วัยรุ่นอรัญฯ พกระเบิดปิงปอง สุดท้ายทำตกหน้าปั๊ม บาดเจ็บ

23 ม.ค. 67

วัยรุ่นอรัญประเทศ พกระเบิดปิงปอง ไปเติมน้ำมัน สุดท้ายทำตกเกิดระเบิด เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บ

กล้องวงจรปิดที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ริมถนนราษฎร์อุทิศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว บันทึกภาพเวลา 14.22 น. บันทึกภาพวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าร้านจากนั้น เจ้าตัวได้เปิดเบาะเพื่อเติมน้ำมันหยอดเหรียญ แต่ระหว่างนั้นเกิดทำระเบิดปิงปองที่พกมาในกระเป๋าสะพานตกลงพื้นที่จนเกิดเสียงดังสนั่น พร้อมกลับมีควันสีขาวพุ่งขึ้นมา  ทำให้ช่างซ่อมรถที่อยู่บริเวณนั้นตกใจกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้น


จากนั้นผ่านไป 10 นาที ตำรวจสภ. อรัญประเทศ หลังได้รับแจ้งเหตุได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับตรวจคนรถของวัยรุ่นชายรายนี้

ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณพื้นถนน ยังมีร่องรอยของระเบิดที่เกิดขึ้น บริเวณพื้นถนนมีรอยไหม้ จากการตรวจสอบพบว่าจุดที่มีการระเบิดอยู่บริเวณตู้น้ำมันหยอดเหรียญ โชคดีที่เหตุการณ์ ไม่รุนแรงถึงขั้นตู้น้ำมันระเบิด

 

ทีมข่าวพบกับช่างที่ซ่อมรถอยู่บริเวณนั้น โดยเจ้าตัวปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดเล่าว่าวัยรุ่นชายคนดังกล่าว ขี่รถมาเติมน้ำมัน ซึ่งตอนนั้นตัวเองกำลังซ่อมรถตามปกติ แต่จู่ ๆ  ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น โดยวัยรุ่นชายรายนี้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณขา ก่อนที่เจ้าของร้านจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ  ที่ผ่านมาเห็นวัยรุ่นชายรายนี้มาเติมที่ปั๊มน้ำมันบ่อย แต่ไม่รู้ว่ามีการพกประทัดอยู่ในกระเป๋าขณะเดียวกันวันนี้ตำรวจก็ได้คุมตัววัยรุ่นชายคนดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อสอบถามถึงการพกระเบิดไว้ในกระเป๋า และหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยรุ่นแก๊งค์ไหนหรือไม่ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวพบกับพี่สาวของวัยรุ่นชายรายนี้ที่เดินทางมาพบกับตำรวจในฐานะผู้ปกครองพี่สาวเปิดเผยว่า  น้องชายขี่รถเพื่อมาเติมน้ำมัน และกำลังจะหยิบเหรียญออกจากกระเป๋าเพื่อหยอดตู้เติมน้ำมัน แต่ระหว่างนั้นระเบิดลักษณะเป็นระเบิดลูกบอลเกิดร่วงจากกระเป๋าตกลงกระแทกพื้น จึงเกิดระเบิดขึ้น

 

ยืนยันว่าน้องชายของตัวเองไม่ได้มีกลุ่มแก๊งค์ไหนในพื้นที่อรัญประเทศ มองว่าน่าจะพกไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนเท่านั้น โดยที่ที่บ้านไม่มีใครรู้ว่าน้องจะพกระเบิดติดตัว  จากการตรวจสอบพบว่าน้องชายได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้งเท่านั้น

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส