บุกพิสูจน์ถึงลาวค้นศพปริศนา โยงหาร่างผอ.อ้อย - ทหารส่งหมาดมกลิ่นหาจุดเผานั่งยาง (คลิป)

21 ส.ค. 60
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (20 ส.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้เดินทางพร้อมญาติ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ข้ามไปยังประเทศลาว ผ่านชายแดนช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบศพนิรนามที่มีกระแสข่าวว่า ชาวบ้านฝั่งลาวพบบริเวณชายแดนติดกับอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
เจ้าหน้าที่เข้าค้นหาศพนิรนาบริเวณห้วยนางอิง
ขณะที่ทางเครือญาติ เดินทางไปยังบ้านเปลว อำเภอเมืองมนต์ แขวงจำปากศักดิ์ ห่างจากช่องเม็กประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งข่าวระบุว่าพบศพ โดยใช้เวลาเดินทางกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจากทางเป็นดินลูกรัง เมื่อเดินทางไปถึงญาติได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน บ้านเปลว และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเขต เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่า มีชาวบ้านมาแจ้งว่าพบศพนิรนามที่บริเวณห้วยนางอิง ติดกับชายแดนไทย ฝั่งอำเภอนาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 20 กิโลเมตร จากการตรวจสอบในพื้นที่ไม่มีคนสูญหาย จากการสอบถามทราบว่า สภาพศพใส่กางเกงขาสั้น แถบเอวสีดำ สวมเสื้อผ้าร่มแขนยาวสีน้ำเงิน ไม่มีข้อมูลว่าผมยาวจริงตามกระแสข่าวหรือไม่ ทั้งนี้ ลักษณะศพคล้ายตกลงมาจากหน้าผาฝั่งประเทศไทย เนื่องจากมีเปลสีดำติดอยู่บนต้นไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า เบื้องต้นจะต้องประสานไปยังตำรวจเมืองก่อน จึงจะสามารถอนุญาตให้เข้าตรวจสอบ เพราะเป็นพื้นที่ชายแดนแต่ยืนยันให้ความร่วมมือเต็มที่
สุนัขทหารดมเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย
ส่วนทางญาติเตรียมเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งลาวอีกครั้ง เพื่อเข้าตรวจสอบ เบื้องต้น ค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นศพของ ผอ.อ้อย เพราะ จากการตรวจสอบในพื้นที่ ไม่มีบุคคลสูญหาย หรือเสียชีวิตรายอื่นแต่อย่างใด ขณะที่ในวันนี้ ชาวบ้านอีกชุด ได้เดินทางพร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าค้นหาที่บริเวณช่องตาเฒ่า ติดกับชายแดนประเทศกัมพูชา เนื่องจากมีข้อมูลว่าพบร่องรอยการเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ก็ได้นำสุนัขทหาร จากกองกำลังสุรนารีเข้าดมกลิ่น โดยให้ดมเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย ก่อนดมกลิ่นจุดต้องสงสัยบนช่องตาเฒ่า ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบเบาะแส หรือจุดที่ระบุว่ามีร่องรอยการเผานั่งยางแต่อย่างใด ส่วนทาง พ.ต.อ.ประเสริฐ ศักดิ์ศรีไชย ผกก.กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ หนึ่งในคณะพนักงานสอบสอนของคดีนี้ เปิดเผยว่า พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างเร่งด่วน โดยได้นำชุดคลี่คลายคดีเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานต่างๆ ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยเมื่อวันที่16 ส.ค. 60 ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับนางสุชาวดี ปทุมอินทร์ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่รับเอารถเก๋งของ น.ส.จุฑาภรณ์ หมายเลขทะเบียน กษ8201 เชียงใหม่จาก ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหาคดีไปขายต่อโดยได้ตั้งข้อหาว่า รับของโจรและข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ใช้เอกสารปลอมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า จากการที่ได้แจ้งข้อหากับนางสุชาวดี ปทุมอินทร์ เป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีนี้ส่งผลให้ร.อ.ศุภชัย ซึ่งก่อนหน้านี้ การดำเนินคดี ร.อ.ศุภชัย จะต้องไปขึ้นศาลทหาร แต่เมื่อมีพลเรือนเข้ามามีส่วนร่วมในคดีนี้ จะส่งผลให้ ร.อ.ศุภชัย ต้องมาขึ้นศาลยุติธรรมที่เป็นศาลพลเรือน โดยขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ครบถ้วน และขณะนี้กำลังร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อตามหาตัวน.ส.จุฑาภรณ์ให้พบเพื่อเป็นพยานสำคัญในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