"ธนบดี" ประกาศมอบตัวแล้ว! ลั่นไม่เคยแหกตาหลอกใคร ชี้เหยื่อสาวแอบปลื้มเลยใส่ร้าย (คลิป)

สืบเนื่องจากกรณี ที่นายธนบดี จิตตา นักธุรกิจซื้อขายรถยนต์ ได้ทำการหลอกลวงประชาชนจำนวนมาก อาทิ การหลอกขายรถยนต์ ดั่งที่ทางทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น วันนี้ทางบรรดาผู้เสียหายจำนวน 5 คนได้นำหมายจับนาย ธนบดี พร้อมนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาเร่งรัดให้ทางกองบังคับการปราบปรามจับกุมตัว นายธนบดี มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ย.)  นายกันตพิชญ์ งามเอก ผู้ต้องหาอุ้มนายธนบดี เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านรายการต่างคน ต่างคิด ออกอากาศเวลา 18.45 น.ว่า ตนอยากที่จะอธิบายเรื่องราววันที่เกิดเหตุให้ฟังว่า วันที่เห็นว่าตนอุ้มนายธนบดีนั้นไม่จริง เพราะวันดังกล่าว ตนจะพาธนบดีไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ดันพลาดที่ปล่อยให้นายธนบดีเอากล้องวงจรปิดมาสร้างเรื่อง ส่วน คุณธิดารัตน์ ปราชญ์กุล แม่ของคุณกันตพิชญ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนอึดอัดกับหลายสิ่ง เนื่องจากตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนพานายธนบดีมาออกรายการ เพราะภาพที่นายธนบดีนำมาออกคือลูกตน แล้วลูกตนไม่ได้เป็นผู้ที่อุ้มตัวนายธนบดีไป แต่เป็นเพราะนายธนบดีคิดจะหนี ตอนนั้ลูกตนก็กำลังจะนำตัวนายธนบดีไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงอยากออกมาเรียกร้องให้มาหาทางออกที่ดีกว่านี้ในการร่วมกันจับนายธนบดี ขณะที่ คุณสุทิน  บัวสาย ผู้เสียหายที่ถูกนายธนบดีหลอกขายรถนิสสัน เสียหาย 2 แสนบาท เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดตอนช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 ตนอยากได้รถยนต์สักคัน จากนั้นหลานสาวตนได้รู้จักนายธนบดี เพราะนายธนบดีอ้างว่าทำเต็นท์รถอยู่ และมีรถหลุดจำนำหลายคัน พอวันที่นัดรับรถก็จ่ายเงินสดค่ารถให้อีก เมื่อตรวจสอบรถแล้วเห็นว่าอยู่ในสภาพที่ดี แต่เมื่อถามหาเล่มรถกลับไม่มี ซึ่งนายธนบดีอ้างว่า เล่มรถคันดังกล่าวเก็บไว้ที่เต็นท์ ให้ขับรถตามไปเอาที่เต็นท์เลย จากนั้นตนจึงขับตามไป นายธนบดีกลับขับรถหนีไปอีกทาง ตนจึงให้หลานสาวโทรหา แต่นายธนบดีอ้างว่า จะรีบไปส่งเงินให้ลูกพี่ก่อน หลังจากนั้นตนก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งตอนที่ตนรู้จักธนบดีก็อ้างว่ารู้จักชัช เตาปูนอีกด้วย ต่อมา ช่วงประมาณเดือนกันยายน 2559 ตนเข้าไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี และเมื่อตรวจสอบจากผู้ค้ำประกันรถ จึงทราบว่า เจ้าของรถคันนี้ได้นำรถไปจำนำไว้ที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตนไม่กล้าที่รับรถไปใช้ต่อ และจอดทิ้งไว้ที่ สน.มีนบุรี จนกระทั่งตำรวจออกหมายเรียกนายธนบดี วันหนึ่งนายธนบดีได้โทรมาขู่ตนว่า “ไอ้แก่ มึงอยากติดคุกใช่ไหม มึงแจ้งความกูนะ ” แต่หากตนเจอนายธนบดีอีกก็คงจะทำเช่นเดียวกันนายกันตพิชญ์ ซึ่งตอนแรกตนก็สงสัยว่าทำไมนายธนบดีถูกอุ้ม เพราะนายธนบดีไม่มีอะไรที่น่าจะให้อุ้มเอาทรัพย์ ส่วน อีกหนึ่งผู้เสียหาย คือ คุณอรชพร เทพวงศ์ หรือขวัญ บอกว่า ที่ธนบดีบอกว่าเป็นคนโอนเงินให้ตน แล้วไม่อยากประจานตนเพราะเกรงว่าจะเสียหาย ตนก็อยากชี้แจงว่า อายุตนก็แทบจะเป็นแม่ของธนบดีได้แล้ว ประเด็นคือธนบดีเป็นมิจฉาชีพแล้วมาขโมยทรัพย์สินจากตน ในสถานะที่ตนเป็นผู้เสียหาย ตนรู้สึกว่าตนยอมธนบดีไม่ได้เพราะเขาหลอกคนหลายคน พร้อมกับสร้างเรื่องราวให้ใหญ่โต ซึ่งถ้าตนไม่ออกมาพูดก็คงจะไม่มีใครกล้าออกมาเปิดเผย แล้วตนก็ไม่อยากให้ใครโดนหลอกแบบพวกตนอีก โดยคุณอรชพร ยังบอกอีกว่า ตนมีสิทธิ์จะคิดว่าน่าจะมีเป็นขบวนการ แล้วคิดว่าธนบดีน่าจะอยู่ภายในประเทศไทย ทางด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามเพื่อให้ช่วยเหลือในเรื่องของการจับกุมตัวของนายธนบดี เนื่องจากหมายจับมีหลายใบ" โดยก็จะมีคดียักยอกทรัพย์ ลักทรัพย์ และฉ้อโกง ซึ่งส่วนตัวคิดว่า เพราะเหตุใดถึงจับตัว นายธนบดี ได้ยากเย็นเสียเหลือเกิน '' ส่วนหากถามว่าทำไมธนบดีอายุเพียงเท่านี้แต่กลับหลอกคนได้รายคนนั้น ตนคิดว่า ธนบดีคงต้องเลียนแบบพฤติกรรมของคนใกล้ชิดมา ซึ่งหากตามต่อก็อาจจะเจอเส้นทางการเงินที่มีคนร่วมอยู่ด้วย นอกจากนี้ นาย รณณรงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนข้อมูลการสืบสวนขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าใดๆ ให้ทราบ ขณะนี้มีผู้เสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 50 คน แต่ที่มาวันนี้มีเพียง 6 คนเท่านั้น พร้อมยืนยัน คดีดังกล่าวมีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท

