เปิดใจ "มณฑล" ชายพิการโยกรถสามล้อเข้ากรุง ลั่นไม่ต้องการความช่วยเหลือ

6 ก.พ. 67

 

เปิดใจ "มณฑล" ชายพิการโยกรถสามล้อเข้ากรุง ลั่นไม่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้องการเงินบริจาค กราบขอโทษสื่อ หลังก้าวร้าว ยอมรับเครียดสะสม 

วันที่ 6 ก.พ. 67 ที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นาย มณฑล เพชรสังข์ อายุ 48 ปี ชายพิการขาโยกรถสามล้อคนพิการจาก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เดินทางมากว่า 400 กิโลเมตร เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่กรมบัญชีกลางและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น 

ล่าสุดนาย มณฑล ได้เปิดใจว่า ตนเองไม่ได้หิวแสง ไม่ได้ต้องการเป็นข่าวดัง เพียงแต่ต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการโยกรถสามล้อคนพิการจากอ.ศรีสัชนาลัย มายังกรุงเทพฯ เพื่อทวงสิทธิ์ให้กับคนพิการทั้งประเทศ เนื่องจากตนเชื่อว่ายังมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่ถูกตัดสิทธิ์โดยไม่ชอบธรรม จึงต้องการจะโยกรถสามล้อคนพิการไปยังกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสอบถามกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เท่านั้น 

ไม่ได้ต้องการเงินบริจาค ไม่ต้องการการช่วยเหลือ ทั้งการทำบัตรประชาชน และการต่ออายุบัตรผู้พิการ เพื่อรับสิทธิ์ 800 บาทแต่อย่างใด แต่ต้องการจะทำให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ นั่นก็คือการเดินทางไปให้ถึงตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ เพื่อเป็นตัวแทนของผู้พิการทั้งประเทศต่อสู้กับระบบที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ และไม่เท่าเทียมกันในสังคม โดยเฉพาะผู้พิการที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง เพราะไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือในตอนแรก มีแต่การปฏิเสธปัดกันไปมา จึงอยากจะไปสอบถามรัฐมนตรีด้วยตัวเองเพื่อทวงสิทธิขั้นพื้นฐานของคนพิการให้กับพี่น้องผู้พิการ เพื่อจะได้นำไปสู่แก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบการดูแลผู้พิการอย่างเท่าเทียมกันทั้งระบบ 

ตนเองมีจุดประสงค์เพียงเท่านี้จริงๆ หากได้รับคำตอบที่พอใจก็จะเดินทางกลับ จ.สุโขทัยทันที หากข้อสงสัยใดที่ตนเข้าใจผิด ก็พร้อมจะกราบขอโทษต่อหน้ารัฐมนตรี 

นอกจากนี้นายมณฑล ยังได้ฝากกราบขอโทษสื่อมวลชนที่ตนเองได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงด่าทอ แต่อยากให้เข้าใจว่าตนเองไม่ได้นอนมาแล้ว 3 วัน รู้สึกเครียด และกังวลว่าสิ่งที่ทำนั้นจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ เพราะเกรงว่าถ้านักข่าวมาทำข่าว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจำนวนมาก เกรงว่าจะมีการสกัดกั้นไม่ให้ตนเองไปถึงจุดหมาย  และอยากจะฝากบอกสื่อทุกสำนักว่าขอให้ไปรอตนเองที่กรมบัญชีกลาง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หากเมื่อไหร่ที่เขาไปถึงแล้วจะแจ้งให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาสัมภาษณ์สอบถามได้อย่างเต็มที่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส