กฤษฎา ป้อง "หยาด" ไม่เกี่ยวเหตุชนแท็กซี่ งัดหลักฐาน "หยาด" โทรเคลียร์แม่ไม่ปิดบัง ย้ำสถานะแค่พี่ (คลิป)

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง ได้โทรศัพท์ร้องเรียนมายัง รายการทุบโต๊ะข่าว ออกอากาศทุกวัน เวลา 20.35 น. ทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ว่าถูกรถยนต์ BMW ของดาราสาว พุ่งชนท้ายรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ และไถลมาโดนรถของตน โดยดาราสาวไม่ยอมลงมาเจรจาหรือขอโทษ มีเพียงชายที่เป็นคนขับรถของดาราสาว ลงมาขอโทษก่อนที่จะส่งตัวดาราสาวขึ้นรถแท็กซี่กลับไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้นำเสนอไปแล้วนั้น

วันนี้ (9 ธ.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์มทีวี ได้เดินทางไปพบกับ นายแมน (นามสมมติ) ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ได้รับความเสียหายอีกครั้ง เพื่อสอบถามความคืบหน้าหลังจากที่มีกระแสข่าวออกไป โดยนายแมน เผยว่า นายกฤษดา เพื่อนชายคนสนิทของดาราสาว ได้โทรศัพท์มาหาตน โดยเสนอว่าจะจ่ายค่าเยียวยาให้จำนวน 10,000 บาท แต่ตนไม่ยอมรับ เพราะอยากได้ค่าเยียวยา จำนวน 20,000 บาท ตามที่เคยขอไป เนื่องจากต้องจ่ายค่างวดรถแท็กซี่ รวมถึงเป็นเงินชดเชยที่ไม่สามารถทำงานได้ในช่วงที่รถกำลังซ่อม ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลากว่า 20 วัน

ส่วนเงินเยียวยาที่บริษัทประกันภัยต้องจ่ายนั้น ตนคงไม่ได้รับ เพราะชื่อเจ้าของรถ เป็นชื่อของเจ้าของรถแท็กซี่ที่ตนเช่ามา ไม่ใช่ชื่อตน ตนจึงอยากได้เงินเยียวยาเบื้องต้นจากคู่กรณี ที่ผ่านมาได้ติดต่อแม่ของดาราสาวไปเพียงครั้งเดียวหลังวันเกิดเหตุ เพราะอยากสอบถามถึงเรื่องการชดเชย และยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเรียกร้อง เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีชื่อเสียง แต่อยากให้สังคมเห็นใจเพราะตอนนี้อยู่ในฐานะลำบากจริงๆ ทั้งนี้ นายแมน ยังได้บอกอีกว่า ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาแม่นางเอกสาวอีกครั้ง แต่พบว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรับโทรศัพท์แต่อย่างใด

ขณะที่ น.ส.จอย (นามสมมติ) เจ้าของรถมิตซูบิชิ มิราจ สีขาว ที่เป็นอีกหนึ่งผู้เสียหาย กล่าวถึงกระแสสังคมบางส่วนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนออกมาเรียกร้องเพื่อต้องการแบล็คเมล์อีกฝ่ายนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง สาเหตุที่ออกมาพูดความจริงก็เพราะสงสาร นายแมน คนขับแท็กซี่ เพราะไม่มีรายได้ และเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีชื่อเสียงก็น่าจะออกมารับผิดชอบตามความเหมาะสม ส่วนตัวเองไม่ได้เรียกร้องค่าเยียวยาจากคู่กรณีแต่อย่างใด

ด้าน นางวิภา รุ่งเหมือนพร ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คืนเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงรถชนกันเสียงดัง จึงรีบวิ่งออกไปดูหน้าบ้าน พบว่า รถ BMW ชนรถแท็กซี่ และรถมิตซูบิชิ มิราจ ของเพื่อนบ้าน แต่คนขับยังไม่ลงมาจากรถ จากนั้นประมาณ 10 นาที คนขับรถซึ่งเป็นผู้ชาย ถึงได้เดินลงมา พร้อมกับเจ้าของรถทั้ง 2 คัน ก็ออกมาจากบ้านพอดี ซึ่งชายคนขับชนได้พูดว่า "ขอโทษครับ ผมทะเลาะกับแฟน" เมื่อเห็นดังนั้น ตนจึงเดินกลับเข้าบ้าน โดยยังไม่เห็นหน้าแฟนสาวของคนขับรถว่าเป็นใคร

ด้าน นายกฤษฎา มโนสุดประสิทธิ์ เพื่อนชายคนสนิทของ "หยาดทิพย์ ราชปาล" ดาราสาวที่นังอยู่บนรถในวันนั้น ได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อลงบันทึกประจำวัน หลังจากที่คู่กรณีออกมาให้ข่าวที่ไม่เป็นความจริง ส่งผลให้ดาราสาวเสียหาย พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนและดาราสาวเจ้าของรถ BMW คันที่เกิดเหตุ เพิ่งกลับมาจากทานดินเนอร์ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นวันเกิดของตนเอง ซึ่งมีตนเป็นคนขับรถ เมื่อใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถจักรยานยนต์ขับตัดหน้า ตนจึงหักหลบ ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ จากนั้นรถแท็กซี่ได้ไถลไปชนกับรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ สีขาว

หลังเกิดเหตุ ดาราสาวเจ้าของรถ BMW ตกใจและโมโห ที่ตนขับรถไม่ระวัง จึงต่อว่าตน เพราะรถคันดังกล่าวดาราสาวเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน และขอยืนยันว่า สาเหตุที่ทะเลาะกันมาจากเหตุรถชนที่เกิดขึ้น ซึ่งดาราสาวไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา เพียงแต่ ตกใจที่รถของตนเองไปชนกับรถคู่กรณี

