นักธุรกิจสาวร้องเลเซอร์ขนเพชรคลินิกดัง ทำจิมิไหม้ แผลติดเชื้อ

23 เม.ย. 67

นักธุรกิจสาว ร้องสายไหมต้องรอด หลังไปเลเซอร์ขนเพชร คลินิกดังย่านรังสิต ทำ จิมิ ไหม้เป็นแผลติดเชื้อ คาดใช้หมอเถื่อน

 

วันนี้เวลา 13.00.น.น.ส.เสาวลักษณ์ อายุ 36 ปี นักธุรกิจสาว ชาวรังสิต ปทุมธานี เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อนายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีไปเสริมความงามที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรังสิต ปทุมธานี ด้วยการซื้อคอร์สเลเซอร์ขนเพชร และได้ไปทำการเลเซอร์ที่คลินิก เมื่อวันที่ 18 มี.ค.67

หลังจากเลเซอร์มีอาการปวดแสบปวดร้อนที่อวัยวะเพศมาก จากนั้นแผลเริ่มพุพอง มีอาการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น จนแพทย์ที่รักษาต้องสั่งนอนโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 3 คืน

น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าวว่า ตนรู้จักคลินิกแห่งนี้ทางเฟซบุ๊ก จากการยิงโฆษณาของทางคลินิก เห็นว่าเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียง จึงทักไปพูดคุย และนัดวันเข้าไปยิงเลเซอร์ขนเพชร ในวันที่ 18 มี.ค.67 เวลา 16.00 น. โดยคิดราคาครั้งละ 2,000 บาท ตนผิดสังเกตตั้งแต่เริ่มทำการยิงเลเซอร์ เนื่องจากคนทำการยิงเลเซอร์แต่งตัวเหมือนพนักงานทั่วไปไม่ได้ใส่ชุดแพทย์ หลังยิงเลเซอร์เสร็จ ตนรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากทั่วอวัยวะเพศ จึงได้ปรึกษากับทางคลินิก ตอนนั้นคลีนิกแจ้งเป็นอาการปกติ เดี๋ยวจะหายไปเอง ตนจึงกินยาลดไข้ ยาแก้ปวด แล้วนอนพัก

จากนั้นวันรุ่งขึ้นตนตื่นมา หลังจากอาบน้ำรู้สึกปวดแสบที่อวัยวะเพศมาก จึงได้ก้มมองดูเห็นเป็นตุ่มน้ำใสๆพองรอบๆอวัยวะเพศ พออาบน้ำเสร็จเอาผ้าเช็ดตัวเช็ด พบว่าผิวหนังที่อวัยวะเพศเปื่อยยุ่ยหลุดติดออกมากับผ้าเช็ดตัว และมีอาการแสบมาก พร้อมกับมีไข้ จึงโทรกลับไปแจ้งทางคลินิกอีกครั้งถึงอาการที่เกิดขึ้น จากนั้นตนได้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านมากินและทา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล พบว่าแผลจากการยิงเลเซอร์มีอาการติดเชื้อรุนแรง แพทย์จึงให้แอดมิดเพื่อดูอาการเนื่องจากอยู่ใกล้ช่องคลอด และประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2 - 3 หมื่นบาท (หากไม่ติดเชื้อเพิ่ม)

ตนจึงติดต่อกลับไปที่คลินิกอีกครั้งเพื่อแจ้งค่าใช้จ่ายในการรักษา โดยขอให้ทางคลินิกช่วยค่ารักษา 20,000 บาท ส่วนที่เหลือตนจะเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด แต่ทางคลินิกได้แจ้งว่าให้ตนทำการรักษาได้เลย คลินิกจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเอง ตอนนั้นตนรู้สึกสบายใจและชื่นชมในความรับผิดชอบของทางคลินิกมาก ระหว่างนอนรักษาตัวตนได้อัพเดทอาการให้ทางคลินิกทราบทุกวัน หลังจากตนนอนให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 3 วัน อาการเริ่มดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีค่ารักษาอยู่ที่ 42,642 บาท ตนจึงสำรองจ่ายไปก่อนและส่งใบเสร็จให้กับทางคลินิกเพื่อเบิกเงินคืนตามที่คลินิกแจ้งไว้

แต่พอหลังจากส่งใบเสร็จไปเหตุการณ์กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที ทางคลินิกปฏิเสธการจ่ายเงิน อ้างแต่เพียงว่าไม่มีความจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล อีกทั้งอาการบาดเจ็บ อาการติดเชื้อก็ไม่เกี่ยวกับทางคลินิก คลินิกขอคืนเงินค่ายิงเลเซอร์ 2,000 บาท แล้วจบกันไป ตนเห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง คลินิกปัดความรับผิดชอบอย่างน่าอาย เรื่องนี้ตนไม่ได้เรียกร้องเงินค่าทำขวัญที่ทำให้ตนเจ็บตัวต้องมานอนโรงพยาบาลเลยแม้แต่บาทเดียว เงินจำนวน 42,642 บาท เป็นเงินค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายจริงทั้งสิ้น ตนจึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมจากเพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว เพื่อไม่ให้คลีนิกไปทำแบบนี้กับคนอื่นๆอีก

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นจะประสานไปยัง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพและมาตราฐานในการประกอบวิชาชีพ ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อให้เกิดคาามเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ตามข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อไป.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส