ทนายตั้มยื่นปปง.อายัด 50 บัญชีเครือข่าย บิ๊กตำรวจ ร่วมฟอกเงิน

30 เม.ย. 67

ทนายตั้มยื่น ปปง.อายัด 50 บัญชีเครือข่าย บิ๊กตำรวจ ร่วมฟอกเงิน แฉมาดาม ก.ระดับ VVIP เตรียมขอสัญญาติหนีไปอยู่อังกฤษ

 

วันนี้ (30 เม.ย.67) ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางมายื่นหนังสือถึง เลขาธิการ ปปง. เพื่อขอให้อายัดทรัพย์สินเครือข่ายของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ส่วยเว็บพนันฯและ 18 ธุรกิจ ที่เคยแฉก่อนหน้านี้ 

1714453620611

ด้านนายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย รองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง.เป็นผู้มารับเรื่อง พร้อมระบุว่า การที่ทนายตั้มมายื่นก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ทางปปง.จะเอาไปรวบรวม เพื่อตรวจสอบ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยจะขอเอาหลักฐานทั้งหมดนี้ไปตรวจสอบก่อน

1714453303630

ก่อนที่ทนายตั้ม จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ตนเอาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเลขบัญชี หรือทรัพย์สินในเครือข่ายของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ว่ามีใครบ้างที่ถือทรัพย์สิน ซึ่งตนก็คิดว่าน่าจะมาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเกี่ยวกับการฟอกเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเว็บพนัน และ 18 ธุรกิจที่เคยแฉไปก่อนหน้านี้

ส่วนที่ตนโพสต์เมื่อวานนี้เรื่องเกี่ยวกับ คุณผู้หญิงระดับ VVIP จะหนีไปอังกฤษนั้น สายของตนแจ้งมาว่าคุณผู้หญิง มาดาม ก.ระดับ VVIP ได้ไปที่ประเทศอังกฤษ เพื่อจะทำเรื่องขอสัญชาติแล้ว แต่ตนไม่มั่นใจว่าเขากลับมาไทยหรือยัง

โดยจากการตรวจสอบเส้นเงินพบว่า มาดามคนดังกล่าว มีเส้นเงินถึงทุกเดือน เดือนละ 59,000 ถึง 159,000 บัญชีที่มีการโอนเงินให้ใช้ทุกเดือน เป็นบัญชีที่ดาบยาวและรองฟาง เป็นผู้ควบคุม

แต่จนป่านนี้ผ่านระยะเวลามาเท่าไหร่แล้ว เส้นเงินเห็นชัดขนาดนี้ แต่จนป่านนี้ยังไม่มีการเรียกมาดาม ก.มาแจ้งข้อกล่าวหา หรือมาสอบถามแม้แต่นิดเดียว จนตอนนี้ทราบมาว่ามีการไปขอทำสัญชาติที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งตนก็คิดเอาเองว่าเป็นทางเลือกเอาไว้หรือเปล่า ว่าหากถูกดำเนินคดีจะได้มีที่อยู่

วันนี้ตนก็เลยมาปปง.เพื่อยืนให้ตรวจสอบ 50 บัญชีของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว และอายัดทรัพย์สิน เพราะกลัวว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน

 

คนที่ 2 เป็นตัวละครใหม่ คือ สารวัตรสาวหล่อ ที่เป็นคนใกล้ชิดกับมาดาม ก. สังกัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดมาดาม ก. ทำธุรกิจร่วมกันทั้งโรงแรมที่เขาใหญ่ , ตลาดกลางคืน , ถือโฉนดที่ดินร่วมกัน ประมาณ 5 ไร่ และมีหลักฐานว่าทั้งคู่ เป็นประธานทำบุญร่วมกันโดยมีการบริจาคเงินจำนวนตั้งแต่หลักแสน ถึงหลักล้านบาท

คนที่ 3 คือ“ดาบยาวและรองฟาง และครอบครัว รวมถึงบัญชีม้าต่างๆ

หลักฐานที่นำมายื่นให้ตรวจสอบวันนี้ สืบเนื่องจากเส้นเงินจากเว็บพนัน BNK MASTER และเงินจากส่วย 18 ธุรกิจ ที่มีการโอนเข้าบัญชีของนายณัฐพงษ์ บัญชีม้า ประมาณ 800 ล้านบาท และมีการโอนให้ผู้ได้รับประโยชน์ คือ ภรรยาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาดามก.ที่มีเงินเข้าบัญชีรวมแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ซึ่งหากไม่ใช่เป็นเงินที่มีความผิดฐานการฟอกเงิน ต้องหาหลักฐานมายืนยัน

ทนายตั้ม ยังระบุถึงหลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงินของภรรยาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งเงินทำธุรกิจ 192 ล้านบาท ,บริจาคให้กับนิติบุคคล ซึ่งมีความซับซ้อน และมีความเกี่ยวข้องกับ หนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวนเงินประมาณ 45 ล้านบาท รวมถึงนำเงินไปซื้อที่ดินจำนวน 77 ล้านบาท และซึ่งต้องฝากให้ ปปง. ตรวจสอบ

ในส่วนของดาบยาว ภรรยาและครอบครัว มีหลักฐานเรื่องการนำเงินไปทำรีสอร์ท รวมถึงมีบ้านในจังหวัดลพบุรี ที่มีพื้นที่จอดรถได้กว่า 10 คัน และนำเงินไปซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตในราคาสูง ซึ่งเป็นชื่อของภรรยาดาบยาว

ในส่วนของสารวัตรสาวหล่อคนสนิทมาดาม ก่อนหน้านี้เคยมีข้อมูลจากเพจพระจันทร์ลายกระต่าย เคยโพสต์จากมีผู้ร้องเรียนว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ร้องเรียนว่ามีตำรวจตำรวจระดับสารวัตรมีอำนาจเหนือผู้กำกับสถานี ซึ่งเคยอ้างตัวว่ามีผู้ใหญ่เป็นภรรยาระดับบิ๊กตำรวจหนุนหลัง และ 1 เดือน เข้ามาทำงานเพียง 2-3 วันเท่านั้น เพื่อเข้ามาเก็บส่วยที่รู้กันดีว่าตำรวจระดับผู้กำกับได้ส่วนแบ่งเพียงร้อยละ 10 ส่วนอีก ร้อยละ 90 ส่งขึ้นไปถึงนายตำรวจระดับสูง

ทนายตั้ม ยังระบุ เพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ที่มีมติออกมาถึงเรื่อง การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ซึ่งในขณะนั้นมียศพลตำรวจตรี ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ ไม่ได้ระบุถึง ทรัพย์สินที่เป็นบ้านหรู 2 หลังในประเทศอังกฤษ โดยตนเองจะติดตามว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหากับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์หรือไม่ ทั้งที่มีมติออกมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นมาตรฐาน ในเรื่องการตรวจสอบการทุจริตต่อไป.

 

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส