ้งความ ส่วนที่ต้องพาไปออกสื่อ เพราะเป็นประโยชน์ต่อสังคม จึงพยายามที่จะสื่อสารให้กับคนดูทางบ้านรู้เท่าทัน หากตัวเองถูกดำเนินคดี แต่ประชาชนได้ประโยชน์ ก็ยินดี เพราะไม่ได้ทำผิด ด้าน นายพุทธ อภิวรรณ ได้กล่าวชี้แจง ในฐานะผู้ดำเนินรายการ “ต่างคนต่างคิด” ในวันดังกล่าว ได้มีการสอบถามประธานบอย ถึงความสมัครใจ ที่จะให้แขกรับเชิญเข้าร่วมรายการ  ซึ่งทางประธานบอยได้มีการอนุญาตให้เข้ามาพูดคุย จึงเชิญแขกรับเชิญท่านอื่นๆ มาพบ

หากประธานบอยปฎิเสธตั้งแต่แรก ทางรายการก็ไม่สามารถนำแขกรับเชิญเข้ามาร่วมรายการได้ เพราะหลักการทำรายการ คือให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และหลังจบรายการ ยังมีการสัมภาษณ์ประธานบอยต่ออีก เพื่อให้โอกาสได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ ดังนั้นเป็นสิทธิ์หากประธานบอยจะแจ้งความ ซึ่งตนเองในฐานะคนทำงานสื่อ พร้อมให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และไม่เคยหวั่นไหวหรือวิตกใดๆ ทั้งสิ้น เพราะงานที่ทำคือการรับผิดชอบ และตรวจสอบสิ่งผิดปกติในสังคม