ขณะที่ นายธนบดี จิตตา หรือมีน อายุ 21 ปี เปิดเผยกับทีมข่าว หลังมีผู้เสียหายหลายรายออกมาเผยเปิดว่าไปหลอกลวงต้มตุ๋น ว่าพรุ่งนี้ประมาณเที่ยงหรือบ่ายโมง เพราะตนต้องแต่งตั้งทนายให้เสร็จก่อน จะเดินทางเข้าไปพบเจ้าหน้าที่กองปราบ ส่วนเรื่องค่าโจ๊ก 750,000 บาท ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงอย่างใด เพราะตนมีหลักฐาน ได้โอนเงินให้เขา 50,000 บาท พี่ของคนชื่อขวัญเป็นคนเอาค่าป้ายทะเบียนไป แล้วยังไม่มีการให้ป้ายทะเบียนมาให้กับตนเลย ซึ่งตนไม่ใช่คนโกงแน่นอน เพราะหลักฐานตนก็มี แล้วตนก็จะมอบให้ทนายความก่อน เพราะรู้ว่ารอบนี้คงไม่น่าจะประกันตัวได้ คงต้องไปสู้กันในชั้นศาล โดยพรุ่งนี้ ( 8ก.ย.) จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมอบตัว พร้อมยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง

ส่วนกรณี ขู่ทำร้ายลุง นั้น ตนเป็นแฟนหลานสาวลุง ส่วนตัวไม่รู้จักกับลุงส่วนตัว เคยคุยกันกับหลาน เขาติดต่อมาว่ามีรถหลุดจำนำไหม ก็ตอบไปว่าไม่ได้ขายแล้ว แต่ตนสามารถติดต่อได้ จากนั้นเขาบอกจะไปซื้อรถที่สุราษฎร์ธานี ราคา 200,000 กว่า ตนจึงบอกว่าทำไมซื้อไกลจัง ตนจึงบอกไปว่าตนมีรถรุ่นที่ลุงต้องการ เพื่อนตนขายแค่ 190,000 เอง เขาก็ยินยอมซื้อ ตนก็ขายในราคา 220,000 บาท แต่เขาก็ต่อก็ลดให้ เหลือ 200,000 บาท แต่คุณลุงไม่พอใจป้ายทะเบียนเป็นป้ายสุรินทร์ตนบอกไปว่ารถไม่ได้แจ้งหาย เขาก็เงียบหายไป โดยตนไม่ทราบว่าเขาไปแจ้งความ สน.มีนบุรี จนกระทั่งตนได้เข้าไปมอบตัวกับ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซึ่งท่านบอกว่าถ้าตนผิดจะไม่ช่วย ตนจึงมอบตัวที่สน.มีนบุรี ก่อนประกัน และได้อธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังแล้วว่าตนเป็นแค่นายหน้าขายรถจริงๆ ส่วนเรื่องข้อความไลน์ว่าไปข่มขู่เขานั้น ที่เขาเอามาให้ดู ไม่เป็นความจริง ไม่ใช่ข้อความจากตนแน่นอน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นไลน์ของใคร ตนพร้อมสาบาน เพราะตนจะใช้เพียง 2 เบอร์ไม่เคยเปลี่ยนเท่านั้น

โดยนายธนบดีก็ได้มีการโพสต์รูปภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า The truth can not say เเปลว่าความจริงที่พูดไม่ได้ แล้วก็มีภาพพาคุณแม่ไปกินหมูกระทะอีกด้วย ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม meen_thanabodee89