จากกรณีนายสุขสรรค์ รังสูงเนิน อายุ 45 ปี ชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อเหตุใช้มีดแทงน้องฟ้า วัย 14 ปี ซึ่งเป็นแฟนใหม่เสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ในจ.นครราชสีมา ช่วงกลางดึกของวันที่ 29 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ก่อนช่วงเช้าจะไปดักรอฆ่า น.ส.วิภาภัค อายุ 30 ปี ภรรยาเก่า ชาว อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกล่าตัวตลอดทั้งวัน จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ล่าสุดวันที่ 30 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.นครราชสีมา สถานที่จัดงานศพของน้องฟ้า โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ หลังจากที่บรรดาญาติพี่น้องทราบข่าวน้องฟ้า ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน ก่อนจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 2 เม.ย.63
นางสุนทรีย์ อึ้งวนิชบรรณ อายุ 55 ปี ยายของน้องฟ้า กล่าวว่า ก่อนวันเกิดเหตุหลานสาวได้บอกตนว่า จะไม่อยู่แล้ว ซึ่งตนก็ถามกลับว่าจะไปไหน อย่าไปไหนไกล ตนคิดถึง หลานก็ตอบว่าไม่ได้ไปไหนไกล แต่จะไปอยู่กับแฟนที่จังหวัดอื่น ส่วนนายสุขสรรค์ ตนรู้จักในฐานะเป็นน้าของเพื่อนหลานสาว ซึ่งพักหลังผิดสังเกตและชอบเข้ามาตีสนิทเหมือนกับชอบหลานสาวของตน แต่หลานสาวบอกว่าไม่ชอบ ตนจึงหาทางแยกหลานสาวออกห่างจากนายสุขสรรค์
ในขณะที่แฟนหนุ่มของหลานสาว ได้เข้ามาเอ่ยปากขอหลานสาวกับตน เพราะอีก 2 เดือนข้างหน้าจะขอลาบวช หลังจากบวชเสร็จจึงจะมาสู่ขอหลานสาว ซึ่งตนได้บอกไปว่าดูแลหลานตนให้ดีก็พอใจแล้ว ไม่ต้องการสินสอดอะไร กระทั่งวันเกิดเหตุมีคนมาแจ้งว่าหลานสาวถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส หายใจรวยรินอยู่ที่บ้านเพื่อน ตนจึงรีบไปแต่ก็พบว่าหลานสาวขาดใจตายแล้ว
นางสุนทรีย์ กล่าวอีกว่า เมื่อตนไปเห็นสภาพศพก็ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่คิดว่าหลานสาวจะมาถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม นอกจากนั้นชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ยังได้ยินนายสุขสรรค์ ประกาศว่าจะไม่ให้ตำรวจจับได้ง่าย ๆ และจะตามฆ่ายายและหลานอีกคน ตนไม่ขออะไรขอแค่ให้ฆาตกรรับกรรมที่ก่อไว้ และภาวนาให้หลานสาวไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น อย่าได้ห่วงทางนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องแพรวา (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เพื่อนของน้องฟ้า ผู้เสียชีวิต ซึ่งนอนอยู่ด้วยกันในคืนเกิดเหตุ โดยน้องแพรวา เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกของวันที่ 29 มี.ค.63 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนและฟ้าพร้อมเพื่อนอีก 3 คน รวม 5 คน ได้พากันมานอนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ภายในห้องนอนของเพื่อนอีกคน ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนกัน ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุแฟนหนุ่มของตนแวะมาหาที่บ้านหลังดังกล่าว และเมื่อกลับออกไปประมาณ 01.00 น. ได้พบเจอกับนายสุขสรรค์ ยืนซุ่มดูอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงสอบถามว่ามาหาใคร นายสุขสรรค์ ตอบว่ามาน้องฟ้า ทำให้แฟนของตนเข้าใจว่าเป็นญาติกัน ไม่ได้เอะใจอะไร จากนั้นแฟนของตนก็กลับบ้านไป
จังหวะที่น้องแพรวา เดินเข้าห้องน้ำนั้น มองผ่านหน้าต่างออกไปหน้าบ้าน เห็นผู้ชายยืนอยู่หน้าบ้าน ตนจึงถามเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านว่าใคร แต่เพื่อนไม่รู้จัก จึงได้ไปบอกแม่และยาย ทั้งนี้ยายของเพื่อนจึงเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านดูแต่ไม่พบใครแล้ว และกำลังจะปิดประตู แต่นายสุขสรรค์ ดึงประตูเอาไว้และบุกเข้าไปในห้องนอนทันที พร้อมกับลากน้องฟ้า ออกมาจากห้อง และใช้มีดข่มขู่ว่าหากใครขัดขวางจะแทงไม่ยั้ง
นอกจากนี้กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ โดยลากเพื่อนของตนออกไปนอกบ้าน และบังคับให้เพื่อนของตนขึ้นรถจักรยานยนต์ไปด้วย แต่น้องฟ้า วิ่งเข้าไปหลบที่บ้านอีกหลังที่อยู่ข้างเคียงกัน แต่คนร้ายกลับวิ่งตามมาติด ๆ ทำให้เพื่อนของตนล้มลงบริเวณหน้าบ้าน คนร้ายจึงได้คร่อมตัว ลงมือจ้วงแทงเพื่อนตนจนเสียชีวิต และขณะลงมือแทงคนร้ายยังพูดว่า “กูบอกแล้วใช่ไหม” ตนก็ไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร ซึ่งจากการที่ตนทราบข้อมูลจากแพทย์พบว่าถูกแทงหน้าอกไปทั้งหมด 24 แผล
น้องแพรวา ยังเผยอีกว่า คาดว่าสาเหตุของการฆ่าครั้งนี้ มาจากคนร้ายชอบเพื่อนตน แต่เพื่อนตนไม่เล่นด้วย เพราะมีแฟนแล้ว เพื่อนตนอยากเลิกยุ่ง ตนทราบจากเพื่อนด้วยว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนมาดูเพื่อนตนหลายวันแล้ว และเพื่อนยังเล่าให้ฟังอีกว่าคนร้ายชอบเพื่อนมาได้พักหนึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 ที่ผ่านมา คนร้ายได้ใช้มีดข่มขู่และลงมือข่มขืนเพื่อนไป 1 ครั้ง ทำให้เพื่อนกลัวมาก
จากนั้นทีมข่าวได้เกินทางมาที่ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา บ้านของ น.ส.วิภาภัค อายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คน ภรรยาเก่าของผู้ก่อเหตุ โดยระยะทางจากบ้านหลังแรกที่ฆ่าน้องฟ้า ห่างจากบ้านหลังนี้ประมาณ 115 กม. โดยบ้านของน.ส.วิภาภัค อยู่ในบริเวณที่ดินของทุ่งนา และยังคงพบรอยเลือด และธูป เทียน ปักอยู่ด้วย
นายสวัสดิ์ น้อมแก้ว อายุ 63 ปี ผู้เหตุเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงใกล้รุ่งคนร้ายคลุมไอ้โม่งและมาดักซุ่มรออยู่ละแวกบ้าน น.ส.วิภาภัค เมื่อน.ส.วิภาภัค ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน คนร้ายจึงได้เข้าประกบ ขณะนั้นลูกสาวตนยืนอยู่บริเวณถนนหน้าบ้าน ก็เห็นคนร้ายถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.วิภาภัค ล้มลงและตกลงไปในทุ่งนา ลูกสาวจึงวิ่งไปบอกตน จากนั้นตนรีบวิ่งมาดูเห็นคนร้ายขึ้นคร่อม น.ส.วิภาภัค ถือมีดสั้นกระหน่ำแทง น.ส.วิภาภัค อย่างเลือดเย็น ซึ่งฝ่ายหญิงร้องขอชีวิตโดยพูดว่า “ยอมแล้ว ๆ” แต่คนร้ายไม่ฟังจะพยายามปาดคอซ้ำ แต่มีดไม่คมมากพอ คนร้ายจึงแทงต่อไปเรื่อย ๆ ขณะที่แทงไปก็พูดคำว่า “มึงตาย ๆ” ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น
เมื่อคนร้ายเห็นตน ได้มองหน้าตนและแสดงทีท่าว่าจะทำร้ายตนด้วย ตนจึงจะวิ่งหนีเพื่อไปหาอาวุธ คนร้ายรีบออกจากจุดเกิดเหตุ ด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ของน.ส.วิภาภัค หลบหนีไป เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขี่มานั้นสตาร์ตไม่ติด จากการสังเกตพบว่าบาดแผลตามตัวมีประมาณกว่า 20 แผล ตนคิดว่าคนร้ายก่อเหตุแบบนี้เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอย่างมาก