นายกฤษฎา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.สำเหร่ และเสียค่าปรับให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนั้น ทางคู่กรณีทั้งสองคนยังไม่ได้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน แต่หลังจากนั้น 2 วัน ทางนายแมน คนขับรถแท็กซี่ ได้โทรศัพท์ไปหาแม่ของดาราสาว เพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน แม่ของดาราสาวจึงบอกให้ตนไปเจรจากับคู่กรณี ซึ่งตนเองเป็นคนโทรศัพท์ไปหาคนขับแท็กซี่ และเสนอจ่ายค่าชดใช้เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท

แต่ทางคู่กรณีขอต่อรองค่าเสียหายที่ 20,000 บาท ซึ่งตนรู้สึกว่ามากเกินไป เพราะรถของดาราสาวมีประกันชั้น 1 สามารถดูแลเรื่องการเคลมรถและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับคู่กรณีได้ทั้งหมด แต่คนขับรถแท็กซี่ บอกว่า ทางตนเป็นบุคคลมีชื่อเสียง เงินแค่ 20,000 บาท ทำไมดูแลเขาไม่ได้ นี่เขายังอุตส่าห์ไม่ทำให้เป็นข่าว ตนเองจึงตอบกลับไปว่า ไม่ควรที่จะนำดาราสาวมาเชื่อมโยง เพราะคนขับคือตนเอง และตนก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเยียวยาที่เงินจำนวน 10,000 บาท หลังจากนั้น นายกฤษฎา ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อให้ทางคนขับแท็กซี่ เข้าไปเจรจาที่สถานีตำรวจ แต่ทางคู่กรณีไม่ยินยอม

ส่วนเรื่องที่ดาราสาว บอกว่า "ห้ามบอกแม่, เรื่องนี้ให้แม่รู้ไม่ได้" นายกฤษฎา ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะวันเกิดเหตุดาราสาวได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับทางครอบครัวว่ารถชน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะห้ามให้แม่รู้ เพราะมีหลักฐานเป็นภาพแคปหน้าจอ ช่วงเวลาที่โทรศัพท์และระยะเวลาที่คุยกันยาวนาน 15 นาที พอแม่ทราบจึงเกิดความเป็นห่วง และให้ดาราสาวขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านทันที

ส่วนกรณีที่ดาราสาวไม่ได้ลงมาขอโทษนั้น ตนมองว่า เพราะดาราสาวไม่ใช่คนขับ หรือคนกระทำความผิด และตนซึ่งเป็นคนก่อเหตุได้ขอโทษคู่กรณีแล้ว ส่วนเรื่องที่ตนพูดจาไม่สุภาพกับคู่กรณี เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงที่ตนพยายามโทรศัพท์ไปเจรจาต่อรองกับคู่กรณี

สำหรับเนื้อหาในคลิปเสียงที่ นายกฤษฎา กล่าวอ้างมีข้อความ ดังนี้ กฤษดา - ฮัลโหล ครับ ฮัลโหลครับ ฮัลโหล ครับ ฮัลโหลๆ แท็กซี่ - มีประกันชั้น 1 ก็มีแจ้งประกันไง เราก็ไม่มีเงินไง ไม่มีเงินกิน และไม่มีเงินจะไปหาอู่ใหม่ไง ก็ขอให้ช่วยแค่เบื้องต้นไง เราเรียกไปแค่ 20,000 บาท เองไงมันไม่ยอมจ่าย ให้เรียกประกัน ก็ให้เราเรียกเอาประกัน ก็กว่าจะได้ก็อีกนาน แท็กซี่ก็เช่าซื้อด้วย ไม่ใช่ของเราเป็นของเถ้าแก่ กฤษฎา - ฮัลโหลครับ แท็กซี่ - แท็กซี่ครับ กฤษฎา - อ่อ จากพี่แท็กซี่ใช่ไหมฮะ พี่ครับเราตกลงกันแล้วใม่ใช่เหรอครับ ว่าผมจะให้พี่หนึ่งหมื่นบาทก่อน ถ้าพี่สะดวก ผมจะไปลงประจำวัน แล้วเอาเงินสดให้พี่เลยนะครับพี่ แล้วทำไมพี่ถึงไปให้ข่าวว่าผมไม่ดูแลไม่เยียวยาอะไรเลย มันไม่ถูกต้องนะครับ แท็กซี่ - อ่อ พดดี ผมไม่ได้ออกคลิปนะครับ ผมไม่รู้ใครออก ปล่อย กฤษฎา - ยังไงฮะ ตกลงใครไปออกคลิปอ่ะครับพี่ แท็กซี่ - แต่หนึ่งหมื่นบาทมันไม่พออ่ะครับ

ส่วนที่คำพูดที่ว่า "ขอโทษครับ ผมทะเลาะกับแฟน" นั้น นายกฤษฎา บอกว่า ตนเองไม่ได้พูดว่า ทะเลาะกับแฟน แต่ลงจากรถไปพูดเพียงว่า "ขอโทษครับ" ส่วนเรื่องที่ทะเลาะกับดาราสาว ก็ทะเลาะกันเรื่องที่ตนขับรถชน ซึ่งขณะนั้นไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ว่าเป็นแฟนกับดาราสาวให้ชาวบ้านแถวนั้นฟัง เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับดาราสาวเป็นอย่างไร นายกฤษฎา ระบุว่า ตนเองเป็นผู้ชาย ขอให้ฝ่ายหญิงออกมาชี้แจงดีกว่า แต่ขณะนี้ตนเป็นเพียงพี่ชายคนสนิทเท่านั้น

ล่าสุด ดาราสาวชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาล ได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @yardthip โดยมีข้อความชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด