สาวเครียดชวนแฟนหนุ่มกินยาตายพร้อมกัน แต่สุดท้ายผู้ชายดับ ส่วนตัวเองรอดหวุดหวิด

วันที่ 24 มิ.ย.63 ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด รับแจ้งเหตุพบศพคนตาย ที่บริเวณชายหาดบ้านใหม่ หมู่ที่ 1 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาด้า ตอนครึ่ง สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ตร 1122 กรุงเทพมหานคร จอดหันหน้ารถลงทะเล ที่บริเวณประตูฝั่งคนขับถูกเปิด พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายลักษณะอ้วน สวมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้นสีดำ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นทราย และพบหญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขาสั้นสีดำ นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร มีอาการคล้ายคนเมายา พูดจาไม่รู้เรื่อง ตรวจสอบภายรถ พบเตาถ่านสภาพใหม่พร้อมฐานรองเตา และพบถ่านหุงข้าวอยู่ในถุงพลาสติกวางอยู่ใกล้กัน

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตชื่อนายรณชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ส่วนหญิงสาวชื่อ น.ส.ดาเรศ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่สอบถามหญิงสาวเบื้องต้นให้การว่า ตนเองไปพบกับฝ่ายชายที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งตนเองไปรักษาโรคซึมเศร้า ส่วนฝ่ายชายไปรักษาโรคอ้วน ก่อนจะคบหากันมาระยะหนึ่ง โดยตนบอกฝ่ายชายว่าอยากตาย ฝ่ายชายจึงบอกว่าจะมาตายเป็นเพื่อน จึงได้ชวนกันมา โดยเช่ารถยนต์และขับมาที่บริเวณชายหาดดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ระหว่างนั้นหญิงสาวมีอาการแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสามร้อยยอดทันที

ส่วนยาที่พบอยู่ในถุงผ้าสีขาวของฝ่ายหญิงเป็นยารักษาโรคซึมเศร้า และยาชนิดอื่น ๆ อีกจำนวน 5 แผง ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นยาชนิดใด ต้องส่งให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปทีโรงพยาบาลเพื่อสอบปากคำ แต่ทราบว่าหญิงสาวยังคงมีอาการเมายา ยังไม่สามารถให้การได้ในขณะนี้

เบื้องต้นคาดว่าทั้งคู่น่าจะชวนกันมาเพื่อฆ่าตัวตาย สาเหตุอาจมาจากโรคที่ทั้งคู่เป็นอยู่ โดยคาดว่าทั้งคู่น่าจะกินยาก่อน ถ้าหากไม่ตายก็จะใช้วิธีการรมควัน เพราะมีการเตรียมเตาถ่าน และถ่านรอไว้ ส่วนที่ฝ่ายชายเสียชีวิตเพราะเกิดจากอาการช็อค เนื่องจากฝ่ายชายมีน้ำตัวหนักกว่า 200 กิโลกรัม และน่าจะกินยาเกินขนาด โดยหลังจากนี้ต้องรอให้หญิงสาวมีอาการดีขึ้นและสามารถให้การได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้นำตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป

ล่าสุด น้องสาวผู้ตายให้ข้อมูลว่า พี่ชายมีโรคประจำตัวอยู่ 2 โรค คือโรคอ้วน และโรคขี้เกียจหายใจ จะต้องมีถังออกซิเจนติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ในวันที่ขับรถมาฝ่ายชายไม่ได้นำถังออกซิเจนมาด้วย จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต