เอกสารหลุด อ้าง“บิ๊กโจ๊ก”ดึง“ลุงป้อม”เป็นพยาน แฉเบื้องหลังป.ป.ช.บางคนได้ดีเพราะฝากมา

22 เม.ย. 67

เอกสารหลุด !! อ้าง “บิ๊กโจ๊ก” ดึง “ลุงป้อม” เป็นพยาน แฉเบื้องหลังกรรมการป.ป.ช.บางคนได้ดีเพราะฝากมา ทำตัวไม่เป็นกลาง ขู่อาฆาตคดีตัวเอง

โลกเชียลแชร์ภาพเอกสารที่อ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง ขอคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกรรมการ ป.ป.ช. ท่านหนึ่ง

ใจความอ้างว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2562 รุ่นพี่ที่นับถือ ซึ่งเรียนร่วมรุ่นหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 58 หรือ วปอ.58 ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือ ให้ บิ๊กโจ๊ก พาเข้าพบ นายพล ป. เพื่อช่วยสนับสนุนให้ได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ประกาศสรรหาคนเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 62

โดยรุ่นพี่ที่นับถือ ได้บอกว่าตนเองมีคุณสมบัติด้อยกว่าคนอื่นที่ลงสมัคร ซึ่งบิ๊กโจ๊กเอง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่า นายพล ป. จะช่วยหรอไม่ แต่ด้วยความเกรงใจ จึงได้นัดหมายให้

เมื่อถึงวันนัดหมาย บิ๊กโจ๊ก ได้เข้าไปพบนายพล ป. และอธิบาย ก่อนที่จะให้รุ่นพี่ที่นับถือ เข้าไป เมื่อ นายพล ป. พบกับรุ่นพี่ที่นับถือ จึงได้ถามว่า “อยากเป็นกรรมการ ป.ป.ช. หรือ” รุ่นพี่ตอบว่า “ครับขออนุญาตมารับใช้ท่าน” และนายพล ป. ได้ตอบว่า “งั้นไปสมัครมา”

จนกระทั่งวันที่ 30 ม.ค. 63 รุ่นพี่บิ๊กโจ๊กที่นับถือ ก็ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. และหลังจากนั้น ได้ติดต่อ บิ๊กโจ๊ก มาอีกครั้งให้พาเข้าพบ นายพล ป. เพื่อแสดงความขอบคุณที่สนับสนุน เมื่อได้เข้าพบก็ได้มีการพูดคุยกัน รุ่นพี่ที่นับถือ ได้กล่าวกับ นายพล ป. ว่า เรื่องใน ป.ป.ช. พร้อมรับใช้ มีอะไรให้ นายพล ป. สั่งผ่าน บิ๊กโจ๊กได้เลย”

หลังจากนั้น ระหว่างรอการโปรดเกล้าฯ บิ๊กโจ๊ก ได้ นัดรุ่นพี่ที่นับถือ ไปพบ ที่ปรึกษา ป.ป.ช. ในขณะนั้น ซึ่งบิ๊กโจ๊กรู้จักกับที่ปรึกษาคนนี้จากที่เคยมาให้ถ้อยคำ คดีไบโอเมตริกซ์ โดยการที่พาทั้งคู่มารู้จักกัน ก็เพื่อให้ช่วยเหลือ หรือแนะนำการทำงาน ให้เป็นประโยชน์กับประเทศต่อไป ซึ่งทั้งคู่ก็พูดคุยกันตามปกติ

หลังจากที่รุ่นพี่ที่นับถือ เข้ารับตำแหน่ง ในปี 2564 ได้ขอนัดพบ บิ๊กโจ๊กอีกครั้ง เพื่อแจ้งว่าตนเองถูกร้องเรียน จากที่ปรึกษา ป.ป.ช. คนที่บิ๊กโจ๊กเคยพาไปรู้จัก

บิ๊กโจ๊ก จึงโทรไปสอบถาม ที่ปรึกษา ป.ป.ช. ท่านนั้น และได้คำตอบว่า ไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้เป็นคนทำเรื่องร้องเรียน หรือทำเรื่องดังกล่าว และไม่มีสาเหตุที่จะทำ บิ๊กโจ๊ก จึงแจ้งกลับไปตามนั้น แต่รุ่นพี่ที่นับถือไม่เชื่อ และต่อว่า ว่าเข้าข้างกัน และสั่งบิ๊กโจ๊กว่า “พี่ต้องไปจัดการเรื่องนี้ให้ผม อย่าให้มีเรื่องร้องเรียนผมอีก” ซึ่งทำให้บิ๊กโจ๊กไม่พอใจ เพราะเป็นการสั่งที่ไม่มีเหตุผล หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกัน แต่รุ่นพี่ที่นับถือยังคงโทรมาบอกว่า คนของบิ๊กโจ๊ก ยังร้องเรียนตนเองไม่หยุด

ต่อมาในเดือน ธ.ค. 64 รุ่นพี่ที่นับถือ ได้นัดไปทานอาหารพร้อมกล่าวขอบคุณที่สนับสนุนให้ได้มาเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยแจ้งว่าคดีที่เกี่ยวกับ นายพล ป. และตัวบิ๊กโจ๊ก ใน ป.ป.ช. นั้น เขาจะดูแลให้ตลอดไป และยังบอกว่าที่ปรึกษา ป.ป.ช. คนนั้นยังร้องเรียน ตนเองเรื่อยมา ขอให้บิ๊กโจ๊กจัดการเรื่องดังกล่าว บิ๊กโจ๊กจึงตอบไปว่า เมื่อไม่มีหลักฐาน จะจัดการเขาได้อย่างไร แต่รุ่นพี่ที่นับถือ ก็ไม่ฟังและต่อว่าว่าเข้าข้างกัน ทั้งคู่มีปากเสียงกัน และสุดท้ายรุ่นพี่ที่นับถือได้กล่าวว่า “พี่โจ๊ก อย่ามีเรื่องมาพึ่งผมบ้างแล้วกัน”

ต่อมาช่วงเดือน มี.ค. 66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ให้สัมภาษณ์เรื่องคุณสมบัติการเป็นกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมกล่าวหา รุ่นพี่ที่นับถือ และยังได้มาร้องเรียนกับเลขาฯ ป.ป.ช. ว่า รุ่นพี่ที่นับถือ ใช้อำนาจในทางไม่ชอบ จากนั้น รุ่นพี่ที่นับถือ ได้โทรศัพท์มาต่อว่าบิ๊กโจ๊ก ว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลัง พร้อมกล่าวว่า หากมีเรื่องของบิ๊กโจ๊กมาที่ ป.ป.ช. จะไม่มีการช่วยเหลือดูแลใด ๆ อีก และยังพูดว่า “อย่าให้มีเรื่องกล่าวหาพี่มาถึงผมนะ ผมฟันไม่เลี้ยง”

บิ๊กโจ๊ก ระบุในหนังสือเพิ่มเติมว่า เป็นที่ชัดแจ้งว่า กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว มีความขัดแย้งกับ ตนเองอย่างชัดแจ้ง จึงขอยื่นคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของ กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว เกี่ยวกับการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องกล่าวหา และคดีในกรณีที่ บิ๊กโจ๊ก และคณะตำรวจที่ถูกกล่าวหา ทุกเรื่อง เนื่องจากเห็นว่า กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว มีสาเหตุโกรธเคืองกันโดยตรง

นอกจากนี้ บิ๊กโจ๊ก ยังระบุอีกว่า พฤติกรรมการของ กรรมการ ป.ป.ช.คนดังกล่าว ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ขณะรับตำแหน่ง เป็นบุคคลที่มีประวัติ และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ กรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่ โดยขอให้ทาง ป.ป.ช.ส่งเรื่อง ไปยังประธานรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาตรวจสอบ

ล่าสุด !! มีรายงานแจ้งหมายข่าว “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมเดินทางมาที่ ป.ป.ช.ด้วยในเวลา 10.00 น.วันนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ สามารถคาดเดาได้ 2 แนวทาง 1.มายื่นปฏิเสธเอกสารดังกล่าวไม่ได้มาจากตัวเอง 2.ยื่นคัดค้านจริงตามหนังสือที่หลุดออกมา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส