หากยังจดจำกันได้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ พ่อผลเจริญธรรม หมอธรรมที่เคยเดินทางมาที่บ้านน้องชมพู่ช่วงวันที่ค้นหา ซึ่งเคยเห็นว่าชมพู่นั่นเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่สามารถพาไปในวันที่ไปค้นหาได้
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
พ่อผลเจริญธรรม ได้รับขันธ์ 5 จากชาวบ้าน บ้านกกกอก ซึ่งเดินทางมากับทีมข่าว โดยมาให้หมอธรรมนั่งสื่อสารกับธรรมในตัวเอง ซึ่งมีการสวดบทสวดตามธรรมที่ร่ำเรียนมา เพื่อสื่อสารกับธรรม โดยมีการพูดสลับการท่องธรรม หลังจากที่ทีมข่าวและชาว้บานสอบถาม
โดยจับใจความได้ว่า ภาพที่เห็นในนิมิตตาทิพย์ คนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปตั้งแต่วันแรกแล้ว โดยมีญาติของคนร้ายพาตัวหลบหนีไป แต่สิ่งที่เห็นคนร้ายเป็นคนสติไม่ค่อยดี ซึ่งเกิดจากยาเสพติด รูปร่างสูงใหญ่ แต่กายใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อยืดแขนยาวสีดำ แขนเสื้อสีเหลือง มีกระเป๋าสะพายข้าง 1 ใบ สวมหมวกปิดใบหน้า ผมยาวประบ่า ผิวดำ อายุ 40-50 ปี
วันเกิดเหตุคนร้ายเดินทางลงมาจากบนภูเหล็กไฟ หลังจากนั้นมาเห็นน้องชมพู่ ซึ่งนั่งอยู่ใกล้กับพื้นถนนหมู่บ้าน ใกล้กับเปล หลังจากนั้นคนร้ายมาเห็นน้อง ได้เกิดอารมณ์ทางเพศ ก่อนจะวิ่งเข้ามาอุ้มน้องและวิ่งขึ้นไปภูเหล็กไฟ ซึ่งชมพู่ก็พยายามร้องไห้ ร้องเรียกพี่สาวตัวเอง แต่คนร้ายได้หยิบเสื้อยืดสีดำอีก 1 ตัวออกมาจากกระเป๋า และใช้เสื้ออุดปากและจมูกน้อง ก่อนที่เด็กจะขาดใจตายระหว่างทาง
หลังจากนั้นคนร้ายก็เกิดความกลัว จึงคิดอำพราง ทำลายศพ จึงจับน้องแก้ผ้าออก และเอาสิ่งของน้องทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ส่วนเสื้อยังคงอยู่บนภูเหล็กไฟ ไม่ได้เอาติดตัวไปด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถบอกอะไรได้มาก แต่บอกได้ว่าชมพู่ไม่ได้ถูกทำร้าย แต่คนร้ายตั้งใจจะข่มขืน เมื่อเด็กตายก็ไม่ได้มีการทำอะไร เพียงนำศพไปทิ้งเพื่อหนีความผิด
ส่วนเรื่องการตัดเส้นผมน้อง ในนิมิตเห็นจริงว่ามีการตัดผม โดยคนร้ายมีการเอาไปเพื่อทำพิธีในการข่มวิญญาณไม่ให้ไปตามจองล้างคนก่อเหตุ แต่ไม่ได้เอาไปทำมนตร์ดำอะไร