หวั่นโควิด-19 แพร่เชื้อผ่านเครื่องปรับอากาศ

ผู้เชี่ยวชาญพบร่องรอยของไวรัสโควิด-19 ในท่ออากาศของโรงพยาบาล ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า ไวรัสชนิดนี้อาจแพร่ระบาดผ่านเครื่องปรับอากาศได้ ซึ่งถือว่าอันตรายกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้แต่แรก ศูนย์โรคติดต่อแห่งชาติของสิงค์โปร์ เผยว่า การวิเคราะห์การปนเปื้อนภายในห้องที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใช้รักษาตัว ชี้ว่า เชื้อไวรัสที่ทำให้ป่วยระบบทางเดินหายใจอาจแพร่กระจายได้ง่ายกว่าที่คาดกาารณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ท่ออากาศท่อหนึ่ง ที่เชื่อต่อกับห้องของคนไข้คนหนึ่ง ซึ่งมีอาการป่วยไม่รุนแรง มีร่องรอยของไวรัส ซึ่งชี้ว่า ละอองที่มีไวรัสขนาดเล็ก อาจแพร่กระจายผ่านอากาศ และไปกระจุกตัวอยู่ตามอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ช่องลม ผลการศึกษา ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ของสมาคมแพทย์อเมริกัน มีขึ้นหลังมีรายงานว่า ชาวอังกฤษจำนวน 142 คน ติดอยู่อยู่บนเรือสำราญที่จอดกักกันโรคอยู่นอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังตั้งข้อสังเกตต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญลำต่าง ๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีเรือสำราญหลายลำพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งนี้ ถือเป็นแนวปฏิบัติมาตรฐานสำหรับอาคาร และเรือสำราญ ที่จะใช้อากาศหมุนเวียนภายในผ่านระบบปรับอากาศ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอินเดียอานา ให้ข้อมูลว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ระบบปรับอากาศเหล่านี้ ไม่สามารถกรองเอาอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 5,000 นาโนมิเตอร์ได้ และขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่ทราบขนาดที่แน่ชัดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากไวรัสชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก ระบบปรับอากาศจะพาไวรัสกระจายไปยังทุกห้องพักบนเรือ แต่เรือสำราญอาจลดปัญหานี้ได้ด้วยการหมุนเวียนอากาศจากภายนอกเข้าไปภายในเรือ ไม่ใช่การใช้อากาศหมุนเวียนภายในเรือเพียงอย่างเดียว ส่วนสายการบินต่าง ๆ ได้สร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสารแล้วว่า ระบบปรับอากาศบนเครื่องบินสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายภายในห้องโดยสาร และความเสี่ยงบนเครื่องบินก็ต่ำกว่า เนื่องจากมีการใช้ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถกรองจุลินทรีย์ในอากาศได้มากกว่า 99%