คดีพลิก! ลุงขวางรถกู้ชีพ ที่แท้กู้ภัยบุกรุกที่ อีกฝ่ายห่วงคนจะตายไม่ขออนุญาต (คลิป)

จากกรณี เจ้าหน้าที่กู้ภัยวิ่งผ่านที่ดินกว้างเกือบ 200 เมตร ของลุงทอง (นามสมมติ) เพื่อมาช่วยเหลือคนจมน้ำ แต่ลุงทองเจ้าของที่ดินไม่ยอมให้รถกู้ภัยเข้าพื้นที่ อ้างว่าไม่ได้ทำการขออนุญาตก่อน สุดท้ายคนที่จมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลหนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นั้น

ล่าสุด วันที่ 21 มี.ค.63 นายมนตรี อารีย์ อายุ 32 ปี บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ พี่สาวตน ผู้เสียชีวิต ได้ไปไปงมหอย พร้อมสามีและลูกชายวัย 10 ขวบ ในบ่อน้ำที่ดินของครอบครัว ขณะนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. ทราบว่าสามีของพี่สาวคล้ายจะเป็นตะคริวในน้ำ และจะจมน้ำ ซึ่งพี่สาวตนเห็นท่าไม่ดี จึงได้พยายามจะลงไปช่วยดึงสามีขึ้นมา

แต่พอดึงสามีกำลังจะขึ้นมาได้ ตัวของพี่สาวได้ลื่นไถลลงไปในบ่อน้ำแทนซึ่งว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้จมลงในบ่อ เพราะลักษณะของบ่อน้ำแอ่งกระทะ ส่วนลูกชายของพี่สาวที่อยู่ในที่เกิดเหตุเห็นเช่นนั้น จึงวิ่งไปบอกชาวบ้าน ส่วนพี่เขยก็รีบกลับลงไปช่วยแต่ไม่ทันเพราะพี่สาวจมไปแล้ว

จากนั้นชาวบ้านก็โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งพี่เขยระหว่างรอกู้ภัยก็งมหาร่างพี่สาวจนนำร่างพี่สาวขึ้นมาได้ ตอนนั้นกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึงมาถึงพอดี และได้ช่วยปั๊มหัวใจรอรถโรงพยาบาลบ้านบึงมาสมทบ จากนั้นประมาณ 5 นาที รถของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านบึงตามมาถึงจุดเกิดเหตุ แต่ที่จอดรถซึ่งเป็นป่าอ้อยของครอบครัวเต็มหมดแล้ว เหลืออีกจุดหนึ่งคือต้องเดินผ่านที่ดินเปล่าของชายวัยกลาง ซึ่งต้องเดินเข้าไปในไร่อ้อยจึงจะถึงจุดเกิดเหตุ

แต่ตนได้ยินวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ว่าลุงไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลผ่านพื้นที่ จึงเดินไปคุยเจ้าลุงเจ้าของที่ดิน ซึ่งลุงบอกว่า “คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาผม ว่าผมไม่ให้เข้า ผมมีสิทธิ์ฟ้องคุณได้นะ” หลังเกิดเรื่องรู้เสียใจ เพราะทุกวินาทีมีค่า หากเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยทันพี่สาวอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้ 

ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า ก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุต้องผ่านที่ดินของลุงทองก่อน เพราะที่ดินลุงจะอยู่ติดถนนคอนกรีต เป็นที่ดินเปล่าประมาณหนึ่งไร่เศษ มีการเคลียร์หน้าดินเรียบร้อย โดยถัดเข้าไปจากที่ดินของลุงทอง คือที่ดินปลูกอ้อยซึ่งเป็นที่ของครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งพื้นที่จากริมถนนคนกรีดไปจนสิ้นสุดที่ดินเปล่าของลุง ห่างประมาณ 50 เมตร และจากริมถนนคอนกรีดไปจนถึงจุดเกิดเหตุห่างกันประมาณ 200 เมตร

ด้าน ลุงทอง (นามสมมติ) เจ้าของที่ดิน เปิดเผยว่า ตนไม่ได้ห้ามรถโรงพยาบาลผ่านที่ดินตามที่ถูกกล่าวหา แต่ห้ามเพียงรถของกู้ภัยที่ตามมาทีหลัง เพราะคิดว่าน่าจะเกิดการกีดขวางรถพยาบาลหากตามเข้าไป เพราะในจุดเกิดเหตุกมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่กันเยอะแล้ว

ซึ่งเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดความเข้าใจผิด คงเพราะตนห้ามรถกู้ภัยที่จะตามรถพยาบาลเข้าไปเอาไว้ ซึ่งตนยืนทำงานอยู่ในนา แต่รถที่ตามมา ไม่มีการเปิดกระจกบอกกล่าวโดยถือวิสาสะเข้ามา ตนไม่ต้องการอะไรมากแค่ต้องการคำบอกกล่าวเท่านั้น ไม่ได้จะห้ามหรือกีดกันอะไร

อย่างไรก็ตาม อยากจะพูดถึงเรื่องมารยาทที่มาต่อว่าตนด้วยการใช้อารมณ์ แต่ไม่ใช้เหตุผลในการคุย และอยากจะบอกว่าคนเราควรมีการให้เกียรติ สำหรับตนไม้ได้ติดใจอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น 

ขณะที่ นายณรงกรณ์ ถาวรพจน์ และนายอดิศักดิ์ แก้วมะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิศีลธรรมสมาคมบ้านบึง บอกว่า ยอมรับว่าไม่ได้ขออนุญาตลุงก่อนเข้าพื้นที่ เพราะตอนนั้นค่อนข้างเร่งรีบ แต่รถพยาบาลได้เข้าไปในพื้นที่แล้ว ซึ่งตนเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดที่สองที่ตามมา เพราะก่อนหน้ามีเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเข้ามาถึงพื้นที่ก่อนแล้วจำนวน 3 คัน

จากการโต้เถียงกันไปมาลุงพยายามบอกว่าตัวของลุงเองไม่ได้ห้ามรถพยาบาลเข้าพื้นที่ เพราะได้ให้เข้าไปแล้ว ตนจึงเกิดอารมณ์โมโห และต่อว่าลุง หลังเกิดเรื่องรู้สึกไม่ดี เพราะทำงานตรงนี้ไม่ได้ต่าตอบแทนอะไร แต่ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ซึ่งไม่มีอะไรจะพูด