จับวุ่น สาวญี่ปุ่น! ลักรถกู้ภัยหน้าโรงพัก ขณะช่วยคนเจ็บ

18 ก.พ. 67

สกัดจับวุ่น สาวเพี้ยนชาวญี่ปุ่นแอบลักรถกู้ภัยหน้าโรงพัก ขณะช่วยคนเจ็บ

 

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.นพภา ทองบ่อ รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งคนร้ายลักรถอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เหตุเกิดด้านหน้า สน.ลุมพินี ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กทม. จึงเข้าตรวจสอบ

พบนายพิศุทธิ์ ชูเกลี้ยง อายุ 50 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุด สน.ลุมพินี อยู่ในอาการตื่นตกใจ แจ้งว่าถูกคนร้ายขโมยรถโตโยต้า สีขาว ข้างรถติดสติ๊กเกอร์มูลนิธิร่วมกตัญญู ขณะจอดเปิดสัญญาณไซเรนอยู่หน้า สน.ช่วยเหลืออาการบาดเจ็บชายต่างชาติ ระหว่างถูกคนร้ายขับออกไปจึงประสานอาสาช่วยกันออกตามหา จนติดตามผู้ก่อเหตุเป็นหญิงต่างชาติได้ที่วงเวียนใหญ่ ถนนประชาธิปก แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม. ตรวจสอบทราบชื่อ น.ส.คาซูมิ ทามากาวะ (Ms.Kazumi tamakawa) อายุ 49 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ลุมพินี

นายพิศุทธิ์ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้เสียหาย กล่าวว่า ช่วงประมาณ 07.00 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมกตัญญูว่า มีชายต่างชาติได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยนำรถคันดังกล่าวมาจอดปฐมพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ.ระหว่างใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที มีคนงานก่อสร้างมาบอก พบหญิงผู้ก่อเหตุไปที่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่หน้ารถอาสากู้ภัยของตน แต่สันนิษฐานว่าคงไม่มีกุญแจเสียบคาไว้ ทำให้ไม่สามารถขับได้ จนมาเปิดรถกู้ภัยตนที่สตาร์ตเครื่องเปิดไซเรนไว้ โดยคนร้ายขับรถออกไปทันที จากนั้นตนจึงวิ่งไปตามร้อยเวรและสายตรวจ สน.ลุมพินี และแจ้งให้อาสาช่วยกันสกัดรถของตน เนื่องจากเห็นคนร้ายขับรถไปอยู่แถวตากสิน จากนั้นเพื่อนอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งทราบจากวิทยุจึงขับสกัดจับได้ที่วงเวียนใหญ่

ส่วนความเสียหายของตัวรถยังไม่พบ รวมถึงทรัพย์สินในรถอยู่ครบ โดยภายในรถจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุยังไม่มีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากพูดไม่รู้เรื่องต้องใช้ล่ามแปลภาษามาช่วย ส่วนบาดแผลผู้ก่อเหตุเกิดจากการล็อกตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ขับหลบหนี ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะตั้งแต่ออกรถคันดังกล่าวมาเกือบ 15 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนเรื่องทางคดีขอปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อ

ด้าน พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า เบื้องต้นจึงต้องประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นและ ตม.ดูเอกสารการเข้าเมือง ก่อนแจ้งข้อหาลักทรัพย์ และหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจากผู้ต้องหาไม่สามารถนำเอกสารวีซ่ามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส