กรณีนางมยุลา สำมะลี อายุ 45 ปี พร้อมด้วย ด.ญ.รัตนพร สำมะลี อายุ 10 ขวบ สองแม่ลูกพลเมืองดี เก็บลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 มี.ค.63 ชุดที่ 15 หมายเลข 503446 จำนวน 1 ใบ มูลค่า 6 ล้านบาท ก่อนนำไปให้ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ สาขาตลาดแม่ยุพิน ถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี
กระทั่งประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 มี.ค.63 นายเจนละพรรดิ์ เวชกามา ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ จึงได้นำลอตเตอรี่มาแจ้งความที่ สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี และสองแม่ลูกได้เดินทางมาแสดงตัวให้ปากคำ เพื่อตามหาเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง ล่าสุด น.ส.ศศิธร แพทจันรา หรือ "เจ๊หมวย" อายุ 41 ปี พร้อมครอบครัวชาว ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี แจ้งว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าเป็นผู้ทำลอตเตอรี่หล่นจริง
ล่าสุดวันที่ 20 มี.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่หน้าร้านโลตัสเอ็กเพรส ตลาดแม่ยุพิน อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นจุดขายลอตเตอรี่ และห่างจากจุดลอตเตอรี่ตกหล่นหน้าร้านเซเว่นฯ ประมาณ 40 เมตร ซึ่งวันนี้แม่ค้าลอตเตอรี่ไม่มาขาย เนื่องจากจะเริ่มเร่ขายอีกทีในวันที่ 25 ของเดือนใกล้กับวันหวยออก ส่วนพนักงานร้านเซเว่นฯ ไม่สะดวกให้ข้อมูลเนื่องจากทางร้านไม่อนุญาต
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของนางมยุลา สำมะลี อายุ 45 ปี พลเมืองดี จ.อุดรธานี ประกอบอาชีพรับจ้างเย็บผ้า ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกสาว และพ่อวัย 80 ปี ส่วนสามีทำงานที่ประเทศไต้หวันกว่า 2 ปีแล้ว โดยจะส่งเงินให้เดือนละ 1 หมื่นบาท ขณะที่ลูกสาวคนโตไปเรียนหนังสือที่คณะวิศวะกรรมศาสตร์ จ.นครราชสีมา
นางมยุลา ยังได้เล่าย้อนกลับไปในวันที่เก็บลอตเตอรี่ เหตุการณ์เกิดประมาณ 17.00 น. วันที่ 15 มี.ค.63 ขณะที่ตนและลูกสาวเดินไปกดเงินหน้าร้านสะดวกซื้อในตลาดแม่ยุพิน อ.เมืองอุดรธานี ช่วงที่เดินกลับผ่านหน้าร้านสะดวกซื้อ ลูกสาวไปเหยียบลอตเตอรี่ที่หล่นอยู่หน้าร้าน และถามตนว่ามันคืออะไร เมื่อตนเก็บขึ้นมาดูและเปิดออกพบว่าเป็นลอตเตอรี่ ตนก็รู้สึกตกใจเพราะเคยดูข่าวเรื่องหวยอลเวง ตอนนั้นก็ถึงกับตัวสั่นเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากเกรงว่าลอตเตอรี่ในมือจะเป็นรางวัลที่ 1 และกลัวว่าจะมีปัญหาเหมือนในข่าว ตนจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่สาวที่เดินซื้อของอยู่ในห้างโลตัสฯ ข้าง ๆ ตนคิดเพียงว่ามันไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ของที่เราซื้อเอง
นางมยุลา กล่าวต่อว่า ตนมีหลักการใช้ชีวิตคือ "เราอย่าไปอยากได้สิ่งที่ไม่ใช่ของเรา เราอยู่แบบนี้ก็พอใจในสิ่งที่มีแล้ว" ซึ่งตนไม่เคยคิดเสียดายเงิน 6 ล้านบาท เพราะตนไม่มีหนี้สิน แต่ตนก็ยอมรับว่ามีภาระทางการเงินเดือนละ 2 หมื่นบาท เพราะต้องจุนเจือครอบครัวและส่งเงินให้ลูกสาวคนโตเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งตนมีรายได้จากการรับจ้างเย็บผ้าที่บ้าน โดยจะมีคนมาจ้างรายได้เฉลี่ยวันละ 300 บาท รายได้แต่ละเดือนก็ขึ้นอยู่กับความมากน้อยของงาน ตนก็จะใช้ชีวิตประจำวันไปแบบนี้
นางมยุลา ยังกล่าวอีกว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับเจ๊หมวยเลย ซึ่งตนก็ไม่ได้หวังเงินตอบแทน ขึ้นอยู่กับเจ้าของลอตเตอรี่ว่าจะมีสินน้ำใจให้ตนหรือไม่ เพราะตนก็ไม่เรียกร้องและหวังอะไรตั้งแต่ต้น ถ้าเขาไม่ให้มันก็จะสิทธิ์ของเขา และตนก็ไม่เสียดายเงิน เพราะมันเป็นเงินของเขา ถ้าตนซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกเอง ตนก็จะภูมิใจกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากไปถึงทุกคนว่าให้พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ซึ่งตอนนี้ตนยอมรับว่าเครียดที่ถูกวิจารณ์ เพราะบางคนก็ไม่เห็นด้วยที่ตนนำลอตเตอรี่ไปคืน และรู้สึกกังวลที่เกิดเรื่องแล้วต้องตอบคำถาม
ด.ญ.รัตนพร สำมะลี อายุ 10 ขวบ ลูกสาวของนางมยุลา เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่เดินไปเหยียบลอตเตอรี่ และหยิบขึ้นมาให้แม่ รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นพลเมืองดี ซึ่งตนก็รู้ว่าเงิน จำนวน 6 ล้านบาทเป็นเงินจำนวนมาก แต่ตนก็ไม่เสียดาย เพราะแม่สอนว่า "สิ่งใดที่ไม่ใช่ของตัวเอง ก็อย่าไปอยากได้" อีกทั้งครูที่โรงเรียนก็สอนแบบเดียวกัน ซึ่งตนก็จดจำมาตลอด ขณะที่ครูที่โรงเรียนได้โทรศัพท์มาชื่นชน เมื่อเปิดเทอมทางโรงเรียนก็จะมอบเกียรติบัตรให้ สร้างความภูมิใจให้ตนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ทีมข่าวได้พบกับ นางไทยรัตน์ พี่สาวของนางมยุลา เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเดินซื้อของอยู่ในโลตัสฯ น้องสาวเดินมาหาด้วยอาการสั่นไปทั้งตัว พร้อมกับบอกว่าเก็บลอตเตอรี่ได่ที่หน้าร้านเซเว่นฯ ซึ่งในใจก็คิดว่าจะนำลอตเตอรี่ใบนั้นไปแจ้งตำรวจ แต่กลัวว่าจะเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงตัดสินใจนำไปฝากไว้ที่พนักงานร้านเซเว่นฯ เนื่องจากไม่มีความคิดวจะเก็บลอตเตอรี่ไว้แม้แต่น้อย และไม่อยากให้น้องสาวเก็บไว้ด้วย เพราะตนกลัวว่าจะเป็นลอตเตอรี่ถูกรางวัล และนำความยุ่งยากมาให้ตนในภายหลัง
นางไทยรัตน์ กล่าวต่อว่า แม้ตนจะได้เงิน 6 ล้านบาทมา มันก็ไม่ภูมิใจ เพราะใจของเราก็รู้อยู่ว่าเงินมาจากไหน แม้จะโกหกคนอื่นได้แต่เราโกหกใจตัวเองไม่ได้ ถ้าได้มาก็คงไม่ภูมิใจ แต่หากซื้อเองแล้วถูกเองจะภูมิใจมากกว่า ซึ่งตนก็ไม่ได้หวังเงินตอบแทน แต่ก็จะอยู่ที่เจ้าของเงินว่าจะให้สินน้ำใจตอบแทนหรือไม่ เพราะตนมองว่าเจ๊หมวย เป็นคนดี ถ้าเขาไม่ให้เงินก็แล้วแต่เขา ถึงไม่ได้เงินตอบแทนก็ไม่เป็นอะไร เพราะครอบครัวก็ไม่เรียกร้อง และถือว่าพวกตนทำดีที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังเป็นข่าวก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์ และบอกว่าน้องสาวตนโง่ ที่ไม่ยอมเก็บลอตเตอรี่เอาไว้เอง ซึ่งทำให้น้องสาวตนเครียดมาก แต่ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ตนและน้องสาวก็คิดเพียงอย่างเดียว คือ ทำตามที่ใจต้องการ
สำหรับเส้นทางลอตเตอรี่ 6 ล้านบาท เริ่มต้นจากวันที่ 15 มี.ค.63 เจ๊หมวย ไปซื้อลอตเตอรี่จำนวน 3 ใบ จากแม่ค้าหน้าโลตัสฯ จากนั้นเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มและทำหวยหล่น กระทั่งสองแม่ลูกพลเมืองดีมาพบเข้าและนำไปฝากไว้กับพนักงานเซเว่นฯ เมื่อรู้ว่าหวยใบดังกล่าวเป็นรางวัลที่ 1 ทางผู้จัดการร้านเซเว่นฯ จึงนำไปแจ้งตำรวจที่ สภ.ย่อยนาขา จ.อุดรธานี ในวันที่ 16 มี.ค.63
ทั้งนี้เมื่อกลายเป็นข่าวและตามหาเจ้าของ ในวันที่ 17 มี.ค.63 เจ๊หมวย แสดงตัวว่าหวยเป็นของตนเอง ถัดมาวันที่ 18 มี.ค.63 เจ้าหน้าที่จึงเช็กกล้องวงจรปิดและตรวจสอบความเชื่อมโยงของเวลาเกิดเหตุ จนนำไปสู่การแถลงข่าวพบเจ้าของหวย 6 ล้านบาทตัวจริง ในวันที่ 19 มี.ค.63
ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม น.ส.ศศิธร แพทจันทา เจ้าของลอตเตอรี่ หรือเจ๊หมวย เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นเงิน เนื่องจากตำรวจยังนำลอตเตอรี่ไปตรวจสอบเพิ่มเติมและยังไม่ได้ส่งกลับคืนตน และถ้าได้ขึ้นเงินอย่างแรกจะเอาเงินไปใช้หนี้ที่ติดค้าง แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่
น.ส.ศศิธร กล่าวต่อว่า วันที่รู้ตัวว่าถูกหวย เนื่องจากเริ่มเป็นข่าวและสามีเดินมาถามหาลอตเตอรี่เลข 446 ที่เพิ่งซื้อมา 1 ใบ ซื้อแบ่งมาแค่ 1 ใบ ซึ่งตนจำได้ว่าใส่ในกระเป๋ากางเกง แต่กลับหาไม่เจอ จึงทำให้มีความสงสัยว่าเรื่องที่เป็นข่าวจะเป็นหวยของตน
น.ส.ศศิธร ยังบอกอีกว่า สำหรับสองแม่ลูกพลเมืองดี ตนยังไม่ได้พูดคุยมากนัก ได้พูดในวันที่เจอกันว่า "เดี๋ยวเสร็จอะไรยังไง หมวยจะโทรหาพี่อีกทีนะคะ แต่หมวยไม่ทิ้งพี่แน่นอน" ซึ่งตนก็ได้ให้สัญญาไว้เเล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะแสดงสินน้ำใจเป็นเงินเท่าไหร่ ย้ำว่าไม่ทิ้งแน่นอน "เพราะถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีเราในวันนี้" รู้สึกได้เลยว่าเขาไม่เห็นแก่ตัว น้อยคนมากที่จะเป็นแบบนี้ และน้อยคนมากที่จะโชคดีเหมือนตน รู้สึกเหนือดวงมาก ขนาดหวยหายยังได้คืน ส่วนเรื่องสินนำใจกับพนักงานร้านสะดวกซื้อนั้น ตนก็ไม่ขอตอบในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เพื่อนเตือนให้ระวังตัวมากขึ้น เพราะตนตกเป็นข่าวเรื่องเงิน เกรงว่าจะมีคนประสงค์ร้ายและตนได้รับอันตราย
