กู้ภัยสายมูขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ งมแหวนเพชรมูลค่า 1 แสนบาทได้ หลังเจ้าของถูกลูกน้องขโมยแหวนแล้วโยนทิ้งในบ่อน้ำ
ที่บ้านดอนบม ต.หนองจิก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เป็นฟาร์มเลี้ยงควายชื่อ“ฟาร์มควายงามฟาร์มดอนมหา” ซึ่งเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ควายสวยงาม พบกับนางสาวจุไรรัตน์ วงษาหลง เจ้าของฟาร์มเล่าว่าคนร้ายซึ่งเป็นคนในแวดวงควายสวยงามด้วยกันเพิ่งจะรับเข้ามาทำงานได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้คน ๆ นี้มีปัญหาทางครอบครัวได้เลิกรากับภรรยาจึงได้รับไว้ทำงานในฟาร์ม ก็พอจะทราบประวัติมาบ้างว่ามีประวัติลักเล็กขโมยน้อย แต่ทางตนและน้องชายคือ “บิลบรบือ” กำนันตำบลหนองจิกก็ให้โอกาสเผื่อว่าจะกลับตัวกลับใจ
โดยเมื่อช่วงวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา แหวนและพระทองคำของพ่อได้หายไป แต่ตอนนั้นพ่อยังไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังมีเหรียญยันต์ทองคำน้ำหนักประมาณ 3 บาท ของน้องชายมูลค่าประมาณ 200,000 บาท ก็หายไปด้วยเมื่อประมาณวันที่27พฤศจิกายน ยังไม่มีใครรู้จนกระทั่งพ่อจะไปงานส่งมอบควายก็จะเอาแหวนทองฝังเพชรมาใส่ แต่ก็หาไม่เจอซึ่งแหวนวงนี้ตนได้เป็นคนซื้อให้พ่อเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มูลค่าตอนนั้นอยู่ที่ 80,000 บาท หากเป็นตอนนี้รวมน้ำหนักทองด้วยก็คงจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท
ที่ผ่านมาครอบครัวและพวกลูกน้องที่อยู่ด้วยกันไม่เคยมีเรื่องลักขโมยมาก่อน จึงได้มั่นใจว่าคน ๆ นี้เป็นคนเอาไปแน่นอน จึงได้เรียกตำรวจมาล็อกตัวนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.บรบือ กระทั่งรับสารภาพว่าได้ขโมยของไปจริง ซึ่งเหรียญยันต์ทองคำของน้องชายได้นำไปขายแล้ว ส่วนแหวนทองคำฝังเพชรได้นำไปโยนทิ้งไว้ในบ่อน้ำบนที่นาอีกที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 500 เมตรจึงได้ประสานกู้ภัยประจิมบรบือมาช่วยค้นหาแหวน
ซึ่งในใจคิดไว้ว่าอาจจะไม่ได้คืนแต่อีกใจก็คิดว่าน่าจะได้ ตนนั่งเฝ้าการทำงานของทีมกู้ภัยซึ่งทีมกู้ภัยดำน้ำลงไปค้นหาใต้น้ำ และมีการนำมุ้งตาข่ายมาช้อนขึ้นแต่ก็ไม่เจอจนรู้สึกว่านานมากจึงได้ไปนอนที่เถียงนาข้างบ่อน้ำ เหมือนกำลังฝันก็ได้ยินเสียงว่าเจอแล้วเจอแล้วแต่ก็คิดว่าฝันอยู่ ก่อนที่ทางทีมกู้ภัยจะเรียกชื่อแล้วบอกว่าเจอแล้วจริง ๆ ใช้เวลาในการค้นหานานเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งจุดที่ไม้ปักไว้คือจุดที่เจอแหวน แต่จุดที่คนร้ายอ้างว่าเอาแหวนไปโยนอยู่ห่างจากจุดที่เจอประมาณ 1 เมตร ดีใจมาไม่คิดว่าแหวนวงเล็กแต่ก็ยังสามารถเจอได้ เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ต้องขอบคุณกู้ภัยมาก ๆ ที่มาช่วยเหลือในครั้งนี้เพราะแหวนวงนี้ตนเป็นคนทำให้พ่อมีคุณค่าทางจิตใจมาก ๆ
ด้านนายสุชาญ เพชรลือชา นายกสมาคมประจิมสารคามพุทธศาสตร์สงเคราะห์กล่าวว่าภายหลังจากได้รับการประสานจากเจ้าทรัพย์ว่าผู้ก่อเหตุได้ทิ้งแหวนไว้ที่บริเวณนี้ ก็ได้มีการวางแผนการทำงานเพราะบ่อน้ำกว้างมากพยายามตีกรอบให้เล็กลงจุดที่เจอกับจุดที่ชี้อยู่ห่างกันประมาณ 1 วาค่อย ๆ ตีวงแคบหน้าดินเป็นทรายและโคลนงมหากว่า 1 ชั่วโมงเปลี่ยนกันหามีทีมค้นหา 4 คนสลับกันขึ้นลงจนอากาศในถังอ็อกซิเจนใกล้จะหมดเลยคุยกันในทีมว่าการดำลงไปครั้งนี้จะเป็นล็อตสุดท้ายแล้วที่จะลงไปงมเพราะเหลืออากาศอยู่ประมาณ 10% ซึ่งก่อนจะลงได้ลองโยนก้อนดินเพื่อดูทิศทางและได้ดำลงไปเจอกับก้อนดินก้อนนั้น จึงได้อธิษฐานจิตบอกพระแม่ธรณีพระแม่คงคาขอให้เจอแหวนเพราะหากไม่เจอทางเจ้าทรัพย์จะได้สูบน้ำออกจากบ่อสัตว์น้ำ กุ้งหอยปูปลาในบ่อก็อาจจะตายได้
และได้ขอพรกับพ่อปู่จูมคำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือประจำหน่วยกู้ภัยประจิมบนบานว่าขอให้เจอพอลงไปรอบสุดท้ายวางมือลงที่พื้นน้ำ ก็ปรากฏว่าแหวนสวมเข้ามาที่นิ้วนางข้างซ้ายพอดีเลย ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองฝันจึงได้กำไว้แล้วกระตุกเชือกให้ทีมเซฟตี้ข้างบนดึงตัวขึ้นจากน้ำพอขึ้นมาก็บอกว่าเจอแล้ว ทางพี่เจ้าของที่นอนรออยู่ที่เถียงนาก็ยังไม่เชื่อว่าเจอคิดว่าฝันอยู่พี่เค้าก็นอนต่อจนต้องตะโกนบอกอีกครั้งว่าเจอแล้วจริง ๆ จากนั้นก็ได้มอบแหวนคืนให้กับเจ้าทรัพย์
ด้าน พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบรบือกล่าวว่าผู้ก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้างชื่อ นายวิทวัฒน์ อายุ 27 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ทราบเบื้องต้นว่ามาทำงานกับนายจ้างได้ประมาณ 2 เดือนก่อนที่จะก่อเหตุซึ่งสาเหตุที่ทำลงไปอ้างว่าอยากจะได้เงินไปซื้อของใช้ส่วนตัวโดยผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ลักทรัพย์นายจ้างไปจริง
