เสี่ยบุ๊กยกพวกควงปืนบุกพังอะพาร์ตเมนต์ หลังถูกเชิญออกเพราะเสียงดัง ลั่นให้เอาความจริงมาคุยกัน แจ้งปมยิงกล้องวงจรปิดแค่ปืนฉีดน้ำ
จากกรณีที่เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ ในย่านรามคำแหง ได้ร้องเรียนมายังอัมรินทร์ทีวี หลังจากที่ถูก เสี่ยบุ๊ค หรือ นายเขมทัต ชัชอานนท์ พาพวกกว่า 20 คน มาพักที่อะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ก่อนจะสร้างความวุ่นวายให้กับคนที่พักอาศัยคนอื่น ก่อนจะถูกเชิญออกจากอะพาร์ตเมนต์ทำให้ไม่พอใจ ชักปืนข่มขู่คนดูแลตึกให้พาขึ้นไป ก่อนจะทำลายข้าวของ มูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท หลังเกิดเรื่องเสี่ยบุ๊คหายเงียบ
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้วิดีโอคอลคุยกับ นายเขมทัต ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยบุ๊ค เปิดใจกับทางทีมข่าวว่า ตนเองไปเช่าอะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. จำนวน 3 ห้องนอน และ 1 ห้องปาร์ตี้ โดยระยะเวลาการเช่าทั้งหมด 3 วัน โดยห้องปาร์ตี้ห้องละ 5,000 ต่อวัน และได้จ่ายเงินไปหมด 3 วัน
จนกระทั่ง วันที่ 15 เม.ย. ทางเจ้าของไม่ให้กลุ่มตนเข้าไปพักอาศัย โดยให้ชาวต่างชาติใช้ห้องดังกล่าว ซึ่งวันนั้นเองตนเองก็ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนก่อนจะกลับเข้ามาพัก กลับพบว่าพนักงานที่ดูแลตึกในช่วงค่ำมาบอกกับตน และกลุ่มเพื่อนว่าไม่ให้ตอนเข้าพัก โดยไม่ได้ให้เหตุผล ตนเองจึงแปลกใจ เนื่องจากจ่ายค่าห้องไปหมดแล้ว ยอมรับก่อนจะโมโหได้ปาปืนฉีดน้ำใส่โทรทัศน์ และได้มีการดึงกล้องวงจรปิดมาจริงและออกจากที่พักไป
ส่วนกรณีตนเองอาจจะเสียงดังต้องบอกว่า อะพาร์ตเมนต์ดังกล่าวได้เปิดห้องจัดปาร์ตี้ก็ต้องเป็นปกติอยู่แล้ว ที่ตนเองสามารถเสียงดังได้ เพราะจ่ายเงินไปจำนวนขนาดนั้นแล้ว อีกทั้งทั้งอะพาร์ตเม้นต์ยังจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับตนอีก ส่วนที่บอกว่าเห็นว่าตนและกลุ่มเพื่อนมีการเสพยาเสพติดนั้น ตนพร้อมที่จะให้ตรวจปัสสาวะ แต่มีข้อแม้ว่า ทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ต้องมาตรวจปัสสาวะกับตนด้วย เพราะเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ยังมาปาร์ตี้กับตนในห้องอยู่เลย
ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมาที่ทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ บอกว่า กลุ่มของตนได้ไปไขประตูบริเวณชั้น 6 ห้องลูกค้าคนอื่นเรื่องนี้ตนไม่รู้ เพราะตนเองอยู่ที่ชั้น 7 ส่วนจะเป็นคนอื่นนั้นตนไม่ทราบ
กรณีปืนที่เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ บอกว่า ตนได้แอบใช้ไปข่มขู่พนักงานดูแลนั้น ตนมีแต่ปืนฉีดน้ำอย่างเดียว ไม่มีการพกอาวุธปืนอย่างแน่นอน ยืนยันว่าตนไม่เคยได้รับการติดต่อมาจากทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ มีแต่ตนที่พยายามติดต่อไปหาเขาแต่เขาก็ไม่รับสายจึงทำได้แค่ติดต่อกับคนที่ดูแลในคืนนั้น
ด้านมูลค่าที่ทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ประเมินว่าความเสียหายอยู่ที่ 200,000 บาท ต้องตั้งคำถามกลับไปว่า โทรทัศน์สองเครื่องและกล้องวงจรปิดสองสามตัวมูลค่าถึงขั้นนั้นหรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรตนเองก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ ส่วนเรื่องที่ว่าตนเองถูกออกหมายจับเรื่องนี้ตนเองไม่เคยรู้มาก่อนเนื่องจากยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมา
ขณะที่ความคืบหน้าทางคดีทาง ผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยัง สน. หัวหมาก พันตำรวจเอกเศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ นายเขมทัต ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยบุ๊ค ในข้อหาบุกรุกในยามวิกาล และพกพาอาวุธปืนไปในเคหสถาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตามตัวมาดำเนินคดี และขยายผลบุคคลอื่นในภาพกล้องวงจรปิด เรียกมาให้ปากคำเพิ่มเติม
