4 วันรุ่นเมาแล้วเปรี้ยว เดินมาหาเรื่องโรงงานฝั่งตรงข้าม เจอเจ้าของโรงงาน ควักปืนยิงใส่ 4 นัด เลือดอาบ ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุทางเจ้าของโรงงานในโกดังแห่งหนึ่ง ท้ายซอยกิ่งแก้ว 25/1 ใน ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ใช้ปืนออโตเมติกขนาด 9 มม.รัวยิงใส่กลุ่มคู่กรณีที่ยกพวกมากันทั้งหมด 4 คน เพื่อบุกมารุมทำร้ายร่างกายกลุ่มของฝ่ายทางเจ้าของโรงงาน และพนักงาน รวมทั้งหมด 3 คน ที่กำลังนั่งดื่มเหล้า และเล่นหมากฮอสกันอยู่ที่หน้าโรงงานโกดังของตนเอง
จนทำให้ฝ่ายของกลุ่มคนที่บุกมานั้น ถูกเจ้าของโรงงานก็คือนายเอก ใช้ปืนที่นำติดมาในรถยิงสวนอีกฝ่ายเข้าที่ขาจนบาดเจ็บทั้ง 4 ราย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 30 เม.ย. 67 ที่เกิดเหตุหน้าโกดังโรงงาน พบว่าพนักงานยังคงทำงานกันตามปกติ แต่ไม่พบตัวนายเอกเจ้าของโรงงานแต่อย่างใดส่วนที่เกิดเหตุ ทั้งคราบเลือดและเศษแก้วเศษขวดเบียร์ที่แตกกระจายเกลื่อนพื้นทางพนักงานช่วยกันเก็บกวาด และล้างพื้นจนสะอาดแล้ว
ทั้งนี้นายเผือก (นามสมมติ) พนักงานที่ทำงานของบริษัทนายเอก กล่าวว่า นายเอกปกติแล้วจะเป็นคนที่เงียบขรึม รักลูกน้องรักพนักงานทุกคน และไม่เคยมีอาการ หรืออารมณ์หัวร้อนกับใครแต่อย่างใด ตกเย็นพอเลิกงานก็จะชวนลูกน้องออกกำลังกาย เล่นตะกร้อบ้าง เล่นแบดบ้าง จากนั้นก็จะดื่มกินกับลูกน้องพอสมควรก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนฝ่ายกลุ่มคู่กรณี ตนเองยืนยันไม่เคยมีเรื่องหรือรู้จักกันมาก่อน พอทราบข่าวก็ตกใจเช่นกัน
เมื่อถามว่า ทราบไหมว่านายเอกมีปืน นายเผือก บอกว่า ทราบดีแต่ก็ไม่เคยเห็นนายเอกเอาปืนออกมาโชว์หรือข่มขู่ใครแต่อย่างใด อีกทั้งนายเอกจะเป็นคนค่อนข้างวางตัวดี และยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิช่วยงานราชการของทางจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย ส่วนเรื่องที่นายเอกแม่นปืนนั้น มาจากนายเอกชอบฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำ
ส่วนนายเดชา (สงวนนามสกุล) คนงานรถขนส่ง กล่าวว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน กลุ่มผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องกับคนขับรถของบริษัทนายเอกมาก่อน สาเหตุมาจากที่กลุ่มผู้บาดเจ็บไม่พอใจที่คนขับรถไปมองหน้าเขา เขาเลยเข้ามาหาเรื่อง แต่ครั้งนั้นก็คุยกันจบไปแล้ว เหตุการณ์เมื่อคืนก็เป็นไปได้ที่ฝั่งผู้บาดเจ็บเมาแล้วจะตามมารื้อฟื้นเรื่องเก่าจนมาเจอกับเจ้าของโรงงานแทน
ในส่วนของคดีความ พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่า ในส่วนของผู้บาดเจ็บนั้นประกอบด้วย
1.นายรัชภูมิ อายุ 32 ปี ถูกยิงและมีบาดแผลบริเวณใบหน้าและศีรษะ
2.นายบุญทัน อายุ 26 ปี ถูกยิงและมีบาดแผลบริเวณใบหน้าและศีรษะ
3.นายอมรเทพ อายุ 29 ปี ไม่พบบาดแผลถูกยิง แต่มีบาดแผลบริเวณศีรษะ
4.นายณรงค์ อายุ 35 ปี ถูกยิงบริเวณขา วิ่งหลบหนีไป และพบตัวที่ซอยกิ่งแก้ว21/1
ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทั้งหมดให้การวกไปวนมาไม่ตรงกัน ทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ และกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บได้ตั้งวงนั่งดื่มสุรากัน โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งดื่มอยู่ที่บริเวณหน้าโกดังของตนเอง ส่วนกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งดื่มอยู่อีกจุดหนึ่ง ห่างกันประมาณ 100 เมตร ขณะเกิดเหตุกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บเดินเข้าไปมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น
นายธนกรหรือนายเอกได้นำปืนออกมาจากรถยนต์ของตนเองก่อนจะยิงใส่กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ
พนักงานสอบสวนจึงตั้งข้อหานายเอก อายุ 42 ปี เจ้าของโรงงาน ข้อหา 1.พยายามฆ่าผู้อื่น 2.พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่ได้มีใบอนุญาตให้พกพาเว้นแต่มีกรณีจำเป็นเร่งด่วน และ 3.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน
ส่วนพนักงานอีก 2 คนคือ นายวุฒิกร อายุ 40 ปีและนายสุชาติ อายุ 52 ปี ลูกน้องของนายเอก ถูกตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งทั้งหมดรับทราบข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวนเบื้องต้น และขอประกันตัวสู้คดี ส่วนจะมองว่าเป็นการกระทำการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุด้วยหรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งในส่วนของนิติวิทยาศาสตร์พยานวัตถุ และพยานแวดล้อม ส่วนกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุตรวจสอบแล้ว ไม่มีกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด
