หมอวรงค์ บุก ป.ป.ช. ยื่นหลักฐานสำคัญมาก ฟันคนช่วยนักโทษป่วยทิพย์

22 เม.ย. 67

 

หมอวรงค์ บุก ป.ป.ช. ยื่นหลักฐานสำคัญมาก ฟันคนช่วยนักโทษป่วยทิพย์ มั่นใจเอาผิดได้ เหมือนคดีโครงการรับจำนำข้าว 

วันที่ 22 เม.ย. 67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เพื่อขอให้ตรวจสอบบุคคลที่ช่วยเหลือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ป่วยทิพย์ 

นพ.วรงค์ กล่าวว่า การร้องเรียนเรื่องการช่วยเหลือนายทักษิณไม่ต้องติดคุก มีการร้องเรียนหลายคณะ และตนเคยร้องเรียน ป.ป.ช. และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินในช่วงที่เริ่มต้นใหม่ๆ แต่การร้องเรียน ป.ป.ช.ครั้งนี้ ตนได้นำเอกสารที่เป็นทางการที่น่าเชื่อถือมากที่สุด จากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ได้ทำเอกสารมาถึงตน จากที่ตนเคยยื่นร้องเรียน แต่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้รับเรื่องไว้ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ก็ได้ทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงให้เรา ถือเป็นเอกสารที่น่าเชื่อถือจากองค์กรอิสระ และชี้ประเด็นให้เรารับทราบหลายประเด็น 

เช่น การยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยหนักจริง เป็นการรายงานที่เป็นทางการในการส่งตัวไป รพ.ตำรวจ อ้างเพียงแต่ว่าส่งตัวไปเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีในกฎกระทรวงในการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาภายนอก และการส่งตัวนักโทษรายนี้ไปรพ.ตำรวจ ไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง เพราะต้องรักษาพยาบาลในแห่งนั้นก่อน แต่ในรายงานระบุชัดเจนว่าข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย 

และไม่มีการตัดผมนักโทษ แม้เรือนจำจะอ้างว่านักโทษอยู่รพ. ต้องให้รพ.ส่งตัวมาก่อน ซึ่งมันผิดหลักกการ เพราะเขาเป็นผู้ต้องขัง อีกทั้งการให้นักโทษไปอยู่ชั้น 14 แม้ รมว.ยุติธรรมจะอ้างว่าเพื่อป้องกันความปลอดภัย ซึ่งหากมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยต้องส่งตัวกลับมารักษาที่กรมราชทัณฑ์ 

ตนเชื่อว่าคดีนี้น่าจะจบไม่ต่างจากโครงการรับจำนำข้าว เพราะครั้งนี้เรามีข้อมูลการสอบสวนข้อเท็จจริงขององค์กรอิสระที่น่าเชื่อถือได้ ทำให้ป.ป.ช.ทำงานได้ง่ายขึ้น และหลังครบ 180 วันการประเมินให้ได้รับโทษกรณีพิเศษคนที่อายุเกิน70 ปีและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องแบบถาวร ไม่ใช่กลับมาพักที่บ้านแล้วแข็งแรง ตนมองว่าเป็นการช่วยเหลือกัน ตนจึงมาร้องเรียนอย่างเป็นทางการ 

เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่าไม่กังวลที่มาร้องคนช่วยเหลือ นายทักษิณ เพราะความจริงต้องร้องรัฐบาลชุดที่แล้ว นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าพ.ต.อ.ทวี ไม่ได้อ่านกฎหมาย ดูหน้าก็รู้แล้วว่าพ.ต.อ.ทวีไม่รู้เรื่องจริงๆ เราไม่เคยกล่าวหาว่ากฎหมายผิด แม้จะออกในรัฐบาลชุดที่แล้ว เราก็ไม่ได้ว่า แต่คุณไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และพูดกับประชาชนอ้างว่าทำตามกฎหมาย แต่ในรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงขององค์กรอิสระยืนยันว่าคุณไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย คุณพูดกับประชาชนอีกอย่างหนึ่งทำให้ประชาชนเข้าใจผิด คุณควรกลับไปทำการบ้าน และไม่ควรเป็น รมว.ยุติธรรม เพราะเรื่องแค่นี้ง่ายๆ คุณยังจัดการไม่ได้ 

เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี ระบุว่ากระบวนการเรื่องการช่วยเหลือนายทักษิณเกิดขึ้นในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นพ.วรงค์ กล่าวว่า อย่าลืมว่าตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกคนรับรู้ว่าพลัดแผ่นดินแล้ว ดังนั้นนายกฯเศรษฐาและ พ.ต.อ.ทวีต้องรับผิดชอบ 

เมื่อถามว่า มองการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทักษิณอย่างไร นพ.วรงค์ กล่าวว่า ก็เป็นสไตล์ของเขา คนผิดไม่ยอมรับผิด ไม่สำนึกผิด เพราะสงกรานต์ที่ผ่านมานายทักษิณให้สัมภาษณ์ว่าถูกยัดข้อหาหลายเรื่อง คุณบอกได้หรือไม่ว่าใครมายัดคุณ แบบนี้เป็นลิงหลอกเจ้า ตราบใดเคลื่อนไหวทางการเมืองเอาเปรียบประชาชนและกฎหมาย มันไม่เป้นผลดีต่อตัวคุณเลย แต่เป่นการทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศ 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า เดือนพ.ค.นี้ ทางน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมาประเทศไทย จะซ้ำเติมเรื่องความไม่ยุติธรรมหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเป็นแบบนั้น ถ้าคุณตรงไปตรงมาควรจะกลับมาแล้ว แต่คุณดีเลย์ไปเรื่อยๆ เพื่อต้องการหาช่องทางกฎหมายช่วยเหลือ แค่นี้คุณก็ทำให้ประเทศบอบช้ำ ประชาชนไม่พอใจสูงมาก หากน.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาประเทศตามโมเดลของนายทักษิณ ประเทศจะหนักขึ้น นี่ยังไม่รับรวมเรื่องอื่นๆที่รัฐบาลกำลังมั่ว เช่น เรื่องเงินดิจิทัล วอลเล็ตและการแทรกแซงกองทัพ ประเทศชาติจะเสียหาย 

นอกจากนี้กลุ่มกองทัพธรรม คปท. และศปปส. มายื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ใช้รถของทางราชการเดินทางไปเข้าพบนายทักษิณ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และมาติดตามเรื่องที่เคยยื่นไป คือผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือนายกทัษิณไม่ให้ติดคุกเมีการดำเนินการทุจริต ปิดบังและเบี่ยงเบนข้อมูล

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม