ร้องมหาดไทย เพิกถอนวีซ่า เดวิด ไม่สมควรอยู่ต่อ ตะเพิดให้ไปใส่กระโปรง

5 มี.ค. 67

 

สนธิญา ร้องมหาดไทย เพิกถอนวีซ่า เดวิด ไม่สมควรอยู่ต่อ ชี้ไม่แมนไล่ตะเพิดให้ไปใส่กระโปรง เล็งยื่น ดีเอสไอสอบสร้าง วิลล่าหรูบน แหลมยามู 

วันที่ 5 มี.ค. 67 นาย สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึง นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบ นาย เดวิด นักธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์ ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แพทย์หญิง ธารดาว จันทร์ดำ หรือ หมอปาย และยังเป็นเจ้าของปางช้างใน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 

โดยนาย สนธิญา เปิดเผยว่า ยื่นหนังสือถึง รมว.มหาดไทย 3 ประเด็น คือการเพิกถอนวีซ่าของนายเดวิด ที่จะหมดอายุในวันที่ 13 มี.ค. สอดคล้องกับที่นายอนุทิน และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในการเสนอให้เพิกถอนวีซ่า ส่วนตัวคาดว่าจะไม่มีการต่อวีซ่าให้นายเดวิด แต่จะต่อให้ในลักษณะของผู้ต้องหาที่จะอยู่ในประเทศไทยจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ต้องหารือว่า นายเดวิดจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยอย่างไร หรือใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยแบบกร่างสุดๆ เหมือนที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ขอให้มีการตรวจสอบการใช้ที่ดินบนพื้นที่แหลมยามู จำนวน 106 ไร่ เป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งออกเอกสารสิทธิ์ นส.3.ก. โดยปลายสัปดาห์นี้จะไปยื่นหนังสือให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นจะเป็น นส.3.ก. เป็นหนังสือรับรองการใช้สิทธิครอบครองที่ดิน แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ ดังนั้นการก่อสร้างที่พักหรือวิลล่าจะต้องตรวจสอบว่าก่อสร้างได้อย่างไร 

จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปี 2544 -2554 พื้นที่บริเวณนั้น ยังเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แต่ผ่านมา10 กว่าปี กลายเป็นวิลล่า และนายเดวิดเข้าเช่าพักเดือนละ 1 ล้าน ซึ่งเท่าที่ทราบเจ้าหน้าที่ที่ออกหนังสือรับรองสิทธิ ได้ถูกออกจากราชการไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่ายังมาอีก 2-3 หาดในจังหวัดภูเก็ตที่ชาวต่างชาตินำสังกะสี มาขวางกั้น ห้ามบุคคลเข้าไปในพื้นที่ชายหาดด้วย 

นายสนธิญา กล่าวต่อว่า ขอให้ตรวจสอบการถือหุ้นหรือนอมินีของ นายเดวิดและภรรยาชาวไทย จึงมาร้องขอให้ รมว.มหาดไทย สั่งการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น และส่วนตัวเห็นว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในฐานะเจ้าเมือง ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น และเป็นไปตามที่ รมว.มหาดไทย และผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค8 มีบัญชาการชัดเจนในการถอดวีซ่า 

ขณะเดียวกันประชาชนคนไทยก็ยืนยันชัดเจนเช่นกันว่า นายเดวิดจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากมีพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ไม่กล้ารับความจริง โดยเฉพาะกรณีที่บอกว่าล้มแล้วขาไม่โดนหมอปาย ซึ่งตนเองไม่เชื่อ จึงขอบอกตรงนี่ว่า หากไม่กล้ารับและไปดูถูกคนไทยว่าเป็น local หรือท้องถิ่น ตนเคยบอกว่าให้นายเดวิดไปใส่กระโปรง เพราะลูกผู้ชายไม่รังแกผู้หญิง รวมถึงการขับรถที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่คนไทยด้วยการอ้างว่าจะใช้ปืน ตนได้ไปร้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า ในบ้านมีปืนในครอบครองจริงหรือไม่ และหากมีได้รับใบอนุญาตพกพาถูกต้องหรือไม่ และกรณีการเช่าช้าง จากปางช้างจ.สุรินทร์ ก็ไม่เป็นไปตามสัญญา ซึ่งตนได้รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของนายเดวิดและปางช้างแล้ว เห็นว่า นายเดวิดไม่สมควรอยู่ในประเทศไทยต่อ 

นายสนธิญา กล่าวต่อว่า คนไทย สัญชาติไทย อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญมาตรา 2560 ทุกคนสามารถเข้าไปใช้พื้นที่สาธารณะได้ทั้งหมด อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ผิวขาว ผิวดำ ผิวเหลือง ก็มีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฏบัตรสหประชาชาติไม่สมควรที่จะถูกบลูลี่ ด้อยค่า 

"ผมทำตรงนี้เพราะคนไทยทุกคน หรือคนไทยคนใดคนหนึ่งที่เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต จะต้องเป็นคนไทยที่มีเกียรติยศและศักดิ์ศรี เราอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งหัวแดง เพราะฉะนั้นวันนี้เราไม่จำเป็นจะต้องเกรงกลัวหรือเกรงใจฝรั่ง  ถ้าเขามาดีมาในลักษณะนักท่องเที่ยว ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทย เราพร้อมดูแลเป็นอย่างดี แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามเห็นว่าประเทศไทยเป็นบุคคลชั้นที่ต่ำกว่าเขา เราก็ไม่จำเป็นจะต้องให้เขาอยู่ในประเทศไทย และนายเดวิด ไม่เคยทำคุณประโยชน์ไม่เคยทำอะไร ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนคนไทย ทั้งในภูเก็ต ผืนแผ่นดินไทย นายเดวิดจึงไม่มีบุญคุณอะไรกับประเทศไทย มาอาศัยประเทศไทยทำมาหากิน แต่กลับดูถูก ดูหมิ่น ดูแคลนคนไทย นายเดวิดจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศไทย ขอหน่วยงานรัฐไม่จำเป็นต้องต่อวีซ่า ให้อยู่ในประเทศไทย" นายสนธิญา กล่าว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส