จากกรณี สามีใหม่ทราบชื่อคือ "นายเทียม" อายุ 39 ปี เป็นชาวลาว ขอคืนดีกับภรรยาแต่ภรรยาไม่ยอมเลยใช้มีดทำครัวจี้เอาลูกสาว วัย 13 ปี เป็นตัวประกัน จากนั้นนายเทียมขี่รถจักรยานยนต์พาลูกหนี แต่ดันประสบเหตุรถชน บริเวณสามเเยก ถนนสายวังตาผิน-บ้านสะพานสี่ อำเภอปลวกเเดง จังหวัดระยอง ทำให้ลูกสาวตายคอหักตายคาที่
ส่วนตัวพ่อเลี้ยงเจ็บสาหัส ตามลำตัวเขียวช้ำจากแรงกระแทก และพบมีมีดทำครัวตกอยู่บนถนน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด วันที่ 12 เม.ย.63 นางจิราพร เชียงเงิน ชาวบ้านในพื้น บอกว่า พื้นที่ดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เเต่ที่ผ่านมาหนักที่สุดเเค่บาดเจ็บ ไม่เคยเสียชีวิต ครั้งนี้ถือเป็นครั้งเเรก โดยเมื่อคืน ช่วงเวลาประมาณ 00.30 น. ตนเองลุกจากที่นอนเพื่อไปเข้าห้องน้ำ จู่ ๆ ได้ยินเสียงรถชนกันดัง "โครม" จึงได้วิ่งออกมาดู พบรถมอเตอร์ไซด์ 2 คัน ล้มอยู่กลางถนน เเต่ยังไม่เห็นคน เนื่องจากช่วงกลางคืนจะมืดมาก จึงไม่ทราบว่าผู้บาดเจ็บมีกี่คน ส่วนผู้เสียชีวิตกู้ภัยได้นำผ้าขาวคลุมร่างไว้ จากนั้นไม่นานเเม่เด็กก็ตามมากอดศพร้องไห้เสียงดัง ตนได้ยินรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดไพรสณฑ์ ต.ปลวกเเดง อ.ปลวกเเดง จ.ระยอง เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพของ ด.ญ.วรนิษฐา เมฆปั้น หรือน้องหงษ์หยก อายุ 13 ปี ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ด้าน นางอำไพ เมฆปั้น แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเองคบหากับนายเทียม ผู้ก่อเหตุ มาประมาณ 9 ปี แต่ด้วยนิสัยที่ติดการพนันของนายเทียม ทำให้ตนเองทนไม่ได้จนต้องขอเลิกรากันไปประมาณ 3-4 เดือนเเล้ว แต่ที่ผ่านมานายเทียมก็มักจะตามมาราวี และพยายามขอคืนดี แต่ตนเองไม่ยอมคืนดีด้วย นายเทียมจึงมีการข่มขู่หลายครั้งว่าจะฆ่าให้ตาย และจะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน
โดยเมื่อวานตอนเย็น ตนเองได้พบกับนายเทียมโดยบังเอิญที่ตลาด นายเทียมก็มีการข่มขู่ครั้งหนึ่งว่าจะฆ่า แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะปกตินายเทียมก็มักจะขู่ลักษณะนี้อยู่แล้ว จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน นายเทียมมาเคาะประตูบ้าน บอกว่าจะมาเอาของ แต่ตนเองไม่กล้าเปิด เนื่องจากกลัวว่าจะถูกทำร้าย เพราะนายเทียมมีการถือขวดน้ำมันขนาด 1 ลิตรมาด้วย
ซึ่งตอนนั้นคนที่อยู่ในบ้านทั้งหมด มี 5 คน ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต ตาและยายของผู้เสียชีวิต ป้าผู้เสียชีวิต รวมถึงตนเอง ซึ่งตาทนเห็นพฤติกรรมของนายเทียมไม่ได้จึงเปิดประตู แต่ในจังหวะที่เปิดประตู นายเทียมได้ใช้น้ำมันที่ถือมาด้วย สาดใส่หน้าตากับยาย เเล้วใช้ขวดน้ำมัน ซึ่งเป็นขวดเเก้ว ฟาดเข้าที่ศีรษะของตาอย่างเเรง ซึ่งในจังหวะนั้นคราบน้ำมันที่พื้น ทำให้ตาลื่นล้มหัวฟาดพื้นจนสลบไป
จากนั้นนายเทียมพยายามจะปรี่เข้ามาทำร้ายตนเอง เเต่พี่สาว (ป้าผู้เสียชีวิต) มาขวางไว้จึงถูกนายเทียมผลักล้ม จากนั้นนายเทียมวิ่งเข้าไปลากถังเเก๊สในครัวเพื่อจะเผาบ้าน ส่วนตัวเองก็วิ่งหนีเตลิดไปในป่า จากนั้นแม่ (ยายผู้เสียชีวิต) พยายามจะเเย่งถังเเก๊สจากนายเทียม จึงถูกมีดทำครัวแทงโดนที่ต้นเเขนขวาเย็บ 36 เข็ม เเต่คุณยายยังสู้ต่อจนล้ม ทำให้กระดูกเท้าซ้ายเเตกตอนนี้จึงต้องนั่งรถเข็น
เเต่นายเทียมไม่หยุดเพียงเท่านั้น พยายามจะตามหาตนเพื่อจะทำร้ายแต่หาไม่พบ นายเทียมจึงหันไปหาลูกสาว วัย 13 ปี แล้วจี้เป็นตัวประกัน บังคับให้ลูกสาวนั่งด้านหน้ารถมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไป ซึ่งจังหวะนั้นลูกสาวได้ร้องอ้อนวอนว่า "พ่ออย่าทำหนู" เป็นเสียงสุดท้ายที่ได้ยินจากลูก กระทั่งตามไปพบลูกเป็นศพอยู่กลางถนน ตนเองรู้สึกโกรธนายเทียมมาก อยากให้ได้รับโทษตามกฎหมายให้หนักที่สุด เเละจะไม่ขอให้อภัย
ขณะที่ นางอำนวย เมฆปั้น อายุ 64 ปี ยายผู้เสียชีวิต ที่วันนี้นั่งรถเข็นมาร่วมงานศพหลาน หลังจากถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ บอกว่า ที่ผ่านมาไม่ค่อยชอบนายเทียมอยู่เเล้ว เพราะนิสัยเกเร ติดเหล้า ติดการพนัน จนลูกสาวต้องเลิก เเต่นายเทียมก็ยังตามมาราวีอยู่ตลอด
คืนเกิดเหตุตนทนไม่ได้ที่เห็นนายเทียมทำร้ายคนในบ้าน จึงเอาตัวไปขวางก่อนจะถูกนายเทียมแทง เเต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าถูกเเทงตอนไหน เพราะตอนนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นเลือดนองเต็มพื้น ตอนนี้รู้สึกปวดเเผลมาก
ทางด้าน พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.สภ.ปลวกเเดง จ.ระยอง เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดี ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถเเจ้งข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากตัวนายเทียมยังบาดเจ็บสาหัส ผลจากอุบัติเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทางสมอง เเละถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลระยอง เบื้องต้นตำรวจได้ทำการอายัดตัวไว้เเล้ว
ซึ่งถ้าหากนายเทียมรักษาตัวจนหายดี ทางตำรวจจะทำการเเจ้งข้อกล่าวหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย
2.พรากผู้เยาว์ 3.ทำร้ายร่างกาย 4.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนจะมีข้อหาอื่นๆเพิ่มด้วยหรือไม่ ต้องรอพยานหลักฐาน เเละรอสอบปากคำพยานให้ครบเสียก่อน
