จากกรณี ตำรวจสภ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 58 หมู่ 3 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.ชลธิชา จินดาวงศ์ อายุ 29 ปี นอนหงายในชุดเสื้อแขนสั้นลายขาว-ดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีเลือดออกจากปากและจมูกนองพื้น ตรวจสอบพบร่องรอยงัดประตูบ้าน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด แต่กระปุกออมสินที่มีเงิน 5,000 บาทหายไปด้วย ขณะที่แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง
วันที่ 12 เม.ย.63 นางประทีป จินดาวงศ์ แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลา 01.30 น. ตนออกไปกรีดยางที่สวนยางห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร และกลับมาบ้านในเวลา 09.00 น. เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านพบลูกสาวนอนอยู่กลางบ้าน เดินเข้าไปดูใกล้ ๆพบลูกนอนตัวแข็ง มีเลือดออกจากจมูกและปาก รวมถึงมีแผลถูกแทงที่คอ 5 แผลที่หน้าอกอีก 6 แผล และพบไขควงตกอยู่ข้างศพ
โดยภาพที่บาดตา คือลูกสาววัย 2 ขวบของผู้เสียชีวิตถือของเล่นเดินวนอยู่ข้างศพแม่ ซึ่งตนเห็นแล้วรับไม่ได้ ส่วนลูกสาวคนเล็กของตนที่เป็นเด็กพิเศษยังคงนอนอยู่ในห้องตามปกติ
ตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพบว่าห้องนอนของลูกสาวมีรอยรื้อค้น เงินในกระปุกออมสินหายไปจำนวน 5,000 บาท และด้านหลังบ้านส่วนของครัวบานเกล็ดหน้าต่างถูกถอดออก คาดการณ์ว่าคนร้ายน่าจะมากัน 2 คน โดยคนแรกถอดบานเกล็ดและปีนเข้ามาในบ้านก่อนเปิดประตูครัวให้อีกคนเข้ามา
จากนั้นลูกสาวของตนน่าจะได้ยินเสียง จึงเดินออกมาจากห้องนอนและหยิบไขควงที่วางอยู่หลังตู้เสื้อผ้า เมื่อคนร้ายเห็นก็อาจจะต่อสู้กัน โดยคนร้ายอีกคนจับมือทั้ง 2 ข้างลูกสาวให้นอนหงาย ส่วนอีกคนใช้ไขควงที่ลูกสาวถืออยู่เอามาแทงลูกสาวจนตนเสียชีวิต ก่อนเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน
ทั้งนี้ มั่นใจว่าคนร้ายต้องการขโมยเงินเพียงอย่างเดียว แต่ลูกสาวเข้ามาเห็นและอาจจะเป็นคนที่รู้จักกันจึงต้องฆ่าปิดปาก
โดยแพทย์ชันสูตรเบื้องต้นว่าลูกสาวน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ตนเพิ่งออกจากบ้านได้เพียงครึ่งชั่วโมง จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะซุ่มดูอยู่เมื่อเห็นตนออกจากบ้านจึงเข้าไปจัดการขโมยทรัพย์สิน เพราะก่อนที่ตนจะออกจากบ้านในวันเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงหมาเห่าแต่ไม่เอะใจ
ด้าน นายวีระวัฒน์ จินดาวงศ์ อายุ 35 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า คืนเกิดเหตุตนนอนอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยได้ยินเพียงเสียงหมาเห่าแต่ไม่ได้เอะใจเพราะปกติหมาเห่าเป็นประจำ กระทั่งช่วงเช้าทราบว่าน้องสาวเสียชีวิต คาดว่าน้องสาวน่าจะได้ยินเสียงช่วงที่คนร้ายงัดบ้านเกล็ดหน้าต่างออกและพยายามจะเข้าบ้าน น้องสาวจึงเดินไปหยิบไขควงหลังตู้ในห้องครัว จนเห็นหน้าคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคนที่รู้จักกัน จึงมีการต่อสู้เกิดขึ้น
ส่วนที่ญาติคาดว่าคนร้ายน่าจะมี 2 คน เพราะสภาพศพน้องสาวนอนหงายมือ 2 ข้างกางออกมีรอยโดนกดที่ข้อมือ จึงคิดว่าต้องมีคนที่จับน้องเอาไว้ และอีกคนลงมือแทงจนน้องสาวตนเสียชีวิต
โดยส่วนตัวเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และมีการสังเกตพฤติกรรมของคนในบ้าน เพราะบางวันแม่ของตนก็ไม่ได้ออกไปกรีดยาง ซึ่งคนร้ายน่าจะรอจังหวะที่แม่ไม่อยู่บ้านและเข้าไปก่อเหตุ ที่ผ่านมาตนค่อนข้างวางใจว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นปล่อยให้แม่กับน้องๆซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ด้วยกัน โดยหลังเกิดเหตุก็ให้แม่ย้ายมาอยู่กับตนก่อนเพื่อความปลอดภัย
ด้านนายจอม(นามสมมุติ) เพื่อนบ้าน กล่าวว่า คืนเกิดเหตุตนออกจากบ้านไปตัดยางช่วงเที่ยงคืน โดยเวลาประมาณ 03.00 น. ได้ยินเสียงหมาเห่าดังมาจากบ้านที่เกิดเหตุค่อนข้างดัง แต่ขณะนั้นไม่ได้เอะใจ จนเวลา 05.00 น. ตนขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านผ่านบ้านที่เกิดเหตุหันไปมองก็ยังปิดบ้านตามปกติ ไม่มีเสียงเอะอะโวยวายจึงเข้าไปนอนที่บ้านตัวเองตามปกติ
กระทั่งเวลา 09.00 น. จึงทราบว่าน.ส.ชลธิชาเสียชีวิต ที่ผ่านมาในพื้นที่ไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวมาก่อน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจและรุนแรงมาก
เบื้องต้น ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการลงพื้นที่หาตัวคนร้าย และได้นำตัวผู้ต้องสงสัย 20 คนในรัศมีรอบบ้านที่เกิดเหตุ 1 กิโลเมตรไปตรวจดีเอ็นเอเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของคนร้าย
